เมื่อวันที่ ๑๖ ก.พ. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการโครงการประเมินนักเรียนร่วมกับนานาชาติ หรือพิซา ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการยกระดับผลคะแนนพิซาในปี ๒๐๒๕ โดยตนได้ฟังข้อมูลการนำเสนอแผนยกระดับเรื่องดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ซึ่งจากการรับฟังข้อมูลต่างๆ ทำให้ได้ทราบข้อมูลที่หลากหลายทำให้ได้ข้อสรุปในบางเรื่อง โดยที่ประชุมมีมติแต่งตั้ง ด็อกเตอร์ธงชัย ชิวปรีชา อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการยกระดับผลการประเมินพิซาของนักเรียนในปี ๒๐๒๕ พร้อมทั้งมีการกำหนดตัวชี้วัดในการขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานในประเด็นการยกระดับผลคะแนนพิซาด้วยรมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการยกระดับผลการประเมินพิซาของนักเรียนในปี ๒๐๒๕ นั้น จะแบ่งออกเป็นแผนระยะสั้นและแผนระยะยาว โดยแผนระยะสั้นนั้นจะเร่งให้มีการวางแผนเพื่อยกระดับผลการประเมินพิซา ๒๐๒๕ ของประเทศไทยให้ขยับมากขึ้น ส่วนแผนระยะยาวจะมีการวางแผนยกระดับสร้างความเสมอภาคทาง การศึกษาให้มากขึ้นในเรื่องนี้ เพราะจากผลคะแนนการประเมินพิซาในปี ๒๐๒๒ จะพบว่า นักเรียนในกลุ่มโรงเรียนสายวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์จะมีผลคะแนนที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ในขณะที่โรงเรียนขยายโอกาสของ สพฐ. และโรงเรียนในสังกัดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ยังมีคะแนนที่ต่ำกว่าเกณฑ์ นอกจากนี้ การยกระดับผลคะแนนพิซาแล้ว ตนยังคิดว่าจะต้องมีการยกระดับมาตรฐานการศึกษาของไทยทั้งหมดด้วย เนื่องจากการประเมินผลพิซาเป็นการประเมินที่บ่งชี้ให้เห็นว่าภาพรวมการศึกษาของไทยยังมีความไม่เท่าเทียมอยู่“กระทรวงศึกษาธิการได้มีการระดมแนวทางเพื่อยกระดับผลการประเมินพิซาของนักเรียนให้สูงขึ้น และทราบว่าขณะนี้ทาง สพฐ.ได้มีการปรับการเรียนการสอนที่ให้เด็กได้คิดวิเคราะห์มากยิ่งขึ้น รวมถึงนำแนวทางข้อสอบของพิซามาทดลองให้เด็กทำเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับข้อสอบ ดังนั้น ผมจึงเชื่อว่าการสอบพิซาปี ๒๐๒๕ ผลคะแนนของนักเรียนไทยจะมีคะแนนขยับสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะผมเคยพูดไว้ชัดเจนแล้วว่าเราจะทำอย่างเต็มความสามารถหากผลคะแนนไม่ดี ผมขอรับผิดชอบเอง” พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่