เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม๖๗ ผู้สื่อข่าวรายงานในการประชุมสภา กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้เสนอร่างข้อบัญญัติ กทม.เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๗ พ.ศ. … โดยนายชัชชาติได้รายงานสถานะการเงินการคลังของ กทม. ณ วันที่ ๑๖ มกราคม๖๗ ภาระหนี้ตามโครงการต่อเนื่องที่ได้ก่อหนี้ผูกพันแล้ว และเงินสะสมที่ปลอดภาระผูกพัน ณ วันที่ ๑๖ ม.ค. ๖๗ จำนวน ๕๑,๘๐๔.๒๒ ล้านบาท ด้วย กทม.ต้องรับมอบทรัพย์สินระบบเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ ๒ และชำระค่างานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ตามโครงการดังกล่าว จึงเสนอสภา กทม.ให้ความเห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสมจำนวน ๒๓,๔๘๘,๖๙๒,๒๐๐ บาท ทั้งนี้ที่ประชุมสภา กทม.มีมติเห็นชอบหลักการ และตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกทม. เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๗ พ.ศ. … จำนวน ๒๓ คน กำหนดเวลาแปรญัตติ ๓ วันทำการ และกฎหมายได้กำหนดไว้ให้คณะกรรมการวิสามัญฯ ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๔๕ วัน นับตั้งแต่วันที่สภา กทม.ได้รับร่างข้อบัญญัติเป็นครั้งแรก หรือวันที่ ๘ มีนาคมนี้นายชัชชาติกล่าวหลังการประชุมว่า สภากทม.ได้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญฯ ซึ่งคงจะเร่งรัดให้พิจารณาได้เร็วตามกฎหมายใน ๔๕ วัน แต่คาดว่าจะเร็วกว่านั้น แล้วนำเข้าสภา กทม.ในวาระสองและวาระสาม ทั้งนี้ กทม.จะต้องหารือเคทีและเอกชนเพื่อสรุปตัวเลขความรับผิดชอบต่างๆให้ละเอียดถี่ถ้วน ส่วนจะจ่ายหนี้เป็นก้อนรวมทั้งหมดหรือแบ่งจ่ายต้องดูรายละเอียด ซึ่งทางสำนักการคลังจะเป็นผู้จัดการ คิดว่าสามารถจ่ายหนี้ก้อนนี้ได้ทันงวดเดือน เมษายนนี้ ขณะเดียวกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารโครงการ และความเห็นจากสภา กทม. ส่งกระทรวงมหาดไทยในสัปดาห์หน้า เพื่อเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
