ภายหลัง หมอปลา ทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณสัมภเวสี เข้าสิงร่างลุงชาญชัย วัย ๖๐ ปี ตายแล้วฟื้นขึ้นมามีอาการแปลกๆ คล้ายถูกผีสิง จนลุงกลับมาเป็นปกติ หมอปลาได้ทำพิธีผูกวิญญาณให้ แต่จะอยู่ได้ไม่กิน ๔ วัน เพราะร่างกายลุงไม่ไหวแล้ว จากกรณีที่กำลังเป็นที่ฮือฮา คุณลุงที่ จ.กำแพงเพชร นายชาญชัย พลเข้ม อายุ ๖๐ ปี ชาวบ้านวังน้ำขาว ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร มีอาการป่วยหนัก เนื่องจากมีโรครุมเร้าหลายโรค หลังจากที่แพทย์ให้มาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน เพื่อให้ทางญาติๆ ดูแลแล้วเสียชีวิตไป ๑ ชั่วโมง จากนั้นได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา และมีอาการดีขึ้นมาในระดับหนึ่ง จนทำให้บรรดาญาติและคนในครอบครัวต่างสงสัยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ยิ่งกว่านั้น ภายหลังตายแล้วฟื้น ญาติของ “ลุงชาญชัย” อายุ ๖๐ ปี ที่มาเฝ้าดูแลอาการอยู่ตลอดเวลาทุกวันทุกคืนด้วยความเป็นห่วง กลับต้องเจอกับเหตุการณ์ประหลาดหลายอย่างเกี่ยวกับตัวนายชาญชัย จนเป็นที่หวาดผวากันในหมู่ญาติ และคนในครอบครัว ทั้งจากที่ป่วยกระเสาะกระแสะกลับอาการดีขึ้นจนน่าแปลกใจ ทั้งๆ ที่ไม่ยอมกินข้าวปลาอาหาร กลางคืนจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดบ่อยครั้ง เช่นเห็นดวงไฟประหลาดพุ่งเข้ามาในบ้านแล้วก็หายวับไปกับตาจากนั้น ลุงชาญชัยจู่ๆ ก็มีอาการร้องไห้ฟูมฟาย บางครั้งก็นอนร้องเพลงคนเดียว ลุกไปเข้าห้องน้ำเองกลางดึก ทั้งๆ ที่ปกติ ญาติจะต้องเป็นคนพาไป และไม่สามารถลุกเดินเองได้ ที่สำคัญนายชาญชัยจะต้องดื่มสุราตลอดทุกวันโดยไม่มีอาการมึนเมาใดๆ จนญาติหลายคนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งทำใจ และคิดกันไปต่างๆ นานาว่า หลังจากที่ตายแล้วฟื้นขึ้นมา คงมีบางอย่างมาเข้าสิงร่างแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอนจึงมีลักษณะเป็นแบบนี้ จึงอยากให้ “หมอปลา” มาช่วย เพราะญาติๆ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกันแล้ว ก่อนที่เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมอปลา มือปราบสัมภเวสี” พร้อมทีมงาน ก็ได้เดินทางมาที่บ้านของ นายชาญชัย พลเข้ม เพื่อพิสูจน์ว่านายชาญชัย ถูกผีเข้าสิงร่างจริงหรือไม่ ตามที่ทางด้านญาติๆ ได้ร้องขอ เมื่อหมอปลามาถึง เพียงแค่ผ่านป่ามันก่อนถึงหน้าบ้านก็มีอาการเวียนหัวและอาเจียนออกมารับรู้ได้เลยว่า มีวิญญาณสัมภเวสีอยู่ที่บริเวณบ้านหลังนี้อย่างแน่นอน และเมื่อยิ่งเดินเข้าไปใกล้ลุงชาญชัยมากเท่าไหร่ หมอปลาก็ยิ่งมีอาการหนักกว่าเดิม จากนั้นหมอปลาได้เดินสำรวจบริเวณรอบบ้าน เพื่อจะหาว่าสัมภเวสีอยู่จุดใดก็หาไม่เจอ จึงเดินกลับเข้ามาหาลุงชัยอีกครั้ง โดยลุงชัย ก็ร้องไห้ออกมา พร้อมพูดจาวกไปวนมาชี้หน้าชี้หน้าหมอปลามองด้วยสายตายียวน ซึ่งก็พยายามเข้าไปพูดคุย ถามว่าเป็นใครก็ไม่ยอมตอบ หมอปลาจึงเดินออกไปสำรวจรอบบ้านอีกครั้งจนกระทั่งพบว่าบริเวณหลังเล้าไก่หลังบ้านมีจอมปลวกขนาดใหญ่อยู่ ๑ จุด มีตอไม้ไผ่ปักอยู่ ๑ ลำ ลักษณะถูกตัดออกไป โผล่จากจอมปลวกประมาณ ๕๐ ซ.ม. ซึ่งหมอปลาบอกว่ามีลักษณะคล้ายปักธูปรอไว้แล้ว ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เกิดเรื่องลี้ลับกับลุงชัยครั้งนี้ จากนั้นหมอปลาต้องการสื่อสารกับดวงวิญญาณจึงได้ให้ผู้หญิงอายุระหว่าง ๒๐-๓๐ ปี มาสื่อสาร สัมผัสได้ว่าบริเวณดังกล่าวที่มีสัมภเวสีอยู่จริง จึงกลับไปหาลุงชัยในบ้านอีกครั้ง พบว่าลุงชัยอยู่ในอาการปกติ ซึ่งหมอปลาก็พยายามสื่อสารกับสัมภเวสีที่สิงร่างอยู่ ผ่านร่างเด็กหญิง ๙ ขวบ ซึ่งทำให้เด็กหญิง ๙ ขวบมีอาการแปลกเดินไม่ได้และร้องไห้ออกมา หมอปลาต้องทำพิธีช่วยจึงเดินได้ปกติ หมอปลา ได้นำลุงชัยมานั่งอยู่บริเวณกลางแจ้งหน้าบ้าน โดยหมอปลาบอกว่าจะทำพิธีผูกวิญญาณให้กับลุงชัย ซึ่งก็ขอให้ญาติทำใจว่าลุงชัยจะอยู่ได้อีกแค่ ๔ วัน โดยให้ลูกและเมียสั่งเสียลุงชัย และหากลุงชัยต้องการดื่มเหล้าสูบบุหรี่ก็ให้กินอย่างเต็มที่ โดยหลังจากนี้ลุงชัยจะมีอาการง่วงนอนและจะกินอาหารมื้อใหญ่อีกแค่ครั้งเดียว เป็นมื้อสุดท้ายแล้วก็จะเสียชีวิตอย่างสงบ โดยหมอปลายให้เหตุผลว่าหากตายแล้วฟื้น ช่วงระหว่างที่ร่างของลุงชัยไม่มีวิญญาณก็จะมีสัมภเวสีเข้ามาแทรกทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งขณะนี้ร่างของลุงชัยไม่ไหวแล้วต้องส่งวิญญาณของลุงชัยไปอย่างสงบ หลังจากนั้นได้นำสายสิญจน์พันที่จอมปลวกและนำมาพันที่หัวลุงชัย ทำพิธีจนเสร็จสิ้น