วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

“จตุพร” ย้ำ การเมืองเปลี่ยนก่อน ๑๐ เมษา ไล่ตัวแปรสำคัญ รุมถล่มเพื่อไทย

“จตุพร” ย้ำ การเมืองเปลี่ยนก่อน ๑๐ เมษา ไล่เรียงตัวแปรสำคัญ จ่อ รุมถล่มเพื่อไทย ตั้งแต่มีนาถึงเมษา ลั่น ช่วยคดีบอสหลุดขับรถชน ตำรวจตาย ตอกหน้าพวกหาเสียง อบจ.เชียงใหม่ บิดเบือน วอน จุฬาฯ แก้พิพาทที่ดินอุเทนถวายด้วยใจโอบอ้อมอารี นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ไลฟ์เฟซบุ๊กโดยเรียกร้องให้ จุฬาฯ และอุเทนถวายหาทางออกอย่างสันติในกรณีที่ดินพิพาท เพราะทั้งสองสถาบันต่างใช้ที่ดินของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินประทานให้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเหมือนกัน ดังนั้น จึงต้องมีใจโอบอ้อมอารีต่อกันและกัน พร้อมระบุถึงความจริงได้พิสูจน์กรณีช่วยอภิสิทธิ์ชนหนีคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิตนายจตุพร กล่าวถึงกรณีอภิสิทธิ์ชนขับรถชนตำรวจเสียชีวิตว่า วันนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพราะ ป.ป.ช.สั่งดำเนินคดีอาญากับ ๘ ผู้ต้องหาในกรณีเปลี่ยนแปลงสำนวนและลดความเร็วรถของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ที่ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต เมื่อวันที่ ๓ ก.ย. ๒๕๕๕ อีกทั้งมี นายชูชัย หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ เป็นหนึ่งใน ๘ คนต้องถูกฟ้องคดีอาญาด้วย“เมื่อทุกเรื่องความจริงที่ปราศรัยหาเสียงไว้เมื่อคราวเลือกตั้งนายก อบจ.ได้ปรากฏขึ้น ทั้งการกล่าวหาบางคนเป็นคน พปชร. เรื่องคดีบอส ดังนั้น คนที่พยายามให้เป็นเรื่องเท็จนั้น จึงเป็นหน้าที่ต้องไปอธิบายความกับคนเชียงใหม่อย่างไร เพราะวันนั้นไม่เคยยอมรับความจริง แต่สุดท้ายว่าคนอื่นไว้ทั้งหมดก็กลับเป็นเองด้วยหลักฐานเป็นที่ประจักษ์”ส่วนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ชุมนุมเรียกร้องใช้พื้นที่พิพาทกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายจตุพร กล่าวว่า อุเทนถวายมีพื้นที่ใช้เพียงประมาณ ๒๐ ไร่ จาก ๑,๒๐๐ กว่าไร่ ที่จุฬาฯ ได้รับจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินให้เป็นสถานศึกษา ถ้ามีท่าทีถ้อยทีถ้อยอาศัยต่อกันแล้วย่อมหาทางยุติความบาดหมางนี้ได้แน่นอนอีกทั้งกล่าวว่า จุฬาฯ จะเอาข้อกฎหมายมาบังคับให้อุเทนถวายออกจากพื้นที่โดยไร้จิตใจโอบอ้อมอารีตามประสาการจัดการศึกษาของรัฐระหว่างกันคงไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะอุเทนถวายอยู่มานานถึง ๙๓ ปี ซึ่งเนิ่นนานมาก ไม่ใช่เพิ่งอยู่มาแค่ ๑๐-๒๐ ปีเท่านั้น“จุฬาฯ ควรทำใจเปิดกว้างให้กับอุเทนถวาย เพราะเป็นสถาบันการศึกษาของรัฐที่สร้างคนไปพัฒนาประเทศเหมือนกัน อีกอย่างจุฬาฯ ก็มีพื้นที่มาก กว้างใหญ่ และไม่มีความเดือดร้อนในการบริการทางการศึกษาเลย ดังนั้น จึงหวังว่าเรื่องนี้ควรแก้ปัญหาด้วยสันติซึ่งกันและกัน โดยยึดหลักผลประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง เพราะที่ดินล้วนเป็นของหลวงที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินได้ประทานให้มาเพื่อการศึกษาเช่นกัน”นายจตุพร กล่าวถึงความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า เป็นเรื่องขัดแย้งของบุคคลที่เกิดขึ้นเป็นคราวๆ ไป แต่สิ่งที่ใหญ่กว่านั้นคือ การยกเครื่องปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง ให้อาชีพตำรวจมีความเป็นอิสระ มีสถานะอย่างเป็นระบบตามกระบวนการยุติธรรมอย่างอัยการและศาลที่ยกเครื่องไปแล้วนอกจากนี้ ได้เรียกร้องให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล (บิ๊กต่อ) ผบ.ตร. ใช้เวลาที่เหลืออยู่ในตำแหน่งยกเครื่องปฏิรูปตำรวจ โดยมองข้ามความขัดแย้งระดับบุคคลไป เพราะสิ่งนี้มีมาต่อเนื่องในการแย่งชิงตำแหน่ง ผบ.ตำรวจคนใหม่ ซึ่งแม้บิ๊กต่อจะเกษียณในตุลาคมนี้ แต่ความขัดแย้งก็ยังไม่สิ้นสุดลงอย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่ยังเหลืออายุราชการอีกหลายปี (เกษียณปี ๒๕๗๔) ก็ไม่ได้มั่นใจว่าเวลาที่เหลืออยู่จะได้ขึ้นเป็น ผบ.ตำรวจหรือไม่ เพราะระบบของตำรวจที่เป็นอยู่ไม่ได้ถูกออกแบบให้เกิดความโปร่งใสในระดับการบริหารองค์กรตามกระบวนการยุติธรรม“ระบบตำรวจได้เป็นแค่ช่องว่างให้เกิดการทำมาหากิน จนระบบคุณธรรมไม่มีพลังนำพาไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น ควรยกเครื่องใหม่โดยปฏิรูปให้ตำรวจต้องรู้ตัวเองก่อนว่าได้รับความยุติธรรมเช่นกัน จึงจะอำนวยความยุติธรรมให้กับความเดือดร้อนของประชาชนได้”นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าสภาพตำรวจยังอยู่กับการวิ่งเต้นตลอดเวลาแล้ว ทุกอย่างย่อมหาเงินไปใช้จ่ายเพื่อความเจริญก้าวหน้าในอาชีพตำรวจ ดังนั้น เมื่อระบบคุณธรรมไม่เกิดขึ้นจริงในวงการตำรวจ ประชาชนย่อมไม่ศรัทธา“สิ่งใหญ่กว่าตัวคนคือระบบ และถ้าระบบไม่ได้รับการแก้ไขอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว จึงหวังว่านายกฯ จะได้คิดอ่านแก้ไข ยกเครื่องและจัดระบบคุณธรรม ไม่ให้มีการวิ่งเต้นอีก ซึ่งจะทำให้องค์กรมีความแข็งแรงมากขึ้น”นอกจากนี้ นายจตุพร กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในอนาคตอันใกล้ว่า ยังมีตัวแปรสำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล โดย สว.อภิปรายทั่วไป ๒๕ มีนาคม และ ๑๐ เมษายน อัยการสูงสุดมีคำสั่งคดี ม.๑๑๒ ของ ทักษิณ ชินวัตร แล้วถัดไป สว.หมดวาระ ๑๑ พ.ค. ความร้อนแรงจะเริ่มเดือดยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตาม กรอบเวลาที่ให้ศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ๓๐ วัน ซึ่งจะครบประมาณ ๑๗ มีนาคม อีกอย่าง นายเศรษฐา ทวีสิน เดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่ ๔-๑๔ มีนาคม และยังมีคดีของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ ๔ มีนาคม ซึ่งศาลจะอ่านคำพิพากษาเลยหรือเลื่อนไปอีกก็น่าสนใจ“ปัจจัยทางการเมืองเหล่านั้นจะเรียงกันมา โดยดิจิทัลวอลเล็ตจะนำเข้า คณะรัฐมนตรีอาจไม่ผ่านพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้ ซึ่งจะเป็นการเมืองอีกแบบหนึ่ง หากคิดไปถึงว่าก้าวไกลยึด สว.ได้ ก็จะคุมการแต่งตั้งองค์กรอิสระ และยึดการเลือกตั้ง อบจ. แล้วลามไปถึงโอกาสได้เสียงข้างมากใน สส.อีกด้วย”นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้เป็นโจทย์ใหญ่ทางการเมือง โดยมีต้นเหตุมาจากความไม่ตรงไปตรงมาของพรรคเพื่อไทย และกรณีทักษิณกลับบ้านได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับก้าวไกล เพราะความล้มเหลว การทิ้งจุดยืน และการตระบัดสัตย์นั้น ทำให้คนที่สิ้นหวังต้องไปหาสิ่งที่จะเป็นความหวังกันใหม่อีก คือก้าวไกลที่ต้องมาแบกความหวังเอาไว้อีกทั้งกล่าวว่า สภาจะดันให้ผ่านงบประมาณ ๒๕๖๗ ในเมษายนนี้ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุด แต่จะส่งผลให้ประเทศมากมายยังไม่เห็นชัด ซึ่งต้องพิจารณาเป็นช่วงๆ ในการดีลกันไว้ หากมีการเบี้ยวดีลจะเกิดสถานการณ์ใหม่ขึ้นอีก