เมื่อคํ่าวันที่ ๒ มกราคม หลังฉลองปีใหม่ได้วันเดียวก็มีข่าวเผยแพร่ไปทั่วสื่อออนไลน์ต่างๆอย่างรวดเร็วว่า ศาสตราจารย์คุณหญิงนงเยาว์ ชัยเสรี อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว เวลา ๒๐.๑๘ น. ณ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ สิริอายุ ๘๘ ปีผมตั้งใจจะเขียนถึงท่านตั้งแต่วันทราบข่าววันแรก แต่ก็ติดพันด้วยความจำเป็นที่จะต้องเขียนถึงเรื่องราวตามกรอบที่คอลัมน์วางไว้บ้าง และตามความจำเป็นที่ผมยังเขียนเรื่องบางเรื่องค้างคาไว้บ้าง จะต้องจบเรื่องเหล่านั้นเสียก่อน เพิ่งจะได้โอกาสเขียนถึงในวันนี้เองโดยส่วนตัวผมมีโอกาสรู้จักคุณหญิงนงเยาว์ในแบบรู้จักข้างเดียว ตั้งแต่ท่านยังรับราชการอยู่ที่สภาพัฒน์ ก่อนที่ท่านจะขอโอนย้ายเมื่อปี ๒๕๐๗ ไปเป็นอาจารย์ประจำที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะที่ท่านเคยเรียนจบปริญญาตรีได้เกียรตินิยมดีมาก และได้ประกาศนียบัตรชั้นสูงทางการบัญชี ก่อนจะเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกานั่นเองผมยังจำได้ถึงลีลาการนำเสนอเรื่องราวต่อที่ประชุมของท่านต่อกรรมการชุดต่างๆของสภาพัฒน์ ด้วยนํ้าเสียงที่ฉาดฉาน คล่องแคล่ว ชวนให้ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ไปจนถึงลีลาการตอบคำถามเวลากรรมการซัก อย่างสั้นๆ ง่ายๆ เข้าใจได้ทันทีไม่มีเยิ่นเย้อ เป็นต้นแบบในการนำเสนอต่อที่ประชุมของชาวสภาพัฒน์มาตั้งแต่่ยุคโน้นต่อมาหลายปีเมื่อคุณหญิงนงเยาว์ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งอธิการบดีช่วงแรกๆ พ.ศ.๒๕๒๕ ผมก็ได้รับมอบหมายจากสภาพัฒน์ให้ไปประสานงานกับท่านที่ธรรมศาสตร์ เพื่อก่อตั้ง ศูนย์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาชนบทขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นใน พ.ศ.นั้นยังจำได้ว่าท่านเอ่ยขึ้นก่อนว่า พี่ก็เคยเป็นศิษย์เก่าสภาพัฒน์เหมือนกันนะ ซึ่งผมก็ตอบทันทีว่า ผมทราบครับ และถือโอกาสขยายความด้วยว่าผมยังจำได้ถึงลีลาการนำเสนอเรื่องราวในที่ประชุมของท่าน และ ขออนุญาตนำไปใช้บ้าง เวลาจะต้องเข้าเสนอรายงานต่อที่ประชุมต่างๆจากนั้นผมกับท่านก็ถือได้ว่าเป็นคนรู้จักกัน และในที่สุดก็สนิทสนมกันเรียกพี่เรียกน้อง ตามประสาศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ด้วยกันมาตลอดเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าคุณหญิงนงเยาว์เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญที่สานงานต่อจากท่านอาจารย์ ด็อกเตอร์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ในการโยกย้ายหลายๆ คณะของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากท่าพระจันทร์ที่เริ่มคับแคบลงไปอยู่ที่ศูนย์รังสิตซึ่งมีเนื้อที่กว้างขวางกว่ามากนอกจากนี้ ท่านยังเห็นว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ควรจะเปิดการเรียนการสอนในภาควิชาต่างๆให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีการจัดตั้งคณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ และพยาบาลศาสตร์ ฯลฯ ตามมารวมทั้งการจัดตั้ง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๙ และได้กราบบังคมทูลเชิญในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จมาทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อ ๓ พฤศจิกายน๒๕๒๙ พร้อมพระราชทานชื่อให้แก่โรงพยาบาลว่า “โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ” ก่อนเปิดให้บริการประชาชนครั้งแรกเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๑ เป็นต้นมาในช่วงนี้เองที่ผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณหญิงนงเยาว์อย่างใกล้ชิดมากขึ้น เมื่อได้รับเชิญให้ไปช่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติติดต่อกันหลายปีต้องขอกราบขอบพระคุณคุณหญิงนงเยาว์ ชัยเสรี ผู้เป็นแม่ทัพหลักของชาวธรรมศาสตร์ ในการเคลื่อนย้ายมาอยู่ทุ่งรังสิตและเป็นผู้บุกเบิกวิชาด้านวิทยาศาสตร์จนเกิดคณะแพทย์ คณะทันตฯ คณะพยาบาล และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติขึ้นในที่สุดขอบคุณในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านอุทิศตนให้แก่ธรรมศาสตร์ และแน่นอนย่อมหมายถึงเป็นการอุทิศตนให้แก่ประเทศชาติด้วย ในฐานะที่ธรรมศาสตร์เป็นสถาบันหลักสถาบันหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและการเมืองของประเทศไทยมาเป็นเวลายาวนานกว่า ๘๙ ปีการสวดพระอภิธรรมให้แก่ ศาสตราจารย์คุณหญิงนงเยาว์ ชัยเสรี ณ ศาลา สารัชถ์–นลินี รัตนาวะดี วัดพระศรีมหาธาตุ ยังมีตั้งแต่วันนี้ (พุธที่ ๑๐ มกราคม) เวลา ๑๘.๐๐ น. ไปจนถึงวันเสาร์ที่ ๑๓ มกราคม เวลาเดียวกันจากนั้นจะมีพิธีพระราชทานเพลิง ณ เมรุ ๒ วัดพระศรีมหาธาตุ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๔ มกราคม เวลา ๑๖.๐๐ น.ขอดวงวิญญาณของหญิงแกร่ง “เหลืองแดง” รุ่นพี่ผู้เป็น “ไอดอล” ของผมมาตลอดท่านนี้ จงเป็นสุข ณ สัมปรายภพตราบกาลนิรันดร์.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม
เรื่องที่เกี่ยวข้อง