วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

ตอบกระทู้ฝ่ายค้าน “เศรษฐา” บี้รมต. “ประวิตร” ย้อนก้าวไกล ถ้าอยากพบให้มาที่บ้าน

“นายกฯ” ถก คณะรัฐมนตรีก่อนบินไปร่วมถกสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ฉลองสัมพันธ์ ๕๐ ปี หอบร่างวิสัยทัศน์ผู้นำ-ร่างปฏิญญาเมลเบิร์นไปลงนามขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง สั่งกำชับรัฐมนตรีไปตอบกระทู้ เคลียร์ปัญหาให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ติดใจลงพื้นที่เจอชาวบ้านชูป้ายฮักทักษิณ ทวงเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต พท.เต้นโต้ “พิธา” วิจารณ์หนองวัวซอโมเดล ชาวบ้านไร้ความมั่นคงในชีวิต “ภูมิธรรม” ฉะเข้าใจความเป็นจริงก่อน อย่าดีแต่พูดเอาใจคนจุดประเด็นการเมือง “สุทิน” เฉ่งสร้างค่านิยมผิดๆ อันตรายปั่นหัวยุชาวบ้านฮุบที่รัฐ “จุรินทร์” หยันรัฐบาลอืด ทำงานไม่ทันฝ่ายค้าน “วันชัย” เตือนชาวบ้านชักเอือม แนะรัฐบาลหยุดไหว้สวยเร่งสร้างผลงาน “ลุงป้อม” คึกสวมชุดแดงลุยหนองคาย ทำกิจกรรม พปชร.สัญจรข้ามโขงจับเข่าคุยนายกฯลาว โชว์จับมือร่วมแก้ปัญหา PM ๒.๕นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีในวันหยุดราชการ ก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (๒๐๒๔ ASEAN-Australia Special Summit) เพื่อฉลองวาระครบรอบ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ ๔-๖ มี.ค. โดยนายกฯ ได้เน้นย้ำสั่งการให้รัฐมนตรีให้ความร่วมมือไปตอบกระทู้ในสภาฯ เพื่อเป็นการให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ เศรษฐา ทวีสินนายกฯประชุม คณะรัฐมนตรีก่อนบินไป ตปท.เมื่อเวลา ๑๑.๓๐ น. วันที่ ๓ มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง เข้าทำเนียบรัฐบาลรับประทานอาหารเที่ยง ก่อนเป็น ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเวลา ๑๓.๐๐ น. ทั้งนี้ มีรัฐมนตรีลาประชุม ๕ คน ประกอบด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการสาธารณสุข และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการร่วมเวทีอาเซียน–ออสเตรเลียนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (๒๐๒๔ ASEAN-Australia Special Summit) เพื่อฉลองวาระครบรอบ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ ๔-๖ มี.ค. วัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมความร่วมมือการลงทุน มุ่งมั่น ดึงดูดให้ออสเตรเลียเข้ามามีส่วนร่วมลงทุนในไทยมากขึ้น ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค เป็นโอกาสให้ นักลงทุนไทยลงทุนในออสเตรเลีย เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของออสเตรเลีย กำลังผลักดันให้เอกชนออสเตรเลียลงทุนในอาเซียน ตามยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจตะวันออกเฉียงใต้สู่ปี ค.ศ.๒๐๔๐ รวมถึง เพิ่มโอกาสประชาสัมพันธ์นโยบายและโครงการสำคัญ ของรัฐบาล เพื่อเชิญชวนการลงทุน โดยเฉพาะโครงการ แลนด์บริดจ์และการพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า ผลักดันให้ออสเตรเลียร่วมมือกับอาเซียนลดความขัดแย้งในภูมิภาคโดยสันติวิธี ผลักดันความร่วมมือในกรอบอาเซียน-ออสเตรเลีย ให้ส่งผลประโยชน์ต่อไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการเข้าถึงเงินทุนรวม ๒๒๕ ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ๕,๒๘๘ ล้านบาท ภายใต้โครงการ Australia for ASEAN (Aus๔ASEAN) Initiatives และนายกฯมีกำหนด การหารือบุคคลสำคัญ ทั้งระดับผู้นำประเทศและผู้บริหารบริษัทที่สำคัญระดับโลกครม.เห็นชอบร่างวิสัยทัศน์ผู้นำฯผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ ร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ที่นายกฯจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ ๔-๖ มี.ค. และร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์ฯ ทั้ง ๒ ฉบับ ในวันที่ ๖ มีนาคม๖๗ ได้แก่ ๑.ร่างวิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง (ร่างวิสัย ทัศน์ฯ) ๒.ร่างปฏิญญาเมลเบิร์น หุ้นส่วนความร่วมมือเพื่ออนาคต (ร่างปฏิญญาเมลเบิร์น) จะเป็นประโยชน์กระชับความสัมพันธ์และสานต่อความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย และไทยกับออสเตรเลีย โดยเฉพาะประเด็นด้านความมั่นคงในภูมิภาค เสถียรภาพ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมการสร้างสถาปัตยกรรมทางเศรษฐกิจที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ความเชื่อมโยงในภูมิภาคการรับมือกับปัญหาท้าทายระดับโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน โรคระบาด อาชญากรรมข้ามชาติและการสนับสนุนการปฏิบัติตามมุมมองอาเซียนต่ออินโดฯ-แปซิฟิก“เศรษฐา” สั่ง รัฐมนตรีไปสภาฯตอบกระทู้ต่อมาเวลา ๑๔.๒๐ น. นายเศรษฐาแถลงภายหลังการประชุม คณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับปัญหาไม่มีรัฐมนตรีเข้าไปตอบกระทู้ในสภาฯ ว่า ได้สั่งการโดยขอให้รัฐมนตรีที่มีภารกิจตอบกระทู้สภาฯ กรุณาไปตอบกระทู้ตามที่ได้ประสานนัดหมายกันไว้ด้วย เพื่อไม่ก่อให้เกิดปัญหาเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว หากรัฐมนตรีติดภารกิจใดๆ ขอให้มอบหมายรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปตอบแทน เพื่อให้เกิดการประสานงานที่ดีระหว่างฝ่ายบริหาร และให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ ตนจะไปปฏิบัติราชการที่ต่างประเทศตั้งแต่วันที่ ๔-๑๔ มี.ค. โดยวันที่ ๔ มี.ค. จะไปประเทศออสเตรเลีย เชื่อว่าภารกิจของรัฐมนตรีแต่ละท่านมีมากอยู่แล้ว ในที่ประชุม คณะรัฐมนตรีได้ฝากงานกันไปแล้วพอสมควร ทุกท่านมาถึงจุดนี้ได้เชื่อว่ามีวุฒิภาวะพอ ไม่จำเป็นต้องสั่งไปบอกว่าต้องทำอะไรบ้าง ทุกคนทำงานเต็มที่ มีงานล้นมืออยู่แล้วไม่ติดใจชาวบ้านถือป้ายฮักทักษิณเมื่อถามว่าลงพื้นที่ระยะหลังมีประชาชนถือป้าย “ฮักทักษิณ” ควบคู่กับการทวงถามเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท ถึงเวลาจะเชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมาเป็นที่ปรึกษาหรือยัง นายกฯกล่าวว่า เรื่องป้ายฮักคุณทักษิณ ไม่ปฏิเสธเลย เข้าใจว่านายทักษิณเป็นนายกฯที่ได้รับความนิยมสูงสุดคนหนึ่งในประเทศไทย เป็นปกติที่จะมีคนรักท่านรักใครถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ประเทศชาติมีความรักมันก็ดีอยู่แล้ว ส่วนจะเชิญท่านมาหรือไม่ ท่านยังไม่ได้ แสดงเจตจำนงว่าจะเป็นที่ปรึกษาหรือเปล่าเลย สัปดาห์ที่แล้วได้เข้าไปหา ยังโฟกัสการรักษาตัวเองให้ดี จากประเทศไทยไป ๑๗-๑๘ ปี คิดว่าท่านอยากจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือพี่น้องพรรคพวกเพื่อนฝูงที่สนิทกัน และดูแลรักษาตัวเองให้ดี หลังจากนั้นแล้วค่อยว่ากันดีกว่า ตนโอเพ่น ส่วนกรณีพรรคประชาชนกัมพูชาเชิญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาวันที่ ๑๘-๑๙ มี.ค. ดีใจและเป็นเรื่องที่ดี ในแง่ประชาชนมีหลายมิติ ระดับรัฐบาล ตนและนายกฯกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดี ยกหูโทรศัพท์ถึงกันได้อยู่ตลอด ระดับพรรคการเมือง ได้พบปะ กระชับความสัมพันธ์ที่ดี รวมถึงประชาชนกับประชาชน ระหว่างชายแดนเป็นเรื่องที่ดี มีการเอื้อให้เข้าออกกันได้ โดยเฉพาะแรงงานในกัมพูชามาทำงานในไทยโดยสิทธิเท่าเทียมโยน “จุลพันธ์” แจงแจกเงินหมื่นเมื่อถามว่า เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่น แม้นายกฯเคยตอบคำถามบ่อยเรื่องกรอบเวลา แต่ประชาชนยังอยากฟังถึงความคืบหน้า นายเศรษฐากล่าวว่า เข้าใจ เพราะทุกคนมีความประสงค์ อันนี้เป็นจุดหนึ่งที่สะท้อน ได้ยินแล้ว แต่หน่วยงานอื่นอยากให้ได้ยินด้วยเหมือนกัน กำลังคอยข้อมูลอยู่ ได้ตั้งคณะกรรมการไปเรียบร้อยแล้ว กำลังคอยข้อมูลจากหน่วยงานที่เราสอบถามไป ส่วนรายละเอียดนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง จะเป็นผู้แถลงเอง เมื่อถามว่า คิดว่าผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะได้ยินเสียงประชาชนตะโกนตรงนี้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบ หากอยากทราบรายละเอียดอะไรมากกว่านี้เดี๋ยวนายจุลพันธ์จะเป็นคนแถลง คนตระหนักดีถึงความต้องการอยู่แล้วโต้ “หม่อมอุ๋ย” มุมมองต่างลดดอกเบี้ยเมื่อถามถึงกรณี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ และอดีตผู้ว่าการ ธปท.ระบุนายกฯเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ย จะมีผลทำให้เงินทุนไหลออก นายเศรษฐากล่าวว่า มันมีทั้งบวกและลบหลายอย่าง ท่านเป็นอดีตผู้ว่าการ ธปท.และเป็นอดีตรองนายกฯดูแลเศรษฐกิจ พูดอะไรตนรับฟัง แต่มีมุมมองหนึ่ง ถ้าเงินทุนไหลออกปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้บาทอ่อน แล้วบาทอ่อนส่งออกดีหรือไม่ เราพึ่งการส่งออก ๖๐% ของจีดีพี บาทอ่อนคนเข้ามาท่องเที่ยวเยอะขึ้นหรือไม่ น่าจะเยอะขึ้นใช่หรือไม่ ก็ดี ๑ ดอลลาร์ของเขากลายเป็น ๓๖-๓๗ บาท เขามีเงินเยอะขึ้นในกระเป๋ามาจับจ่ายใช้สอย ซื้อผลิตภัณฑ์จาก ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้มากยิ่งขึ้น ไปเที่ยวเมืองรองมากยิ่งขึ้นยิ่งดี มีหลายมุมมอง เศรษฐศาสตร์เป็นศาสตร์หนึ่งที่มีความหลากหลาย มันไม่ใช่ตัวเลข ๑+๑ เป็น ๒กลับถึงไทยลุยต่อเชียงใหม่-เชียงรายน.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกฯ เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง มีกำหนดแผนตรวจและติดตามงานตามข้อสั่งการและการขับเคลื่อนนโยบายในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศให้ครอบคลุมทั่วถึง หลังจากกลับจากเยือนยุโรป วันที่ ๑๔ มี.ค. นายกฯมีแผนงานเริ่มต้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย วันที่ ๑๕-๑๗ มี.ค. เพราะต้องการเห็นและติดตามงานสำคัญที่รัฐบาลมอบนโยบายและแนวทางไว้ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาที่เร่งด่วนเพราะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อไปได้ สำหรับการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย เพื่อติดตามการแก้ปัญหาสำคัญ ฝุ่น PM ๒.๕ ที่บูรณาการหลายภาคส่วนเพื่อคลี่คลายปัญหา และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนและภาคเหนือ รัฐบาลประกาศให้มีการป้องปรามปราบอย่างเข้มข้น การดูแลคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งตรวจงานนโยบายในภาคเหนือตอนบนที่จะมีการ ประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.พะเยา วันที่ ๑๘-๑๙ มี.ค. ต่อจากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ภูมิธรรม เวชยชัย“อ้วน” สอน “พิธา” เข้าใจจริงก่อนจ้อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ลงพื้นที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี วิจารณ์การให้สิทธิเช่าที่ดินราชพัสดุหนองวัวซอ ไม่ใช่ให้กรรมสิทธิ์ ประชาชนไม่มั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินว่า หากเป็นคนเข้ามาทำงานจริงๆแล้วรู้กฎระเบียบต่างๆ การแก้ไขปัญหามีกระบวนการที่ดินของประชาชนมีหลายรูปแบบ การแก้ไขปัญหาต้องเริ่มที่ความเป็นจริง ทุกคนล้วนปรารถนาให้ประชาชนมีสิ่งที่ดีที่สุด แต่การจัดการปัญหาต้องเข้าใจความเป็นจริง การให้สิทธิต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่เป็น ส.ป.ก. ป่าสงวนฯหรือที่ราชพัสดุเป็นอีกแบบหนึ่ง การวิจารณ์โดยไม่คำนึงถึงเนื้อหา พูดเพื่อใช้ในทางการเมืองต้องหลีกเลี่ยง อยากให้มาคุยให้เกิดการแก้ไขปัญหาจริงๆ ไม่ทราบว่าเป็นความเข้าใจผิดหรือไม่ แต่อยากให้ฝ่ายค้านดูความเป็นจริง ช่วยกันแก้ไขปัญหาประเทศชาติ ดีกว่านั่งพูดแล้วพยายามมองให้เป็นประเด็นการเมืองฉะอย่าดีแต่พูดเอาใจ ปชช.เชิญมานั่งคุยเมื่อถามย้ำว่า มองว่าเป็นการตีกินทางการเมืองหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า จะตีกินหรือไม่ ประชาชนเป็นคนตัดสินแต่ต้องดูเจตนารมณ์ วันนี้รัฐบาลพยายามทำให้ประชาชนอยู่ได้อย่างเหมาะสม หากจะมาบอกว่าแค่นี้ไม่ใช่สิทธิทำกินจริงๆ ไม่ได้ดูเลยว่าปัญหาที่ดินของประเทศมีกี่ลักษณะ มีประเด็นอะไรบ้าง รัฐบาลต้องแก้ไขจากสภาพที่เป็นจริง นายพิธาต้องไปดูรายละเอียดอะไรต่างๆให้มากขึ้นก่อนวิจารณ์ อย่าหยุดเฉพาะเรื่องเดียวแล้วเอาใจพี่น้องประชาชนอย่างเดียว ก่อนจะวิจารณ์ควรไปดูว่าที่ดินแต่ละส่วนแตกต่างกันอย่างไร กฎหมายเอื้ออำนวยให้แค่ไหน เรามีกฎหมายอยู่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากกฎหมายที่มีอยู่ไม่เหมาะสม มาเสนอว่ากฎหมายนั้นมีข้อจำกัดอย่างไร รัฐบาลชัดเจนอะไรแก้ไขได้ก็แก้ไข อะไรยังไม่ได้ก็หาทางออก อยากให้ดูรายละเอียดแล้วค่อยมาคุยกัน พร้อมนั่งคุยด้วยถ้าอยากคุย แต่ต้องคุยบนพื้นฐานที่ยอมรับความเป็นจริงก่อน มันหมดฤดูหาเสียงแล้ว หรือว่าอาจจะเริ่มต้นใหม่ จะหาเสียง อบจ.หรือเปล่าไม่รู้ แต่มาคุยกันดีกว่าว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร นี่เชิญแล้ว หากไม่มาคุยก็เป็น เรื่องของเขา ถ้าอยากมาคุยติดต่อมาได้ หากจะไม่มาขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขายักไหล่ฝ่ายค้านอภิปรายแบบไหนได้หมดนายภูมิธรรมกล่าวว่า ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปราย รัฐบาลไม่มีปัญหาอะไร จะยื่นหรือไม่ยื่นเราก็ทำงาน ฝ่ายค้านจะยุติก็ดีจะได้ทำงานสะดวกสบายขึ้น จะยื่นก็ดี ข้อคลางแคลงใจทำให้สาธารณะรับรู้เราพร้อมชี้แจง เรากำลังทำงาน ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจจะได้ชี้แจง จะยื่นหรือไม่ยื่นไม่ใช่ประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ตอนนี้รัฐบาลเดินหน้าทำงาน เมื่อถามว่าประเด็นที่จะอภิปรายอาจไม่ได้เจาะจงเรื่องงบฯแต่เจาะจงไปที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายภูมิธรรมกล่าวว่า อยู่ที่ฝ่ายค้านว่าให้ความสำคัญกับอะไร ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนหรือไม่ หรือให้ความสำคัญกับประเด็นการเมืองที่จะหยิบขึ้นมาแล้วให้ตัวเองได้แสดงทัศนะหรือไม่อย่างไร ไม่ทราบ ต้องถามเขา“สุทิน” ตำหนิสร้างค่านิยมผิดๆให้ ปชช.นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม กล่าวว่า การลงพื้นที่ติดตามปัญหาโครงการหนองวัวซอโมเดล มีการไปให้ความรู้ที่ไม่ถูกต้องกับชาวบ้าน สร้างค่านิยมที่ผิดๆให้ชาวบ้าน นายพิธาตั้งข้อสังเกตว่าการให้ชาวบ้านเช่าสัญญา ๓ ปีไม่ถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ ทำอะไรไม่ได้มันสั้น เป็นการทำให้ชาวบ้านเข้าใจคลาดเคลื่อนจริงๆ ที่ดินถ้าอันไหนเป็นของประชาชนต้องให้กรรมสิทธิ์ ถ้าเป็นของรัฐให้กรรมสิทธิ์ไม่ได้ เช่น ที่ราชพัสดุเราไปออก นส.๓ ให้ชาวบ้านไม่ได้ ยกเว้นไปแก้กฎหมาย แต่ถ้าเป็นที่ในขอบข่ายงาน ส.ป.ก.ที่ว่างเปล่าจัดให้ชาวบ้านได้ว่ากันไปตามกฎหมาย หนองวัวซอได้เปิดพิสูจน์สิทธิ์ไม่ใช่ว่าให้ชาวบ้านเช่าทั้งหมด อันไหนของชาวบ้านผ่านการพิสูจน์สิทธิ์ออกให้เลย อันไหนของราชพัสดุให้เช่า การให้เช่า เราไม่ได้ว่า ๓ ปีแล้วเลิก ระยะแรก ๓ ปีเมื่อหมด สัญญาขอต่อได้ จะได้ฝึกให้ชาวบ้านมีวินัย และดูว่าเอาไปใช้ถูกต้องในทางที่ถูกกฎหมายต่อให้ รัฐยังไม่เคยยกเลิกสัญญา ขอมาต่อให้ทุกรายปั่นหัวชาวบ้านฮุบที่รัฐหมดอันตรายนายสุทินกล่าวว่า ข้อสำคัญที่สุดคือมันไม่ใช่กรรมสิทธิ์จริง เราไม่เคยบอกว่าที่ราชพัสดุจะเอามาเป็นกรรมสิทธิ์ เราไม่ได้บอกว่าที่ของทหารจะเอาไปเป็นกรรมสิทธิ์ให้ชาวบ้าน เราต้องรักษาทรัพย์สินของประเทศไว้ด้วย ฝ่ายค้านอะไรที่รัฐบาลทำดีแล้วเป็นประโยชน์ชมบ้างก็ได้ ถ้าไม่ชมจะให้ความรู้จริงๆ ก็ให้ในสิ่งที่ข้อมูลมันถูกต้อง ไปสร้างค่านิยมให้ชาวบ้านลุกขึ้นมาเอาที่รัฐทั้งหมดหรือที่รัฐที่ไหนก็เป็นของชาวบ้านทั้งหมดมันอันตราย การเช่ามันดีอย่างหนึ่งให้ชาวบ้านทำถูกต้องตามกฎหมาย วันนี้ชาวบ้านที่หนองวัวซอหรือชาวบ้านที่เช่าที่ของรัฐต่อไป ไม่มีใครไปชี้หน้าชาวบ้านได้ว่าบุกรุก และไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ใครจะไปขับไล่ไม่ได้ ถ้ามีสัญญาเช่าถือว่าทำกิน ถูกต้องถูกกฎหมาย ๓ ปีเราต่อให้ ก่อนหน้านี้ชาวบ้านอยู่แบบไม่ถูกกฎหมาย การเช่าให้เช่าไปเรื่อยๆระยะแรกจาก ๓ ปี ระยะที่ ๒ อาจให้เช่า ๑๐ ปี ระยะที่ ๓ อาจเป็น ๒๐ ปี โดยสัญญาเช่าตกทอดถึงมรดกได้ และสัญญาเช่าใช้เป็นหลักทรัพย์กู้เงินกับธนาคารของรัฐได้ สมมติจากเดิมที่ของรัฐไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ต่อจากนี้เราให้ประชาชนทำกินอย่างถูกกฎหมาย ดนุพร ปุณณกันต์เฉ่งทำการเมืองใหม่ต้องให้ข้อมูลครบนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค พท.กล่าวว่า กรณีนายพิธาวิจารณ์การประกาศศักยภาพของประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคของนายกฯว่า ต้องคิดว่าทำเพื่อใคร เพราะนายทุนมาลงทุน แต่ไม่เคยไหลลงมาสู่แรงงานไทย ว่า ถือเป็นคำวิจารณ์แบบผิวเผิน ด้วยมุมมองไม่ลึกพอที่จะเข้าใจถึงแก่นแท้ของวิสัยทัศน์ ไม่ได้มองมิติภาพใหญ่ที่เชื่อมโยงกัน ส่วนที่ระบุการให้สิทธิประชาชนเช่าที่ราชพัสดุ ๓ ปีแล้วจะเรียกคืน ประชาชนไม่มีความมั่นคงในชีวิต เป็นการฉวยโอกาสทางการเมือง ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน จนอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้ การจัดสรรที่ดินทำกินกลุ่มพื้นที่ราชพัสดุ เช่น หนองวัวซอโมเดล รัฐบาลเพิ่งลงพื้นที่มอบสัญญาเช่าที่ดินในโครงการหนองวัวซอโมเดลไปเมื่อวันที่ ๑๙ ก.พ. จะเดินหน้าเพิ่มที่ดินทำกินให้ประชาชนต่อเนื่องในหลายวิธีการ หนองวัวซอโมเดลรัฐบาลทำมาระยะหนึ่งแล้ว นายกฯตั้งใจเรื่องนี้มาก ขอตำหนินายพิธา หากต้องการทำการเมืองใหม่อย่างสร้างสรรค์อย่างที่พรรคก้าวไกลอยากเป็น ควรเริ่มที่การให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนกับประชาชนแขวะเตรียมสู้คดีดีกว่ามัวมาแซะ พท.นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกฯ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) กล่าวถึงกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก. และ สส.พรรค ก.ก. หลายคนวิจารณ์ว่ามีนายกฯ ๒ คนว่า เจตนาหวังผลทางการเมืองต้องการทำให้เกิดความสับสนหวาดระแวงขึ้นในรัฐบาล และประชาชน ขอให้หัวหน้าพรรคและ สส.พรรค ก.ก. หยุดการกระทำ เลิกยุแยงตะแคงรั่ว ลงทุนตอกลิ่มหวังผลให้รัฐบาลสั่นคลอน ขอให้ตื่นกันได้แล้วอย่าฝันหวานเรื่องการสั่นคลอนรัฐบาลเลย เพราะนายเศรษฐา เป็นคนตั้งใจทำงาน คิดเช่นนั้นเหมือนฝันกลางแดด พรรค ก.ก.เหมาะสมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอให้ทำต่อไป นานๆจนครบวาระ ๔ ปี มีเวลาว่างควรเอาเวลาเตรียมข้อมูลข้อกฎหมายไว้ต่อสู้คดีล้มล้างการปกครอง อย่าไปห่วงรัฐบาลหรือนายเศรษฐาเลยบิ๊ก พท.ยังไม่เคาะวันเข้าพบ “ทักษิณ”นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีรัฐมนตรีของพรรค พท.เตรียมเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระหว่างพักโทษอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ว่า รัฐมนตรีของพรรคยังไม่ได้พูดถึงกำหนดที่เข้าพบนายทักษิณ ยังไม่ทราบว่านายทักษิณมีโอกาสเข้าพรรคเพื่อไทยในเร็วๆนี้หรือไม่ เนื่องจากท่านต้องดูแลสุขภาพ“อู๊ดด้า” เย้ย รบ.ทำงานไม่ทันฝ่ายค้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป.กล่าวถึงกรณีรัฐมนตรีไม่ไปตอบกระทู้ในสภาฯว่า หลายกรณีที่เกิดขึ้น รัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น รัฐบาลชุดนี้ทำงานไม่ทันฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ทันฝ่ายค้าน กฎหมายหลายฉบับฝ่ายค้านเสนอเข้าสภาฯ และบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระแล้ว แต่ไม่สามารถพิจารณาตามวาระได้ เพราะรัฐบาลเสนอกฎหมายตามประกบไม่ทัน ต้องขออุ้มกฎหมายของ สส.เอาไปดองไว้ที่ทำเนียบก่อน จนกว่าจะเสนอร่างรัฐบาลประกบได้ทัน ประชาชนต้องเสียประโยชน์ ขอเรียกร้องรัฐบาลเอาเวลาเดินทัวร์มาให้ความสำคัญกับการออกกฎหมายมากกว่านี้ การตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้านในสมัยประชุมนี้ขึ้นอยู่กับพรรค ก.ก.เป็นหลัก ถ้าจะมีการอภิปราย จะอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา ๑๕๒ ต้องใช้เสียง ๕๐ เสียงขึ้นไป หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา ๑๕๑ ต้องใช้เสียงอย่างน้อย ๑๐๐ เสียง พรรค ปชป.มีเสียงไม่พอ ไม่สามารถดำเนินการพรรคเดียวได้ ต้องอาศัยเสียงพรรค ก.ก.เป็นหลัก“วันชัย” เตือนชาวบ้านชักเอือมรัฐบาลวันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ สว. โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “ไม่มีผลงาน…รัฐบาลพัง” ว่า ผ่านมา ๖-๗ เดือน ผลงานยังไม่ออก หรือออกล่าช้า พรรคเพื่อไทยจะเสียคนกระทบไปยังรัฐบาล ข้ออ้างงบฯยังไม่ออก ชาวบ้านไม่ฟัง ยิ่งคุยใหญ่โตก่อนเลือกตั้งจะทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ทันที แต่ถึงเวลาไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากงานประจำ ลงพื้นที่ไปต่างประเทศแล้วประชุมเป็นงานรูทีน แต่งานที่โดนใจเปรี้ยงปร้างมากกว่ารัฐบาลลุงตู่ยังไม่เห็น ชาวบ้านชักทนไม่ไหว เปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ไม่มีอะไรดีกว่ารัฐบาลเก่า กระแสจึงตีกลับกดดันเป็นเรื่องปรับ ครม. เรื่องนายกฯ ๒ คน ๓ คน หรือถึงขั้นเปลี่ยนตัวนายกฯ ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลทั้งสิ้น ปล่อยให้นานวัน เพื่อไทยจะเสียคนไปใหญ่ ก้าวไกลจะโตขึ้น ทั้งหมดมาจากความสิ้นหวังที่มีต่อรัฐบาลแนะหยุดไหว้สวยเร่งสร้างผลงานนายวันชัยกล่าวว่า รัฐบาลจะล้มได้มาจาก ๓ ปัจจัยคือ ๑.พรรคร่วมหรือผู้มีอำนาจแตกกัน ๒.ทุจริตคอร์รัปชัน ๓.ไม่มีผลงาน ในสถานการณ์นี้สองเรื่องแรกยังไม่มีปัญหา พรรคร่วมต้องกอดคอกันไปตลอดรอดฝั่ง จะแตกไปอยู่กับก้าวไกลเป็นไปไม่ได้ ส่วนการทุจริตมีให้เห็นทั้งอดีตและปัจจุบันว่า มีรัฐมนตรีกระเด็นหลายคน ติดคุกยังไม่ออกมาก็มีให้เห็น ขืนทะเล่อทะล่าโกงกินเหมือนเก่า ฝ่ายค้านคงลากไส้เป็นชิ้นๆ รัฐบาลจะย่อยยับมากขึ้น ไม่มีใครดันทุรังทำอย่างนั้น เรื่องผลงานจึงเป็นเรื่องใหญ่ของเพื่อไทยที่ต้องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นเป็นประจักษ์อีกครั้ง มัวเงื้อง่าราคาแพงจะโดนโห่ฮา ใครพยายามจะปลุกเสื้อแดงขึ้นมาเชียร์มาให้กำลังใจ ปราศรัยด่าคนโน้นนี้ เลิกเถอะ แกนนำควรไปบอกให้เพลาๆ ยุคนี้รัฐบาลไม่มีเหลือง ไม่มีแดง ไม่มีสีอะไร เขาเลิกกันแล้ว อย่าตกยุคสมัย สร้างความขัดแย้งในสถานการณ์นี้ อย่าไปให้ราคาอะไร ยิ่งผลงานไม่มี แล้วปล่อยให้สีโน้นสีนี้เคลื่อนไหว รัฐบาลจะไปรอดหรือ เร่งสร้างผลงานที่หาเสียงไว้ให้ออกมาไวๆ อย่ามัวรำมวย ไหว้สวยกันอยู่อย่างนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ “ลุงป้อม” นำ พปชร.ลุยหนองคายเมื่อเวลา ๐๙.๑๐ น. ที่โรงแรมพันล้าน อ.เมือง จ.หนองคาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สวมเสื้อเชิ้ตสีแดง ทับด้วยแจ็กเกตสีแดง ยี่ห้อลาคอสท์ กางเกงสแล็กและรองเท้าผ้าใบแดง ไปเป็นประธานเปิดเวทีวิชาการรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชน ผู้ประกอบการเอกชน กลุ่ม จ.หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ หนองบัวลำภู และเลย ในกิจกรรมพรรค พปชร.สัญจร ครั้งที่ ๒ ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร มาถึงนายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต ๑ รวมถึงตัวแทนกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยนำผ้าขาวม้ามาผูกต้อนรับ และมีรองนายก อบจ.นำพระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย มามอบให้ ต่อมา พล.อ.ประวิตร เปลี่ยนใส่เชิ้ตขาวสวมทับด้วยแจ็กเกตพรรคสีน้ำเงิน กางเกงสแล็กดำ รองเท้าหนังสีดำ ไปที่โรงเรียนฮั่วเคียวกงฮัก อ.เมืองหนองคาย ติดตามผลงานเรื่องดินน้ำ กีฬา รวมถึงเยี่ยมชมการลงทะเบียนของเกษตรกร เพื่อเปลี่ยน ส.ป.ก.๔-๐๑ เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อยากให้ประชาชนทุกคนมีที่ดินทำมาหากิน เรื่อง ส.ป.ก.เป็นโฉนดเป็นนโยบายของพรรค พปชร.จะจัดการให้ทั้งหมด โดย พล.อ.ประวิตรขึ้นเวทีพบปะประชาชน นำแกนนำ พปชร.ร่วมจับเข่าคุยประชาชนและผู้ประกอบการ จ.หนองคาย เพื่อพัฒนาแลนด์มาร์กท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชน โดยได้ถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยอย่างเป็นกันเองข้ามโขงจับเข่าคุยนายกฯ สปป.ลาวต่อมาเวลา ๑๓.๒๕น. พล.อ.ประวิตรเปลี่ยนใส่ชุดสูท นั่งรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน นข ๑๑๑๑ หนองคาย พร้อมคณะ ข้ามไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พบกับนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เป็นการส่วนตัว โดย พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า รู้จักกันมานานไปคุยกันเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แน่นแฟ้นกันมานาน คุยเรื่อง ๒ กระทรวงหลักที่พรรค พปชร.รับผิดชอบว่าเราจะทำอะไรกันได้บ้าง รวมถึงการแก้ไขปัญหา PM ๒.๕ ด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯกำลังแก้ไขอยู่ เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะเป็นอีกแรงหนึ่งในการแก้ไขปัญหา PM ๒.๕ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ไม่ได้เป็นอีกแรง เพราะกระทรวงหลักคือกระทรวงทรัพยากรฯ ที่ต้องมาพูดคุยกัน เมื่อถามว่า ถ้ามีโอกาสจะหาทางช่วยรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า“ผมก็อยู่ในรัฐบาลอยู่แล้ว จะไปทำงานให้ใครล่ะ ก็ต้องทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชนด้วย”เชิญ สส.ก้าวไกลมาตามหาได้ที่บ้านเมื่อถามว่ากรณีที่พรรค ก.ก.อภิปรายในสภาฯถามหา พล.อ.ประวิตร ปรากฏว่า พล.อ.ประวิตร กล่าวสวนทันทีว่า มันผิดหรือไม่ ถ้าอยากมาหา ก็มาหาสิ มาหาที่บ้าน เมื่อถามว่า จะมีโอกาสไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ส่ายศีรษะปฏิเสธตอบคำถามจับมือร่วมมือแก้ปัญหา PM ๒.๕ต่อมาเวลา ๑๕.๐๐ น. ที่ทำเนียบรัฐบาลสปป.ลาว พล.อ.ประวิตรและผู้บริหารพรรค พปชร.พบปะนายสอนไซ สีพันดอน นายกฯ สปป.ลาว โดยมีรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูง สปป.ลาว ต้อนรับ โดย พล.อ.ประวิตรแสดงความยินดีในการทำหน้าที่ประธานอาเซียน สปป.ลาว ปี ๖๗ พร้อมสนับสนุนเต็มที่และพร้อมพัฒนาความร่วมมือทุกด้านเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และผลประโยชน์ร่วมกันให้เจริญก้าวหน้าต่อไป รวมถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ ขณะที่นายกฯ สปป.ลาว กล่าวยินดีต้อนรับ พร้อมผลักดันความร่วมมือให้เกิดขึ้นทุกด้านอย่างเป็นรูปธรรมเช่นกัน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ ที่ภาคการเกษตรยังเผากำจัดวัชพืช จากนั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะเยี่ยมชม “โครงการเวียงจันทน์โลจิสติกส์พาร์ค” หรือ VLP ถือเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างไทย-ลาว-จีน มูลค่าประมาณ ๕๐๐ ล้านเหรียญดอลลาร์ เพื่อเชื่อมโยงระบบรางและโลจิสติกส์ในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง“อ๋อง” ชี้ขาดประชุมเกิน ๑ ใน ๔ สิ้นสภาพผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ตอบโต้ สส.พรรค ก.ก.ที่โจมตีว่า พล.อ.ประวิตรไม่เคยเข้าร่วมประชุมสภาฯ โดยย้อนถามว่า การไม่เข้าร่วมผิดหรือเปล่า ปรากฏว่าในเวลาต่อมา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ได้ทวีตข้อความผ่าน x ถึงกรณีดังกล่าวว่า “สส.ขาดประชุมได้ไม่เกิน ๑ ใน ๔ ของวันประชุมครับ ถ้าเกินโดยไม่ได้รับอนุญาตจากประธานสภาฯ จะสิ้นสุดสมาชิกภาพครับ”โพลชี้“ทักษิณ”ผู้ทรงอิทธิพลการเมืองวันเดียวกัน นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์) เผยผลสำรวจเรื่อง “ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองกับผู้น่าเห็นใจทางการเมือง” สำรวจเมื่อวันที่ ๒๗-๒๙ กุมภาพันธ์จาก ๑,๓๑๐ หน่วยตัวอย่างว่า บุคคลที่คิดว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง ร้อยละ ๔๒.๙๐ ระบุนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ร้อยละ ๒๑.๙๑ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ร้อยละ ๑๗.๔๐ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค ก.ก. ร้อยละ ๑๕.๑๑ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ร้อยละ ๑๐.๑๕ ระบุไม่มี ร้อยละ ๙.๐๑ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. ร้อยละ ๖.๑๑ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ร้อยละ ๔.๒๗ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. ร้อยละ ๓.๒๘ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เมื่อถามถึงบุคคลที่น่าเห็นใจทางการเมือง ร้อยละ ๔๖.๗๙ ระบุนายพิธา ร้อยละ ๑๗.๘๖ ระบุว่าไม่มีใคร ร้อยละ ๑๑.๔๕ ระบุ นายธนาธร ่ ร้อยละ ๑๐.๔๖ ระบุนายเศรษฐา ร้อยละ ๘.๕๕ ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ ๘.๐๙ ระบุนายทักษิณ ร้อยละ ๑.๙๑ ระบุ น.ส.แพทองธาร ร้อยละ ๑.๓๗ ระบุนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ ๑.๒๒ ระบุ พล.อ.ประวิตรนายกฯลั่นมีโอกาสไปแน่ ถ.พระราม ๒ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาก่อสร้างถนนพระราม ๒ ที่ล่าช้าว่า สั่งการไปแล้วหลายหน วันที่ ๔ มีนาคมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม จะลงพื้นที่ถนนพระราม ๒ ถนนอะไรสร้างมา ๕๔ ปีแล้ว ปัญหามันมีตลอดเวลา เข้าใจว่าเมื่อ ๑๐ กว่าปีที่แล้ว นายสุริยะเป็น รัฐมนตรีว่าการคมนาคม แก้ไขปัญหาพื้นที่ตรงบริเวณบางขุนเทียนที่เชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษก ผู้รับเหมาทิ้งงาน ท่านก็เป็นคนไปจัดการและแก้ไข วันนี้ผ่านมา ๑๗-๑๘ ปี นายสุริยะก็เวียนมาเป็น รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ท่านก็คงต้องกลับไปแก้ไขอีก เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมา ๕๐ กว่าปีแล้ว เมื่อถามว่านายกฯจะหาโอกาสลงพื้นที่ถนนพระราม ๒ด้วยตนเองหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า แน่นอนว่าต้องมีโอกาส แต่ท่านก็ทราบตารางงานตนอยู่ว่าแน่นขนาดไหน ชัย วัชรงค์คณะรัฐมนตรีรับหลักการรื้อ ก.ม.คุมน้ำเมานายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯแถลงผลการประชุม คณะรัฐมนตรีว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยนายกฯมอบให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ พร้อมคณะ ไปรีวิวสิ่งที่การท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องการผ่อนปรนด้านใดบ้าง แล้วนำเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๑ สัปดาห์ หาก คณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาทบทวนสาระให้เกิดสมดุลมิติ สุขภาพและเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว ส่วนคีย์เมสเสจที่ คณะรัฐมนตรีตัดสิน คือ ๑. ต้องทำให้กฎหมายมีความชัดเจนทุกมิติ เพื่อบังคับใช้ ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ไม่มีถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ๒.ให้กฎหมายมีความสมดุลทั้งด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ ๓.การผ่อนปรนแม่นยำ เฉพาะเจาะจงตามวัตถุประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว ทั้งนี้กฎหมายฉบับเดิมใช้มา ๑๖ ปี บทบัญญัติไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยร่างใหม่ กำหนดนิยาม “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์”ไฟเขียวเทงบฯ ๒๗๒ ล้าน แก้ไฟป่าน.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติงบฯปี ๖๖ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงิน ๒๗๒,๖๕๕,๓๕๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM ๒.๕ โดยนายกฯมีข้อสั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ปรับ KPI เชิงรุกแบบหวังผลให้ลดไฟป่า ๕๐% ขึ้นไปให้ดูแลป้องกันไม่ให้มีการทุจริตให้นำข้อมูลดาวเทียม และจุด Hot Spot มาใช้ และรวมถึงการจัดทีมระงับไฟป่าดูแลอย่างใกล้ชิดมท.๑อ้อน กมธ.งบฯปล่อยเงินซื้อ ฮ.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ไฟป่าใน จ.เชียงใหม่ว่า ผวจ.เชียงใหม่ที่อยู่ในพื้นที่ตลอดรายงานให้ทราบแล้ว ประสานขออุปกรณ์ต่างๆจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้าช่วยเหลือ บางวันควบคุมได้เรียบร้อย บางวันโผล่ขึ้นมาอีก ช่วงนี้อากาศร้อนและแห้งมาก จึงต้องขอความร่วมมือ พร้อมบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด ส่วนที่คณะอนุกรรมการด้านปกครองในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗ ตัดงบฯซื้อเฮลิคอปเตอร์ของ ปภ.จะอุทธรณ์ขอความเมตตาใน กมธ.งบฯ ยืนยันจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ ๑ ลำ จำเป็น เพราะนายกฯเร่งให้จัดหาอุปกรณ์ บรรเทาสภาวะหมอกควัน ฝุ่นพิษ ไฟป่า ได้กราบเรียนต่อนายกฯรวมถึงแกนนำพรรค พท. หลายคนแล้ว ที่เป็นรองประธาน กมธ.งบฯฮึ่มเจ้าหนี้นอกระบบขู่ลูกหนี้เจอคุกนายอนุทินกล่าวถึงนโยบายการแก้หนี้ทั้งระบบที่ปิดลงทะเบียนแล้วว่า แม้ปิดลงทะเบียนไปแล้วแต่วงจรยังอยู่ หากมีเหตุกลั่นแกล้งคุกคาม เจ้าหน้าที่เข้าไปไกล่เกลี่ยหาทางออกกับคู่กรณีได้ เมื่อถามว่านายกฯยังไม่พอใจตัวเลขไกล่เกลี่ยเจ้าหนี้กับลูกหนี้ จะเปิดเฟสสองหรือไม่ นายอนุทินตอบว่าคนที่มาลงทะเบียนมีแค่นี้ ส่วนคนไม่ได้ลงทะเบียน อาจเกิดกรณีมีเรื่องกัน เราใช้กลไกนี้เข้าไปแก้ไขปัญหา เมื่อถามว่าปมอิทธิพลจากเจ้าหนี้หรือไม่ทำให้ยอดไกล่เกลี่ยน้อย นายอนุทินตอบว่า ยิ่งไปใช้อิทธิพลยิ่งไม่ได้เงินคืน คนไม่มีตังค์จะทำยังไง จะไปยิงเขาทิ้ง นอกจากไม่ได้ตังค์คืน ยังเข้าคุกด้วย ตอนนี้ถ้ายิ่งไปทำร้ายกัน เจ้าหน้าที่สอบขยายผลอยู่แล้วอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่