วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

คลิป "แป้ง นาโหนด" พ่นพิษเด้ง "อัยการบอย" เข้ากรุ ธนกฤต วิ่งรอกร้องทุกข์แทน (คลิป)

30 พ.ย. 2023
68

อัยการสูงสุดมีคำสั่งย้าย “อัยการบอย” เข้ากรุ หลังเสี่ยแป้งถ่ายคลิปแฉถูกกลั่นแกล้งไม่ให้ประกันตัว และพัวพันรีดเงิน 5 แสนบาท “ธนกฤต” เป็นตัวแทนรับเรื่องร้องทุกข์คลิปแป้งยื่นต่อกระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนศาลชั้นต้นเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีเสี่ยแป้งพยายามฆ่าตำรวจ ขณะที่ชุดไล่ล่าทลายเครือข่ายรวบ 4 ผู้ต้องหาช่วยเหลือนักโทษหนีลงจากเทือกเขาบรรทัดตำรวจปฏิบัติการไล่ล่านายเชาวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด อย่างต่อเนื่องมาแล้วกว่า 23 วัน แต่ยังไร้วี่แวว ส่วน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งขยายผลนำนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งของ จ.พัทลุง เป็นผู้นำเสี่ยแป้งหลบหนีออกนอกพื้นที่ลงจากเทือกเขาบรรทัดมาสอบสวน ขณะที่เสี่ยแป้งถ่ายคลิปเผยแพร่ออกมา 2 คลิประบายความในใจพาดพิงถึงอัยการรายหนึ่งรีดไถเงิน และไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นสาเหตุต้องหนีคดีความคืบหน้าช่วงสายวันที่ 30 พ.ย. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ที่เรียกร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดให้ตรวจสอบกรณีคลิปของ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” อ้างว่าเกี่ยวข้องกับอัยการเรียกรับสินบน 5 แสนบาท และกรณีพาดพิงถึงอัยการบอย มีนายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกอัยการสูงสุด นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองโฆษกฯ เป็นผู้รับหนังสือนายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เรื่องที่นายแป้งเผยแพร่คลิปพาดพิงถึงอัยการในพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 9 นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตรวจสอบมาก่อนหน้านี้ เรื่องดังกล่าวอัยการสูงสุดเคยรับเรื่องจากผู้ที่นำหนังสือดังกล่าวไปวางไว้ที่ศาลแขวงจังหวัดสงขลาให้ตรวจสอบ ก่อนที่จะมีคลิปเผยแพร่ออกมาในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นอัยการสูงสุดตรวจสอบทันทีพบว่านายเลอศักดิ์ ดุกสุขแก้ว อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการตำแหน่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คาดว่าเป็นการยื่นหนังสือจากบุคคลที่สามหรือผู้ไม่หวังดี สอดคล้องกับที่นายแป้งเผยแพร่คลิปว่าไม่ได้เป็นผู้ร้องเรียนอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลานายประยุทธเผยอีกว่า ส่วนนายพงศ์พิพัฒน์ เกิดเทพ หรืออัยการบอย หลังจากที่อัยการสูงสุดสั่งสำนักงานวิชาการให้รับสำนวนคดีนายแป้งที่กล่าวหาอัยการบอยมาตรวจสอบเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวน ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ย. อัยการสูงสุดมีคำสั่งย้ายอัยการบอยเข้ามายังสำนักงานอัยการการค้ามนุษย์ ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับงานคดี ยืนยันว่าการสั่งย้ายไม่ได้หมายความว่าอัยการบอย มีความผิด แต่ย้ายเพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปด้วยความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน การตรวจสอบมี 2 สำนวน กรณีเสี่ยแป้งเป็นโจทก์ยื่นฟ้องตำรวจชุดจับกุม 8 นาย พลเรือน 1 นาย ในกรณีอุ้มรีดทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยวแลกกับการไม่ดำเนินคดีนั้น ขณะนี้พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 13 ก.ย.66 และอยู่ระหว่างนัดนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาฟ้องพร้อมสำนวนในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157, กักขังหน่วงเหนี่ยว และข้อหาอื่นๆรวม 10 ข้อหานายประยุทธเผยเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนประเด็นเสี่ยแป้งอ้างว่าอัยการเรียกรับผลประโยชน์เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ในส่วนข้อกล่าวหาจะต้องรอคณะกรรมการที่อัยการสูงสุดตั้งขึ้นมาตรวจสอบในประเด็นที่เสี่ยแป้งร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม อัยการจะชี้แจงถึงผลการสอบสวนอีกครั้ง ส่วนจะสั่งย้ายอัยการที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่นั้น มองว่าเรื่องนี้ยังไกลไปที่จะมีคำสั่ง จะให้เหมือนการสั่งย้ายอัยการบอยไม่ได้ ส่วนการที่สังคมทำไมต้องเชื่อจากจดหมายร้องเรียนของเสี่ยแป้งแล้วถึงลงไปตรวจสอบยืนยันว่าไม่ใช่แบบนั้น แต่มองว่าการตรวจสอบหากมีคนท้วงติงในเรื่องสั่งคดี อีกทั้งเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ อัยการสูงสุดให้ความสำคัญที่จะต้องทำให้มันโปร่งใสเพื่อตอบกลับสังคมให้ได้นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นำหนังสือร้องเรียนมอบ อสส.โดยตรงเพราะหากรอขั้นตอนปกติจะใช้เวลานานกว่า และฝากบอกนายแป้งว่าขอให้เดินทางมาให้การประกอบหนังสือร้องเรียนเพื่อให้มีน้ำหนักและเข้าสู่การสอบสวน ไม่เช่นนั้นจะต้องให้รอนายแป้งทำคลิปหน้าหรืออย่างไร ถ้าจะมอบตัวติดต่อผ่านตนได้ พร้อมจะให้หน่วยของกรมสอบสวนคดีพิเศษอารักขาต่อมานายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เดินหน้าเป็นตัวแทนนำเรื่องร้องทุกข์นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด”  ยื่นร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นหน่วยงานที่ 3 หลังจากเมื่อช่วงเช้าไปยื่นเรื่องร้องต่อกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานอัยการสูงสุดมาแล้ว นายธนกฤตเผยว่า ประเด็นที่มาร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ตรวจสอบ เนื่องจากในคำร้องของเสี่ยแป้งอ้างว่ามีตำรวจ 3 นาย ยศ พ.ต.ท. และ ด.ต. 2 นาย รวมถึงตำรวจชุดจับกุมอีก 1 กลุ่ม เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินจากนายแป้ง อ้างอิงหลักฐานเป็นบัญชีธนาคารและเส้นทางการเงินที่มีการถอนเงินออก เพื่อนำไปส่งมอบให้กับตำรวจกลุ่มดังกล่าว แลกกับการที่นายแป้งจะไม่ต้องถูกดำเนินคดีมายื่นประกอบเป็นหลักฐานให้กับ สตช.มี พล.ต.ต.ณพวัฒน์ อารยางกูร รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนรับหนังสือพล.ต.ต.ณพวัฒน์กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กำชับให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างเต็มที่ในทุกมิติที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ ผบ.ตร.สั่งให้จเรตำรวจตั้งคณะทำงานตรวจสอบเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบและจะรายงานผลให้ทราบภายใน 15 วัน แต่หากไม่แล้วเสร็จจะขยายเวลาตามความเหมาะสมที่ศาลจังหวัดพัทลุง ศาลชั้นต้นเลื่อนอ่านคำพิพากษาของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด ตามฐานความผิดพยายามฆ่าตำรวจรายหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2562 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.รางหมู่ อ.เมืองพัทลุง เป็นวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 09.00 น. นอกจากนี้ ศาลจังหวัดพัทลุงออกหมายจับนายเชาวลิตเพิ่มอีก 1 คดี ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุงที่ จ.498/2566 ลงวันที่ 24 พ.ย.2566 ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแบบที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชนการออกหมายจับดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุยิงปืนบนถนนสายคลองหมวย-โหล๊ะจังกระ หมู่ 5 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 17 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บปลอกกระสุน 9 มม. และ 5.56 มม. รวม 9 ปลอก จากการตรวจสอบปลอกกระสุนพบตรงกับปลอกกระสุนที่เสี่ยแป้งก่อเหตุยิงปะทะกับตำรวจบนเทือกเขาบรรทัดเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนั้นมีรายงานว่า ปลอกกระสุนดังกล่าวยังไม่ตรงกับคดีฆ่าผู้อื่นในพื้นที่ สภ.โคกชะงาย อ.เมืองพัทลุงtttt ttttttttconst jwplayer1 = jwplayer(“cover_jwplayer_ct3WNiiy”).setup({tttt    “playlist”: “https://cdn.jwplayer.com/v2/media/ct3WNiiy” tttt});ttttภายหลังเสี่ยแป้งถ่ายคลิปแฉออกมาแล้ว 2 คลิป ล่าสุดเสี่ยแป้งถ่ายคลิปชุดที่ 3 ออกมาเผยแพร่ ถ่ายในห้องพักเหมือนกับคลิปที่ 2 ระบุเนื้อหาว่า เรื่องของศาลอยากกราบเรียนประธานศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นจังหวัดพัทลุง ผมเป็นคนเดียวเพราะไม่ได้รับการประกันตัว คนอื่นทำไมได้ประกัน สาเหตุอะไรที่ได้ประกัน ผมถูกกลั่นแกล้งใช่ไหม มีปัญหากับเจ้าหน้าที่รัฐ อยากถามว่าวงเงินให้เขาประกันตัว ผมทำธุรกิจซื้อรถ มีอู่ซ่อมรถ ไม่ได้ส่งคืนรถให้ลูกค้า ธุรกิจต้องเจ๊ง ถามว่าทำไมวงเงินท่านกำหนดมาเลยเพื่อให้เขาพิจารณาในการสู้คดี ผมไม่อยากหนีหรอกครับ ท่านว่ามาเลยวงเงินเท่าไหร่ หรือกำหนดอยากให้ผมประกันได้ว่ามาเลยวงเงิน 10 ล้าน 100 ล้านบาท ถ้าผมหามาได้เอาเลยครับ ติดอีเอ็มก็ยอม ผมเครียดหมดแล้วเสี่ยแป้งยังระบายความในใจอีกว่า ถ้าคดีค้าอาวุธสงครามไม่ให้ประกัน ท่านบอกมาเลยว่าคดีนี้ห้ามประกันตัวเนื่องจากว่าใช้อาวุธสงครามในการเข่นฆ่าผู้อื่น กำหนดเลยยาเสพติดไม่ให้ประกันให้ชัดเจนเลยครับ ไม่ใช่คดีที่ไปทุบหัวตำรวจไม่ให้ประกัน ผมวิ่งไปช่วยจับนึกว่าคนร้าย แต่ถ้าเป็นคนอื่นช่วยอาจจะไม่เป็นไร เพราะเป็นพลเมืองดี แต่แป้งช่วยกลายเป็นผู้ต้องหาครับ ผมเลยไม่กล้าช่วยใครเพราะแป้งเป็นผู้ต้องหา ผมอยากให้แคร์ข้อนี้กัน ถ้าผมผิดพลาดกล่าวถึงท่านเสียหายขอกราบประทานโทษ แต่เป็นความอึดอัดใจจากใจผมจริงๆครับ และผมว่าพี่น้องทุกคนต้องรู้ ต้องรับทราบ ขอกราบประทานอภัยโทษครับขณะที่ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.ณฐกรณ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จ.พัทลุง สนธิกำลังนำหมายค้นของศาลจังหวัดพัทลุงเปิดปฏิบัติการจู่โจมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายหลายจุดในพื้นที่ จ.พัทลุง ตรวจยึดปืน HK 33 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 142 นัดฝังดินไว้บริเวณชายป่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ส่งปืนให้ พฐ.ตรวจเพื่อเปรียบเทียบว่า เป็นกระบอกเดียวกันกับเสี่ยแป้งยิงปะทะกับตำรวจหรือไม่ นอกจากนี้ ค้นบ้านเลขที่ 401 หมู่ 1 ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เป็นบ้านนายทนงศักดิ์ หรือต้อ เพชรตีบ อายุ 50 ปี น้องชายกำนันตุ้ม ป่าบอนกำนันชื่อดัง จ.พัทลุง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ตะโหมด พร้อมกับลูกน้องอีก 3 คน ชื่อนายอัชฮัร หมัดสาลี อายุ 30 ปี นายสืบศักดิ์ แสงจันทร์ อายุ 38 ปี และนายสุรเชษฐ์ จันเขียว อายุ 39 ปี ช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนี ทั้ง 4 คนยังให้การปฏิเสธพล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนของชุดคลี่คลายคดีพบว่า มีกลุ่มบุคคลในพื้นที่ จ.พัทลุง ให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนีลงจากเทือกเขาบรรทัด แบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ในข้อหาให้การช่วยเหลือผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดๆเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่