วันอังคาร, 5 พฤศจิกายน 2567

ตะลุยชมความงาม ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โบราณสถาน อายุ ๑๑๕ ปี

17 ก.พ. 2024
53

วันนี้ “พี่ม้ามังกร” จะพาน้องๆ ไปตะลุยชมความงดงามของ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ต.ท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปัจจุบันอาคารหลังนี้มีอายุ ๑๑๕ ปี โดย ท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีเพื่อใช้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ทรงสิ้นพระชนม์ก่อน กระทั่งเป็นมรดกตกทอดมาถึงพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ ๖ และพระองค์ได้มอบตึกหลังนี้ให้แก่ทางราชการ ในปี พ.ศ.๒๔๘๒ จากนั้นได้กลายเป็นตึกผู้ป่วยที่สวยงามที่สุดจนถึงปี พ.ศ.๒๕๑๒ จึงมีการจัดทำเป็น พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร และในปี พ.ศ.๒๕๓๓ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นโบราณสถานของชาติตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตึกรูปแบบ สถาปัตยกรรมแบบบาโรก (Barogue) ของฝรั่งเศส เป็นอาคาร ๒ ชั้น ๖ ห้อง ใช้เงินค่าก่อสร้างสูงถึงหนึ่งล้านบาทเศษ (ในขณะก่อสร้าง) ทั้งตึกหลังนี้ยังมีศิลปะที่น่าสนใจถึง ๓ อย่าง คือ ลายปูนปั้น ลายปูนเปียก (ลวดลายวาดขึ้นเมื่อปูนยังไม่แห้งดี บริเวณเพดานห้อง) พื้นกระเบื้องโมเสกโบราณ และยังมีกลอนหน้าต่างประตูทองเหลืองที่เหลือแห่งเดียวในประเทศ ทันทีที่น้องๆ เดินเข้ามาภายใน ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จะพบห้องโถงกลาง เรียกว่า ห้องแห่งความรัก ประดับด้วยกามเทพคิวปิดที่บริเวณหัวเสารอบโถง ใช้จัดงานสำคัญ พิธีมงคล และมี รูปปั้นของท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อให้คนที่มาได้เคารพขอพร ด้านซ้ายมือเป็นห้องประชุม ห้องด้านขวามือ ซึ่งเป็นฝั่งเดียวกับแม่น้ำปราจีนบุรี เป็น ร้านยาไทยโพธิ์เงิน–อภัยภูเบศร โอสถ ซึ่งจำลองรูปแบบของร้านยาโบราณที่มีแพทย์แผนไทยคอยให้คำแนะนำ ซึ่งผู้ป่วยสามารถเข้ามารับการตรวจและรับยาได้ ทั้งภายในห้องนี้ยังมีโต๊ะหมู่บูชา และภาพครูอาจารย์ที่เคารพด้านการแพทย์แผนไทย รวมถึงจัดแสดง ตู้ยาและอุปกรณ์การแพทย์โบราณไว้ให้เรียนรู้อีกด้วย ที่สำคัญน้องๆ สามารถซื้อหายาสมุนไพรต่างๆ ทั้งยากิน ยาดม ยาทา จากผลิตภัณฑ์สมุนไพรนานาชนิดติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านอีกด้วย จากนั้นเมื่อเดินขึ้นบันไดไม้โบราณขนาดกว้างขวาง ซึ่งถูกเรียกว่า “บันไดเจ้า” เนื่องจากสมัยก่อนจะใช้เป็นบันไดสำหรับเจ้านายเดินขึ้นลง จะพบห้องแรกทางขวามือจัดแสดงนิทรรศการยาหอมที่เป็นไฮไลต์ บริจาคโดย บริษัท บุณยะรัตเวช มีตำรับยาหอมตราม้า เครื่องยาสมุนไพร และอุปกรณ์ที่ใช้ทำยาโบราณ มีลูกยอหมักไหอายุกว่า ๑๐๐ ปีถัดมา คือ ห้องโถงกลางชั้นบนเป็นห้องที่พบลวดลาย Stencil หรือลายฉลุรูปดอกกุหลาบสวยงาม อายุ ๑๑๕ ปี ค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๓ ระหว่างการบูรณะ ซึ่งดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงรัชกาลที่ ๕ และยังเป็นดอกไม้ที่ท่านเจ้าพระยาโปรดปรานที่สุดอีกด้วย ห้องสุดท้ายด้านซ้ายจัดแสดงชิ้นส่วนของตึกหลังนี้ อาทิ กระเบื้องมุงหลังคาของตึกนี้ ซึ่งผลิตจากประเทศฝรั่งเศส และรับรางวัลการประกวดการดีไซน์โลก ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยมีเพียงที่เดียวในประเทศไทย ถัดมาบริเวณด้านหน้ามีระเบียงเดินออกไปชมวิวได้ และเมื่อมองขึ้นไปด้านบนจะเห็น สัญลักษณ์ของสยามประเทศ คือ รูปประติมากรรมช้าง ประดับไว้ทั้งซ้ายและขวาก่อนกลับน้องๆ ยังสามารถเดินชมความงดงามของสวนสไตล์อังกฤษ หน้า ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่ประดับด้วยต้นไม้ทรงเตี้ย และน้ำพุขนาดใหญ่ด้วย น้องๆ ที่สนใจสามารถเข้าชม ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ทุกวัน เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. ครับ. คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยโลกใบใหญ่” เพิ่มเติม