“ศรัทธา” หมายถึงความเชื่อถือ น่าเลื่อมใส น่าเคารพยกย่อง…“หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม” ท่านกล่าวไว้ในเรื่อง “๑๐ วิธีใช้หนี้พ่อแม่” ทำแล้วชีวิตเจริญ (www.sanook.com) ดังนี้หนึ่ง…จงสร้างความดีให้กับตัวเอง เท่ากับเป็นการใช้หนี้ตัวเอง “ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน…บางคนรังเกียจแม่ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก”สอง…ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้วก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐานแล้วอุทิศส่วนกุศลไป การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุดทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับฯสาม…ผู้ใดก็ตามที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่านจะได้มั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่านก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม ล้างเท้าให้ท่านด้วยเป็นการขอขมาลาโทษtt ttสี่…ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี…จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อนคือถอนคำพูด ไปขอขมาลาโทษเสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ห้า…บางคนลืมพ่อลืมแม่ อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดี ขอบิณฑบาต สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลังดำน้ำไม่โผล่หก…คนที่มีบุญวาสนาจะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้…คนไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปีก็ไม่ได้อะไร? ถ้าไม่ขออโหสิกรรมขออโหสิกรรมที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไม่ดีกับพี่ๆน้องๆจะไม่เอาอีกแล้ว เอาน้ำไปขันหนึ่ง เอาดอกมะลิโรย…กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส อันว่าโทษทัณฑ์ใด ความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและ ลับหลัง……ขอให้คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คุณพี่คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย แล้วเอาน้ำรดมือรดเท้านี่แหละท่านทั้งหลายเอ๋ยเป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากมาย ยังจะไปทวงนาทวงไร่ ทวงตึก มาเป็นของเราอีกหรือ ตัวเองก็พึ่งตัวเองไม่ได้ สอนตัวเองไม่ได้ เป็นคนอัปรีย์จัญไรในโลกมนุษย์ไปทวงหนี้พ่อแม่ พ่อแม่ให้แล้ว (ให้ชีวิต ให้…ให้… ให้…ฯลฯ) เรียนสำเร็จแล้ว ยังช่วยตัวเองไม่ได้ มีหนี้ติดค้าง รับรองทำมาหากินไม่ขึ้น“หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่ เหลือจะนับประมาณ นั่นคือหนี้บุญคุณของบิดามารดา”@@@@@@ทำแล้วชีวิตเจริญข้อที่ เจ็ด…ลูกหลานโปรดจำไว้เมื่อแยกครอบครัวไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่ ถึงวันว่างเมื่อไรต้องไปหาพ่อแม่ ถึงวันเกิดของลูกหลาน อย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ลฯแปด…ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลนามไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะชื่อเป็นเพียงนามสมมติแทนตัวเรา อย่างหลวงพ่อชื่อจรัญ ปู่ตั้งให้ หมอดูบอกเป็นกาลกิณี แต่ทำไมเจริญรุ่งเรือง ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าทำดีได้ดีเก้า…ของดี ของปู่ ย่า ตา ยาย อย่าไปทำลายเลย ของพ่อแม่อย่าไปทำลายนะ หนีได้แน่นอน โยมมีกรรมฐาน มีทรัพย์ มีชื่อเสียง ความรัก บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง ความรักของพ่อแม่ได้… “เงินจะไหลนอง ทองจะไหลมา” พ่อแม่ให้อะไรเอาไว้ก่อน อย่าไปทำลายเสีย…ถึงจะเป็นถ้วยพ่อแม่ให้มาก็ไว้เป็นที่ระลึกก็ยังดี อย่าเอาไปทิ้งขว้างtt ttสิบ…ถ้าต้องการเจริญก้าวหน้าขอฝากไว้ด้วย คนเรามีสองก้าว…จะ “ก้าวขึ้น” หรือ “ก้าวลง” ดำน้ำไม่โผล่ “ก้าวลงมันง่ายดี ก้าวขึ้น มันต้องยาก ของชั่วมันง่าย หลั่งไหลไปตามที่ต่ำ” นี่บอกสอนลูกหลานต้องการจะบรรจุงานไม่ต้องไปวิ่งเต้น ดูลูกเสียก่อน กุศลเพียงพอหรือเปล่า ต้องเพิ่มกุศลตัวอย่างเรียนจบครู สวดมนต์เข้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นครู ทำงานธนาคารก็ได้ บริษัทก็ได้เดี๋ยวมีคนรับ บางรายทั้งสอบทั้งสมัครหลายแห่งไม่เคยเรียกเลย อาตมาให้นั่งกรรมฐาน พอ ๗ วันผ่านไป พวกมาตามให้เข้าไปทำงานแล้ว“อานิสงส์ผลบุญนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว”“ใครรักเรามากที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร ใครที่คอยเป็นห่วงเรามากที่สุด นี่คือความรักที่แท้จริงยั่งยืน สุดจะเปรียบได้…เมื่อบุตรผู้กตัญญูได้ดูแลเลี้ยงดูปรนนิบัติ ทำสิ่งต่างๆให้…ด้วยใจบริสุทธิ์ แล้วใยเล่าจะไม่ได้พรอันประเสริฐจากพ่อแม่ที่เราได้ปรนนิบัติ”tt tt เมื่อทำบุญนอกบ้านแล้วก็อย่าลืมสั่งสมบุญกับพระในบ้านท่านด้วย ด้วยทั้ง “พ่อ”…“แม่”…ครอบครัวของเรานั้นสำคัญยิ่ง เป็นผู้มีพระคุณสุดที่จะประมาณได้ ทั้งเลี้ยงดู เอาใจใส่ เกื้อหนุนเราอยู่ทุกวี่วันทำบุญกับพระในบ้านก็คือการเลี้ยงดูพ่อแม่ ครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำบุญกับผู้มีพระคุณของเรา คนที่ช่วยเหลือเกื้อกูลเรา…เมื่อมีโอกาสเราก็ควรตอบแทนผู้มีพระคุณเหล่านั้น อย่าได้รีรอ@@@@@@หลักธรรมทิศ ๖ ในพระพุทธศาสนา ให้ถือ “บิดามารดา” เป็นทิศเบื้องหน้า ที่ควรแก่ปฏิบัติดีต่อท่าน เลี้ยงดูแลตามกำลังความเหมาะสมเปรียบเสมือนพระอรหันต์ในบ้าน จึงนิยมสวดคาถา “บูชาพ่อแม่”คาถาบูชาบิดามารดา (แบบยาว) ตั้งนะโม ๓ จบ อิมินาสักกาเรนะ ข้าขอกราบสักการะ บูชาอันพระบิดรมารดา ตัวข้าขอน้อมระลึกคุณ ท่านมีเมตตาการุณ อุปการคุณต่อบุตรธิดา ท่านให้กำเนิดลูกมา ทั้งการศึกษาและอบรม ถึงแม้ลำบากขื่นขม ทุกข์ระทมสักเพียงใด ท่านไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งใดที่ได้เลี้ยงมาtt ttพระคุณท่านล้นฟ้ายิ่งกว่าธาราและแผ่นดิน ข้าขอบูชาเป็นอาจิณ ตราบจนสิ้นดวงชีวา ขอปวงเทพไท้รักษา อันพระบิดรมารดาของข้าเทอญ“ศรัทธา”…นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้…“ลบหลู่”.รัก-ยมคลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิมเติม
เรื่องที่เกี่ยวข้อง