คลินิกช่วยเจริญพันธุ์ต้องขออนุญาต

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ จำนวน ๑๑๕ แห่ง เป็นสถานพยาบาลภาครัฐ ๑๗ แห่ง สถานพยาบาลภาคเอกชน ๙๘ แห่ง ซึ่งเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ของประเทศไทยนั้นมีความก้าวหน้าและทันสมัยอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก มีอัตราความสำเร็จในการให้บริการตั้งครรภ์โดยเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ ๔๘.๕๓ จึงเป็นจุดดึงดูดให้คู่สามีภรรยาที่ประสงค์จะมีบุตรทั้งชาวไทยและต่างชาติ เลือกเข้ารับบริการจากสถานพยาบาลของประเทศไทย นพ.สุระกล่าวต่อว่า การจะให้บริการเทค โนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ได้แก่การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หรือการตั้งครรภ์แทน จะต้องดำเนินการตามมาตรฐานที่ภาครัฐกำหนด เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ โดยสถานพยาบาลที่มีความประสงค์จะให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ จะต้องยื่นแบบคำขอรับรองมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (คทพ.๘) กับ สบส. โดยหนังสือรับรองมาตรฐานฯ จะมีอายุ ๓ ปี หากสถานพยาบาลแห่งใดฝ่าฝืนไม่ขอรับรองมาตรฐานฯ ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลจะเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๓๔ (๒) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและแพทย์ผู้ให้บริการจะมีความผิดด้วย.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่