“ครูมานิตย์” สส.สุรินทร์ เพื่อไทย รับ จำเป็นเป็นองครักษ์พิทักษ์ “ทักษิณ” ชี้ เวทีนี้ ร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณปี ๖๗ ไม่เกี่ยวข้องเจ็บป่วยทักษิณ เชื่อสภาแยกแยะออก เว้น “จุรินทร์” ชี้ ผิดคาด อภิปรายวันแรกเงียบเหงา เมื่อเวลา ๐๘.๕๐ น. วันที่ ๔ ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๓ ม.ค. ที่ผ่านมาว่า ตนมองว่าผิดคาด ตอนแรกคิดว่า พรรคก้าวไกลจะอภิปรายออกนอกจอ แต่ปรากฏว่าส่วนใหญ่เป็นเชิงวิชาการ ไม่ว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่ก็มีออกไปบ้าง เป็นวาทกรรมเล็กๆ น้อยๆเมื่อถามว่า การอภิปรายวันแรกถือว่าเงียบเหงาหรือไม่ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นายครูมานิตย์ กล่าวว่า แน่นอน เพราะเที่ยวที่ผ่านมาเปรียบเสมือนสงครามกลางสภา ระหว่าง ๓ ป. กับพวกตนที่อยู่พรรคเพื่อไทย และมีพรรคก้าวไกลมาร่วมด้วย มันเป็นเหมือนฝ่ายตรงกันข้ามอย่างชัดเจน อาจบู๊กันตั้งแต่เรื่องงบประมาณไปจนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่เรื่องแปลกในสมัยที่แล้วเมื่อถามว่า วันที่ ๓ ม.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง กำชับอะไรกับ สส.ของพรรคหรือไม่ นายครูมานิตย์ ตอบว่า แทบจะคุยตลอด เพราะตนได้รับมอบหมายให้เป็นคนดูแล สส.ของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ท่านนายกฯ ก็อยู่ที่ชั้นเอ็ม ๑ ได้คุยกับ สส.ตลอด แต่ท่านไม่ได้กังวลเรื่องในสภา บางช่วงโอกาสก็ให้ สส.พรรครัฐบาลหรือฝ่ายค้านไปพบเป็นการส่วนตัวที่ห้อง เพื่อนำปัญหาในพื้นที่ไปหารือเมื่อถามการอภิปรายเกือบมีการพาดพิงถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วันนี้คาดว่าจะมีอีกหรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า คิดว่าวันนี้ในสภาเขาแยกแยะออก ยกเว้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตนลุกขึ้นประท้วงเพราะมองว่า นายจุรินทร์ เป็นนักการเมืองอาวุโส หากเป็น สส.รุ่นใหม่ ไปอภิปรายตนก็ไม่ค่อยซีเรียส ตนเห็น นายจุรินทร์ เริ่มต้นมาตั้งแต่สีถุงเท้าแล้ว คนเคยเป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีมาไม่กี่กระทรวง มาอภิปรายเรื่องถุงเท้าแล้วพยายามออกนอกกรอบเป็นสไตล์เดิมๆ แต่ก็อยากให้ นายจุรินทร์ อภิปรายแบบนี้ไปเรื่อยๆ เป็นสไตล์ของตนไม่อยากไปก้าวล่วงในพรรคของเขา เพียงอยากเตือนว่า เรื่องเช่นนี้ถ้าอยากอภิปรายมีเวทีอยู่ แต่เวทีนี้ไม่เกี่ยวข้องเลยกับความเจ็บป่วยของ นายทักษิณ ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งจริงๆ แล้ว คนป่วยที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์อยู่ในลักษณะนี้จำนวนมาก แต่ท่านพยายามลากมาเมื่อถามว่า ไม่ใช่ลุกประท้วงเร็วไปใช่หรือไม่ เพราะ นายจุรินทร์ ก็ยังไม่ได้เอ่ยชื่อออกมา นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ยอมรับว่าเร็วไปนิดหนึ่ง ตนคิดว่าประท้วงไว้ก่อน แต่เข้าใจว่าจะมีรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเป็นคนออกมาชี้แจงต่อ เพราะรับผิดชอบโดยตรง แต่ตนเป็น สส. ไม่ใช่เสนาบดีกระทรวงยุติธรรมtt ttเมื่อถามว่า จะถูกทำให้มองว่าเป็นองครักษ์หรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง แน่นอนที่สุดในความเป็นพวกตน โดยเฉพาะตนที่มาจากผู้แทนไทยรักไทย มี นายทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค และอยู่ในพรรคนี้มาจนถึงยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พวกท่านเป็นคนที่ตนเคารพนับถือ ก็พยายามเรียกร้องหาความเป็นธรรม ๑๗ ปี ที่ นายทักษิณ อยู่ต่างประเทศ มีพรรคการเมืองเรียกร้องความเป็นธรรมให้ท่านหรือไม่ ตอนที่ท่านอยู่ต่างประเทศ ก็ด่าซ้ำเติมมาโดยตลอด วันนี้ท่านกลับมาไทย ยอมรับในกติกา เพียงแค่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ท่านไม่สบาย ท่านป่วย และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำเรื่องถูกต้องในการเข้าโรงพยาบาล แต่ถึงเวลาหนึ่งก็พยายามพายเรือลากเข้ามาในสภา ตนว่าไม่ยุติธรรมที่นักการเมืองอาวุโสอย่าง นายจุรินทร์ จะลากเข้ามา ถามว่า ตนเป็นองครักษ์หรือไม่ ตอบแบบไม่อายเลยว่า บางครั้งมีความจำเป็น เพราะ นายทักษิณ เป็นคนทำให้ตนมายืนตรงนี้เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย จะทำอย่างไรให้เรื่อง นายทักษิณ ไม่เป็นที่คลางแคลงใจของประชาชน นายครูมานิตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา ตนตอบแทนไม่ได้ เมื่อถามว่า หากมีการพาดพิงเรื่อง นายทักษิณ ก็จะลุกขึ้นประท้วงอีกใช่หรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ไม่ใช่เชิงประท้วง แต่ต้องชี้แจงข้อคิดเห็นกันหน่อยเพื่อให้สังคมเข้าใจ เพราะการพูดฝ่ายเดียวโดยไม่มีใครชี้แจงก็อาจทำให้สังคมสับสน เรื่องนี้ตนต้องลุกขึ้นชี้แจงอยู่แล้ว เพียงแค่เมื่อวันที่ ๓ ม.ค. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ให้เวลาตนน้อยไป แต่เข้าใจว่า รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม ก็จะมาชี้แจง ตนบอกแล้วว่าอะไรที่ไม่เกี่ยวกับงบประมาณอย่าเอาเข้ามา มีเรื่องเยอะแยะเกี่ยวกับงบประมาณ แต่ทำไมต้องลากเรื่องนี้เข้ามาคนเดียวเป็นการเจาะจง ซึ่งไม่มีอะไรแล้ว ท่านก็ไม่ได้มาเล่นการเมืองนานแล้ว ตนอยากให้ความเป็นธรรมกับท่าน แต่ใครจะมองอย่างไรก็เรื่องของเขา”ผมคิดว่านายกฯ ทักษิณ ถูกกลั่นแกล้ง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ วันนี้ เรื่องย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี วันก่อน ตัดสินว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ ย้าย นายถวิล โดยไม่เป็นธรรม มีคำพิพากษาจากศาลปกครองออกมา แต่วันนี้ศาลฎีกานักการเมืองกลับมาบอกว่า เป็นความชอบธรรม สามารถย้ายข้าราชการเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในการทำงานได้ ถามว่า วันนี้ใครช่วยอะไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หรือไม่ เขาโดนไปแล้ว แล้วต้องอยู่ต่างประเทศ ในขณะที่วันนั้นมีการไล่ล่า แต่วันนี้บอกว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบของผู้บังคับบัญชา แต่ยุคหลังก็มีการย้ายเยอะแต่ไม่มีปัญหา ใครเรียกร้องเรื่องนี้ให้ คุณยิ่งลักษณ์ บ้าง” นายครูมานิตย์ กล่าว…