หมดโปรโมชันอากาศหนาว เข้าสู่ฤดูร้อนเต็มรูปแบบตามอุณหภูมิที่อบอ้าวตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ สัญญาณหน้าร้อนปีนี้มีแนวโน้มร้อนทะลักปรอท เจือกับฝุ่นควันพิษ PM๒.๕ ที่วิกฤติสาหัสกทม.ต้องขอความร่วมมือหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน อนุมัติให้ข้าราชการ พนักงาน “เวิร์กฟรอมโฮม” ทำงานอยู่บ้าน ลดการเกิดฝุ่นจากภาคขนส่งสภาพฝุ่นควันพิษตลบอบอวลเป็นฝาชีครอบระบายไม่ได้และด้วยดีกรีความร้อนของอากาศ บรรยากาศขมุก ขมัว ฝุ่นมฤตยูฟุ้งปกคลุมเมือง ยิ่งกระตุ้นไฟการเมืองจุดระอุเดือดอารมณ์เลือดพล่าน ม็อบชนม็อบ ถึงขั้นลงมือลงเท้า ตะลุมบอนระหว่างกลุ่ม “เด็กเฮี้ยว” กับแก๊ง “คนแก่ห้าว” ไล่ต่อย ไล่กระทืบ ฟัดกันแบบไม่สนวัย กระเหี้ยนกระหือรือบุกเข้าทำร้าย ขู่ตามล่าเอาเป็นเอาตายเถื่อนถ่อยแบบไม่สนกฎหมาย ไม่เห็นขื่อแปบ้านเมืองตามท้องเรื่อง อาการ “ฝีแตก” ชนวนปะทะลุกลามจากพฤติการณ์มิบังควรของ “เด็กเฮี้ยว” แก๊ง “ทะลุวัง” ที่อาจหาญก้าวล้ำเส้นแดนต้องห้าม ก่อวีรกรรมวีรเวรท้าทาย มุทะลุ บ้าดีเดือดหยามใจ เสียดแทงความรู้สึกของประชาชนกลุ่มผู้รักสถาบัน ปฏิบัติการยั่วต่อมหมั่นไส้ กระตุ้นจุดเดือดของแนวร่วมขบวนการต่อต้านแนวคิดของเด็กรุ่นใหม่ ที่เข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟันกับลูกหลานไม่อินประวัติศาสตร์ อารมณ์คนสูงวัย กำลังเขม่นเด็กยุคใหม่ที่บังอาจท้าทายความเชื่อแบบไทยๆ ไม่ศรัทธาในโบราณราชประเพณีที่ยึดถือกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษปรากฏการณ์เด็กเฮี้ยวแหย่ชนวนระเบิดล้ำแดนต้องห้าม เลยตูมตามสนั่นแรงสั่นไหวกระจายเป็นระลอกคลื่นเป็นวงกว้างไฟลามไม่หยุด กระตุกจุดแฝงพลังต่อต้านเด็กเฮี้ยว แสดงตัวแสดงตนกันชัดเจน ตามฉากที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ ปรากฏ การณ์ที่โรงเรียนนายร้อย จปร.ส่งหมายแจ้งข่าวผ่านสื่อล่วงหน้า จัดคิวเรียกแถวระดมพลโชว์ความเข้มขลังเป็นสัญลักษณ์ของท็อปบูตตบเท้าสำแดงฤทธิ์เดชปฏิบัติการ “จิตวิทยา” ขู่เด็กเฮี้ยวอย่ายั่ว อารมณ์ใกล้ตบะแตกเต็มทีสัญญาณกองทัพกระชับอิทธิฤทธิ์ผ่านนักเรียนทหาร นำร่องแนวร่วมสายอนุรักษ์นิยม หน่วยงานรัฐ องค์กรเอกชน นัดใส่เสื้อสีเดียวเป็นสัญลักษณ์เคลื่อนไหวแสดงให้เห็นพลังสะท้อนกลับที่ไม่ธรรมดาในสถานการณ์ที่ไม่พลาด นักเลือกตั้งอาชีพรีบลากไฟร้อนเข้าตะลุมบอนในสภาฯ อย่างที่สิงห์ปืนไว ค่ายรวมไทยสร้างชาติ โชว์บทตัวแทนกองทัพสลิ่มฝ่ายต่อต้านคนรุ่นใหม่ ได้จังหวะซัลโวลูกตามน้ำ ชงให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติเพิ่มความเข้มข้นในการอารักขาบุคคลสำคัญโหนขบวนแนวร่วมพิทักษ์สถาบัน กดดันให้กำราบ “เด็กเฮี้ยว”นำมาซึ่งฉากวิวาทะเดือดระหว่างนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย ตัวตึงค่ายเซราะกราว ภูมิใจไทย ที่นอตหลุด เพราะถูกนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฉายภาพโชว์กลางสภา นายชาดาถ่ายรูปหรากับหัวโจกกลุ่มอาชีวะราชภักดีสอดรับกับท่าทีดุดันในการเทกแอ็กชันบทองครักษ์พิทักษ์แดนต้องห้าม หวั่นว่าจะนำไปสู่การจัดการคนเห็นต่างอย่างรุนแรงปลุกผีเรียกปิศาจเดือนตุลาฯย้อนกลับมาหลอนซ้ำซากช็อตบู๊ในสภาฯ นัวเนีย ฉากเถื่อนบนถนนในจังหวะกดปุ่มปฏิบัติการถึงลูกถึงคน เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบบุกรวบตัวผู้สื่อข่าวสำนักข่าวดังและช่างภาพอิสระ ส่งโรงพักพระราชวัง ขังข้ามคืนในความผิด พระราชบัญญัติรักษาความสะอาด โทษฐานทำข่าวศิลปินอิสระพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว เมื่อปี ๒๕๖๖คดีค้างเก่า ปัดฝุ่นเดินหน้าในจังหวะคาบลูกคาบดอก ตามจังหวะต่อเนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง โชว์ภาพตั้งวงถกเครียดกับ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตำรวจเร่งล้อมคอกมาตรการอารักขาขบวนบุคคลสำคัญโดยที่นายกฯและ ผบ.ตำรวจประสานเสียงโทนเดียวกัน มีขบวนการอยู่เบื้องหลังให้ท้ายเด็กเฮี้ยวล้ำแดนต้องห้ามฮึ่มฮั่มตามล่าไอ้โม่งกันโขมงโฉงเฉง กระตุกสัญญาณแรงตำรวจ ๓-๔ โรงพักเดินหน้าถอนประกันหัวขบวนแก๊ง “ทะลุวัง” ก่อนล็อกตัวส่งศาลดำเนินคดี สั่งขังในเรือนจำตามสูตรล็อกหัว กำราบหาง ไม่ให้กระดิกแต่ฤทธิ์เดชเด็กดื้อด้านโทษทัณฑ์ หัวโจก “แก๊งทะลุวัง” ยังฝากข้อความถึงแนวร่วม ประกาศผ่านกรงขังอดข้าว อดน้ำ ประท้วงยอมตายหัวโจกแก๊งทะลุวัง ยอมแลกชีวิตตัวเองเป็นหัวเชื้อยั่วชนวนไฟ “เด็กเฮี้ยว” ไม่สะทกสะท้านไม้เรียวฟาดแรงๆ ไม่กลัวคุกตะราง ในจังหวะสวนทางอย่างบังเอิญ กับคนแก่ที่ไม่อยากให้เห็นภาพถูกขังอยู่ในเรือนจำ กำลังเก็บกระเป๋า รอเช็กเอาต์จากชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจตามการยืนยันของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม ยอมรับแบบไม่เม้ม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีชื่อเป็น ๑ ในนักโทษเด็ดขาด ๙๓๐ คน ที่กรมราชทัณฑ์เสนอบัญชีได้รับการพักโทษได้สิทธิอยู่ในข่ายนักโทษสูงอายุเกิน ๗๐ ปี มีอาการป่วยร้ายแรง และได้รับโทษจองจำมาแล้ว ๑ ใน ๓ หรือ ๖ เดือน จากที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือจำคุก ๑ ปี“นายใหญ่” ใกล้กลับไปนอนเล่นกับลูกหลานที่คฤหาสน์จันทร์ส่องหล้านับเป็นความสำเร็จอย่างงดงาม จากอดีตผู้นำที่ก่อความแตกแยกรุนแรง แทบไม่มีโอกาสเห็นเส้นทางกลับบ้าน แต่สุดท้ายสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ได้กลับบ้านอย่างเท่ๆโดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวตบหน้าศัตรูคู่อาฆาต หักเหลี่ยมฝ่ายต่อต้าน “ทักษิณ” ที่ต้องการเย้ยหยาม ประทับภาพ “นักโทษชาย” ให้เป็นราคีติดตัวอดีตผู้นำกองทัพสลิ่ม ม็อบพันธมิตร ได้แค่มองตาปริบๆทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อกระบวนการทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย เส้นทางกลับคฤหาสน์จันทร์ส่องหล้าของอดีตนายกฯถูกวางไว้อย่างเป็นแบบแผนกระแสสลิ่ม กปปส. พันธมิตรฯอ่อนกำลังไปตามสังขารแนวร่วม จุดเสี่ยงของ “นายใหญ่” ไม่ใช่โจทก์เก่า แต่เป็นความเสี่ยงสร้างโจทก์ใหม่ในจังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อ จะช่วยคุมไฟลาม หรือยิ่งโหมเพลิงในมุมถ้าการได้รับสิทธิพักโทษกลับไปนอนคฤหาสน์จันทร์ส่องหล้า ถูกขยายภาพเป็นการอุ้มคนแก่วีไอพี กระตุกต่อมหมั่นไส้ แนวร่วมเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังโดนคดีจากความเห็นต่างทางการเมืองไล่ล่าจุดชนวนไฟขยายผลปมเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมโยงภาพเปรียบเทียบกับชะตากรรมของเหยื่อการชุมนุมทางการเมืองด้วยอุดมการณ์บริสุทธิ์ ที่ถูกหลอกใช้ในเกมปั่นม็อบต่อรองอำนาจและผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ ที่พอจูบปากกันได้ ก็จบแบบฮั้วกันไปปล่อยผู้ต้องโทษ โดยเฉพาะคดีมาตรา ๑๑๒ โดนขังลืมในเรือนจำย้ำปมความไม่จริงใจของรัฐบาลเพื่อไทยในการเดินหน้าเข็นร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแบบชักเข้าชักออก ยึดผลประโยชน์ดีลอำนาจมากกว่าชะตาเหยื่อการปลุกปั่นทางการเมืองตามท้องเรื่อง ยั่วอารมณ์ จุดชนวนไฟติดได้ง่ายๆ ในสภาพต้นทุนหน้าตักของทีม “นายใหญ่” ติดลบหนัก จากการหักฝ่ายประชาธิปไตยไปผสมพันธุ์ข้ามขั้วกับทีมอำนาจ ๓ ป.กลายเป็น “นอมินี” ของฝ่ายอนุรักษ์นิยมเต็มคราบเดิมพันของ “นายใหญ่” จึงอยู่ที่การปั่นแต้ม เติมหน้าตักที่ติดลบหนัก กู้ศรัทธา ด้วยการกู้วิกฤติปากท้องประชาชนรากหญ้า ด้วยยี่ห้อ “ทักษิณ” ที่เคลมตีกินฟอร์มบริหารเศรษฐกิจขั้นเทพ เป็นความหวังของทีมงานเพื่อไทย หวังจะให้ “นายใหญ่” มาช่วยลากรัฐบาลผสมสูตรพิสดารภายใต้การนำของนายเศรษฐา ที่ผ่านมา ๖ เดือนยังขับเคลื่อนอยู่กับที่เนื้องานจับต้องไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากการโชว์อีเวนต์ เฮฮาในงานเลี้ยงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลนัดเลี้ยง สส. ร้องเล่นเต้นกันไปสนุกสนานกันในหมู่ผู้บริหารอำนาจ แต่ชาวบ้านชักไม่อินด้วยโคตรเซียนการตลาดอย่างนายทักษิณ ย่อมรู้สถานการณ์ดี อ่านเกมทะลุก่อนใคร ไฟต์บังคับต้องรีบดึงกระแสความนิยมทีม “นายใหญ่” ที่ดำดิ่งลึกไปทุกทีปัญหาคือ “ทักษิณ” วันนี้ กับ “ทักษิณ” เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว ความเข้มขลังในเชิงวิทยายุทธ์ลดน้อยถอยลงไปตามสังขารแค่ไหน ในสถานการณ์ที่ “นายใหญ่” ระเห็จไปอยู่นอกประเทศ ห่างหายจากเกมอำนาจไปนาน ถึงตอนนี้ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ลูกน้องเก่าที่เป็นมือเป็นไม้สายตรง ล้วนแต่เกษียณอายุไปหมดแล้ว“ทักษิณ” จะเชื่อมต่อกับทีมงานรุ่นใหม่ได้สนิทแค่ไหนโดยเฉพาะหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ โฟกัสไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่เป็นข้อต่อสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล“นายใหญ่” จะไล่ทุบ ไล่ต้อนให้อยู่ในโอวาทคงไม่ง่ายที่สำคัญไม่มีใครกล้าเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางกับมุกใช้เงินแผ่นดินหาคะแนนนิยมแน่ เพราะตัวอย่างมันเห็นกันชัดๆ ติดคุกจริง โดนยึดทรัพย์จริงทั้งหมดทั้งปวง มันคือความท้าทายจากผู้ได้รับฉายา “อัศวินคลื่นลูกที่สาม”วันนี้ต้องสู้กับคนรุ่นใหม่ กองทัพก้าวไกล “กุมาร ๕ จี” จะไหวมั้ย.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม