ตำรวจตามรวบ หนุ่มตีนผี วัย ๒๓ ปี ซิ่งรถชนแล้วหนี สังเวย ๓ ศพ อ้างไปเที่ยวดูหมอลำ นั่งซดเหล้ากับญาติ ๒ ขวด มีเรื่องวัยรุ่นเจ้าถิ่น ซิ่งรถกระบะหนีตาย พุ่งชน จยย. ๓ คัน ญาติผู้ตายลั่นไม่ให้อภัย ขอ ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเมื่อเวลา ๐๑.๓๐ น. วันที่ ๒๒ ก.พ. ๒๕๖๗ พ.ต.ท.ประชา มูลสาร สว.(สอบสวน) สภ.วังหิน รับแจ้งอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนคนเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนคอนกรีตเชื่อมระหว่างหมู่บ้านไทยบวกเตย-บ้านป่าใต้ ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.พงศ์กรณ์ ศรีสุวรรณ ผกก.สภ.วังหิน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังหิน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียนศรีสะเกษ สภาพพังเกือบทั้งคัน มี นางมาลี เกลาพิมาย อายุ ๕๕ ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บ ใกล้กันพบรถจักรยานไฟฟ้า มี นางวาสนา จันมณี อายุ ๔๘ ปี ชาว ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่ รพ.ศรีสะเกษ โดยมี นางบัวสอน วิลัย อายุ ๕๓ ปี ชาว ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เป็นคนซ้อนท้าย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุนอกจากนี้ ห่างกันประมาณ ๑๐๐ เมตร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มี นางศิริลักษณ์ ศรบุญทอง อายุ ๕๑ ปี ชาว ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต ที่ รพ.วังหิน ส่วนรถยนต์ที่ขับเฉี่ยวชน ขับหลบหนีไปหลังเกิดเหตุจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนขับรถยนต์ที่เฉี่ยวชน คือ นายปรีชา ไกรยา อายุ ๒๓ ปี ชาวบ้าน ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งรถยนต์ที่ขับก่อเหตุ คือ รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ ทะเบียนศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงแกะรอยติดตามไปจนกระทั่งจับกุมตัวได้ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และคุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.วังหินจากการสอบสวน นายปรีชา คนขับรถกระบะ ให้การว่า วันเกิดเหตุ ตนไปเที่ยวงานบุญชมหมอลำซิ่งกับญาติคนหนึ่ง และได้ดื่มเหล้ากันมาประมาณ ๒ ขวด จากนั้นหลังหมอลำเลิกทำการแสดง ตนมีเรื่องกับวัยรุ่นในพื้นที่ โดยถูกชกเข้าที่ใบหน้าจนปากแตก จากนั้นตนและญาติจึงรีบเดินกลับมาที่รถยนต์ที่จอดไว้ข้างบ้านงาน แล้วเร่งเครื่องขับหนีกลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องกันออกมาอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าจะถูกตามมาทำร้าย จนเป็นเหตุขับเฉี่ยวชนคนบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าวด้าน พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จทราบว่า ผู้ก่อเหตุขับรถมากับญาติซึ่งเป็นอา ไปดูหมอลำที่หมู่บ้านข้างเคียง โดยอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกาย จึงได้ขับรถหลบหนี ปรากฏว่าขับรถไปชนคนอื่น ในขณะที่ชาวบ้านร้องตะโกนให้หยุดรถ แต่ก็ไม่ยอมหยุดและไม่ยอมจอดรถลงมาดู อีกทั้งยังเร่งเครื่องความเร็วสูงและเปิดไฟสูง ชนกวาดเรียบจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว จากนั้นได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองจึงไล่ล่าติดตามตัวไป จนทราบว่าหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ อ.กันทรลักษ์ และพิจารณาจากสภาพความเสียหายตามข้อเท็จจริงแล้ว จึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ก่อนส่งตัวไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตำรวจกำลังคุมตัว นายปรีชา (คนขับรถกระบะ) ทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุอยู่นั้น มีชาวบ้านจำนวนมากและญาติๆ ของผู้เสียชีวิต แห่มามุงดูพร้อมตะโกนด่าทอสาปแช่งผู้ก่อเหตุ โดยลูกชายของ นางบัวสอน วิลัย หนึ่งในผู้เสียชีวิต ได้ออกมาตะโกนบอกไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุ เพราะก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมขับรถชนคนตายถึง ๓ ศพ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่อยากเห็นสีหน้าของผู้ก่อเหตุ และอยากจะให้ผู้ก่อเหตุไปขอขมาหน้าโลงศพของ นางบัวสอน ผู้เป็นแม่ และขอต่อยหน้าสักหมัด เพื่อระบายความทุกข์ที่อยู่ในใจ ย้ำไม่ให้อภัย และต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
