วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

จับเจ้าสัวกํามะลอ ตุ๋นเหยื่อลงทุนอัญมณี ๒๒ ล้าน เพิ่งพ้นโทษจากแองโกลา

08 ม.ค. 2024
86

ชุดสืบสวน กก.๑ บก.ป.ตามรวบหนุ่มใหญ่นักธุรกิจจอมปลอม ตุ๋นเหยื่อให้ร่วมทุน ธุรกิจอัญมณีสูญเงินกว่า ๒๒ ล้านบาท ก่อนหนีไปกุเรื่องปลอมเช็ค ๕ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลอกรัฐบาลประเทศแองโกลาจนถูกจองจำนาน ๕ ปี พอพ้นโทษดอดกลับเข้าไทย สร้างเรื่องหลอกเหยื่อหาเงินลงทุนอภิมหาโปรเจกต์ “รถไฟความเร็วสูง” มีนักการเมืองหลงเชื่อ กระทั่งจนมุมตำรวจคาโรงแรมดังย่านทาวน์อินทาวน์ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๘ ม.ค. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.๑ บก.ป. พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร สว.กก.๑ บก.ป. พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลจับกุมนายรวีโรจน์ ฤทธิโชติอนันต์ อายุ ๕๗ ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.๗๙๔/๒๕๖๕ ลงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน๖๕ ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม จับกุมตัวได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านทาวน์อินทาวน์ แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.สืบเนื่องจากเมื่อปี ๕๘ ผู้ต้องหารายนี้เป็นนักธุรกิจชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับพวกหลอกลวงเงินผู้คน ด้วยการแอบอ้างตัวเป็นกลุ่มนายทุนเจ้าของบริษัทการเงิน มีเงินฝากในธนาคารต่างประเทศคิดเป็นเงินไทยประมาณ ๒ แสนล้านบาท สามารถให้เงินสนับสนุนกับผู้เสียหายซึ่งเป็นนักธุรกิจอัญมณีได้ หากมาร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมอัญมณีแบบครบวงจรร่วมกับกลุ่มของตน มีข้อแม้ต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการและค่าธรรมเนียมต่างๆในการนำเงินเข้ามาในประเทศไทยให้กับกลุ่มผู้ต้องหาก่อนเมื่อกลุ่มผู้ต้องหาเห็นว่าเหยื่อเริ่มมีท่าทีสนใจ ปลอมหนังสือค้ำประกันของธนาคาร HSBC สาขานิวยอร์ก ขึ้นมา เพื่อนำมาแสดงให้ผู้เสียหายเห็นว่า มีเงินในบัญชีกว่า ๘,๗๗๕,๑๐๕,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐฯอยู่จริง ทำให้เหยื่อหลงเชื่อยอมโอนเงินค่าดำเนินการให้เป็นเงินรวมกว่า ๒๒ ล้านบาท เมื่อถึงกำหนดนัดจ่ายเงินสนับสนุนดังกล่าวกลับไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้ ทั้งยังถูกบ่ายเบี่ยงก่อนขาดการติดต่อไปในที่สุด เหยื่อเข้าแจ้งความไว้ที่ กก.๑ บก.ป. ก่อนมีการออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่นายรวีโรจน์ไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน กลับหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศแองโกลาและถูกจับกุมพร้อมกับพวกในคดีปลอมเอกสารเช็คและฟอกเงิน จากกรณีนำเช็คปลอม ๕๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปเปิดบัญชีที่ธนาคารในประเทศแองโกลา เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนประกอบธุรกิจค้าขายสินค้าทางการเกษตร ทองคำและอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือจนเกือบได้เซ็นสัญญากับรัฐบาลแองโกลา แต่ถูกตรวจพบและโดนจับดำเนินคดีเมื่อปี ๖๑ กระทั่งกลางปี ๖๕ พ้นโทษจำคุกออกมาแล้วหลบหนีกลับเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติอีกครั้ง แต่ยังคงมีพฤติกรรมหลอกลวงในลักษณะเดิมอีก ส่วนใหญ่เป็นการหลอกระดมเงินมาร่วมทุนในธุรกิจรถไฟความเร็วสูง หากใครสามารถระดมคนให้นำเงินมาร่วมลงทุนเพิ่มได้จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินจำนวน ๕-๑๐ ล้านบาทต่อมาตำรวจชุดจับกุมพบเบาะแสนายรวีโรจน์นัดหมายกลุ่มอดีตนักการเมืองพรรคดังพรรคหนึ่งมาประชุมหารือที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านทาวน์อินทาวน์ พร้อมทั้งอ้างกับอดีตนักการเมืองกลุ่มนี้ว่ามีเงินฝากอยู่ในบัญชีธนาคารในต่างประเทศอีกจำนวนมาก หากอดีตนักการเมืองกลุ่มนี้ยอมให้ความช่วยเหลือเรื่องคดีที่ถูกออกหมายจับได้ จะนำเงินมาช่วยสนับสนุนพรรคในการจัดทำโครงการรถไฟความเร็วสูง ทำให้ประชาชนเกิดความศรัทธากับพรรคการเมืองดังกล่าวมากขึ้น ทั้งหมดเป็นพฤติกรรมการหลอกลวงแบบเดิมๆ กระทั่งนายรวีโรจน์ถูกจับกุมตัวดังกล่าว เบื้องต้นผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.๑ บก.ป.ดำเนินคดีพร้อมขยายผลอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่