วันอังคาร, 5 พฤศจิกายน 2567

ดูหน้างานให้เข้าใจ “พิธา” ช่วยดับไฟป่า ชี้ ปัญหาฝุ่นต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ

๑๐ ปากว่าไม่เท่าตาเห็น “พิธา” ติดตามไฟป่าเชียงใหม่ ดูเห็นหน้างานจริง พร้อมช่วยดับไฟ นำข้อมูลไปจัดทำแผนในการแก้ปัญหาต่อไป มอง ปัญหาฝุ่นที่รุนแรง ควรประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อใช้งบกลางได้ วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๗ ภายหลังจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางโดยเครื่องบินมาถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ จากนั้นได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ และกลุ่มอาสาดับไฟป่ามูลนิธิกระจกเงา โดยจุดแรกไปพบปะกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และกลุ่มอาสาดับไฟป่ามูลนิธิกระจกเงา ที่ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ภายในหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ๑๓ ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตอง เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค และวางแผนการทำงานก่อนออกปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่จากนั้นทั้งหมดได้ออกเดินทางโดยรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อไปยังพื้นที่ป่าในตำบลทุ่งปี๊ อำเภอแม่วาง ที่กำลังเกิดไฟไหม้ลุกลาม สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากบริบทของพื้นที่เป็นป่าเต็งรัง มีใบไม้แห้งสะสมจำนวนมาก เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงเกิดการลุกลามอย่างรวดเร็ว ประกอบกับพื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน ทำให้ยากต่อการดับไฟ แต่ นายพิธา ก็ได้ลงมือดับไฟร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสาดับไฟป่ามูลนิธิกระจกเงา ต่อมา นายพิธา ระบุว่า การลงพื้นที่เพื่อให้เข้าใจหน้างาน ดูพฤติกรรมไฟ เพื่อวางแผนการทำงานให้ทีมงานเข้าถึงไฟก่อนที่จะลุกลาม ซึ่งขั้นตอนต่างๆ ในการเข้าดับไฟไม่ได้ง่าย การดำเนินการของภาครัฐในการจัดการแก้ปัญหาไฟป่า ต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้า เพราะไฟป่าจะเกิดตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงช่วงฤดูฝน ดังนั้น ควรเริ่มทำงานตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ในการจัดทำสถานีน้ำไว้ตามจุดเสี่ยงต่อการเกิดไฟ เพื่อให้สามารถใช้ดับไฟได้ทัน ส่วนปัญหาฝุ่นควันที่รุนแรงในขณะนี้ มองว่าควรต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพราะจะสามารถใช้งบประมาณกลางได้ ซึ่งการลงพื้นที่ของตนและทีมงาน เพื่อติดตามปัญหา ต้องการเห็นหน้างาน และลงมือปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครเพื่อนำข้อมูลไปประเมินและจัดทำแผนรับมือกับไฟป่า ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายพิธา ยังได้โพสต์ภาพขณะร่วมดับไฟป่าผ่านอินสตาแกรม พร้อมระบุข้อความว่า “๑๐ ปากว่าไม่เท่าตาเห็น พอได้อยู่หน้างาน แม้จะไม่นาน จะได้เข้าใจอะไรที่การนั่งฟังจากอธิบดี จากหน่วยงาน ทำไม่ได้ ว่าอันตรายแค่ไหน? ร้อนแค่ไหน? เดินสูงแค่ไหน? เทคโนโลยีเพิ่มความแม่นยำ ประสิทธิภาพ ลดเวลาหน้างานไง? ไม่ต้องทำเป็นเอง แต่เข้าใจพอที่จะออกนโยบาย เสริมงบ เสริมอุปกรณ์ ดูแลสวัสดิการคนหน้างานได้อย่างเห็นอกเห็นใจกัน”