วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

กมธ.อุตสาหกรรม บุก "พังงา" ดัน แหล่งแร่ลิเทียม เป็น "ฮับ" ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า

กมธ.อุตสาหกรรม บุก “พังงา” ดัน แหล่งแร่ลิเทียม เป็นอุตสาหกรรมระดับโลก เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยเป็นฮับในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคเอเชียวันที่ ๑๐ มี.ค. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร นำคณะ กมธ. ลงพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อติดตามโครงการสำรวจและผลิตแร่ลิเทียมในการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน โดยมี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา อุตสาหกรรมจังหวัดพังงา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและให้ข้อมูลกับคณะ กมธ. นอกจากนี้ คณะ กมธ. ยังได้ลงพื้นที่เขตแหล่งแร่เรืองเกียรติ ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เพื่อดูสถานที่จริง พร้อมรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้รับอาชญาบัตรสำรวจแร่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ นำโดย นายวิชัช ไตรรัตน์ นายก อบต.กะไหล ได้ชี้แจงรายละเอียดสถานการณ์ปัจจุบันในพื้นที่ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะ กมธ. ให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา อุตสาหกรรมจังหวัดพังงา ตลอดจนผู้อำนวยการอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ในเรื่องการนำแร่ลิเทียม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากเป็นโครงการที่สำคัญ รัฐบาลให้การสนับสนุนในการผลิตเพื่อนำมาป้อนอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า ทั้งนี้ จากการประชุมหารือกับหลายฝ่าย และลงไปดูแหล่งแร่ลิเทียมที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานได้ประกาศเป็นแหล่งแร่ลิเทียมในตำบลกะไหล พบปะกับผู้นำท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าทางจังหวัดพังงามีนโยบายจะทำเหมืองแร่ลิเทียมให้ควบคู่ไปกับการสร้างรายได้ของจังหวัดด้านการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของจังหวัดพังงา เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อจำนวนมาก นายอัครเดช กล่าวว่า คณะ กมธ. ได้รับทราบข้อมูลจากผู้สำรวจเหมืองแร่ที่ได้รับอาชญาบัตรสำรวจแร่ลิเทียม พบว่าใบอนุญาตในการสำรวจขาดอายุความตั้งแต่วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และขณะนี้มีนักลงทุนหลายรายสนใจเข้ามาลงทุนสำรวจแต่ยังติดขัดในข้อกฎหมาย ติดขัดในเรื่องผู้รับสิทธิ์สำรวจกฎหมายไม่อนุญาตให้สำรวจซ้ำซ้อนกันได้ คณะ กมธ. จึงรับข้อร้องเรียนดังกล่าวเพื่อนำกลับมาหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยว เพื่อแก้ไขปัญหาให้การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมต้นน้ำของการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสามารถทำได้จริงตามนโยบายสำคัญที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้คณะ กมธ. จะมาหารือเพื่อแก้ปัญหาต่อไปประธานคณะ กมธ. กล่าวย้ำว่า ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่พวกเขาอยากให้ทางรัฐบาล และส่วนราชการได้สนับสนุนให้มีการสำรวจขุดเจาะแร่ลิเทียมอย่างจริงจัง เพื่อสร้างงานให้กับชุมชน จังหวัด และประเทศ พวกเขามีความเป็นห่วงว่าถ้าทำไม่จริงจัง ในอนาคตเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป แร่ลิเทียมมูลค่าอาจจะลด ขณะที่แร่ลิเทียมมีมูลค่าสูงจึงอยากให้รัฐบาลสำรวจขุดเจาะ เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชน และสร้างรายได้ให้กับประเทศ ประชาชนไม่ได้คัดค้านแต่เป็นห่วงว่าในระหว่างที่ดำเนินโครงการต้องทำ CSR และควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชุมชนและแหล่งท่องเที่ยว “การขุดเจาะสำรวจแร่ลิเทียมทราบว่ามีหลายจังหวัด ในจังหวัดราชบุรีก็มีการสำรวจ ของจังหวัดพังงาได้ดำเนินการมา ๓ ปีแล้ว สำรวจขุดเจาะได้กว่า ๒๐๐ หลุม มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากพอสมควรว่าสามารถทำเป็นอุตสาหกรรมเปิดเหมืองนำแร่ลิเทียมมาผลิตเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างคุ้มค่าการลงทุน อย่างไรก็ตาม คณะ กมธ. จะนำข้อมาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรม ในการเร่งและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ต่อไป” นายอัครเดช กล่าว