“สมศักดิ์” เผย “ทักษิณ” จ่อไปเชียงใหม่ ต้องขออนุญาตกรมคุมประพฤติ บอก แล้วแต่จะคิด คนมอง “บ้านจันทร์ส่องหล้า” เป็นศูนย์กลางทางการเมือง ขอเข้าพบแล้ว แต่ยังไม่ตอบรับ มองปรับภูมิทัศน์ทำเนียบฯ เพื่อหน้าตาประเทศวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๗ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีกระแสข่าวที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ว่า ในขณะพักโทษถ้าไม่นอนที่บ้านที่แจ้งไว้กับกรมคุมประพฤติ ก็ต้องขออนุญาตว่าจะเดินทางไปที่ไหน อย่างไร ระยะเวลาเท่าไร ถ้าไม่ได้ออกนอกประเทศก็สามารถขออนุญาตได้ ซึ่งถ้ากรมคุมประพฤติอนุญาตก็เดินทางไปได้ และหากร่างกายยังไม่ค่อยแข็งแรงก็ต้องมีแพทย์หรือพยาบาลคอยดูแล ส่วนคำถามว่าการเดินทางของ นายทักษิณ หากมีประชาชนไปพบหรือมีผู้สื่อข่าวไปดักรอ สามารถทำได้หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวตอบว่า ได้ ส่วนจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนได้หรือไม่ ตนไม่ทราบว่าเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติเขียนไว้หรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามต่อ การเดินทางไปเชียงใหม่ของ นายทักษิณ ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองและมีนัยสำคัญอย่างไรกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า เรื่องนี้แล้วแต่ใครจะคิด แต่นายทักษิณ ไม่ได้อยู่ประเทศไทยถึง ๑๗ ปี ก็เป็นธรรมดาที่จะคิดถึงบ้าน คิดถึงญาติพี่น้อง และก็มีคนที่คิดถึงนายทักษิณด้วยเช่นกัน และนายทักษิณ ก็ต้องการไปไหว้อัฐิบรรพบุรุษก็เท่านั้นเมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ที่จะมีผู้เห็นต่างหยิบยกกรณีนี้มาโจมตี เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกับรัฐบาลด้วย รองนายกรัฐมนตรี เผยว่า ก็ตอบคำถามได้ คงไม่เป็นไร ไม่น่าเป็นห่วงอะไร ทางด้านคำถามว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคเพื่อไทย จะใช้โอกาสนี้เดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อเข้าพบ นายทักษิณ ด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นมีนัดหมายอะไร ส่วนตัวก็ยังไม่ได้พบนายทักษิณ อยากไปพบอยู่ แต่ท่านยังไม่ให้พบ และที่ จ.เชียงใหม่ ก็คงไม่มีโอกาสได้พบในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสจะเข้าไปรดน้ำดำหัว นายทักษิณ หรือไม่ นายสมศักดิ์ เผยว่า “ก็ต้องขอไป แต่ไม่รู้จะให้ไปหรือเปล่า” เมื่อถามต่อไปว่าขอไปแล้วใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ให้คำตอบว่า “ยังไม่ตอบรับ” ในกรณีที่มีคนท้วงติงว่า นายทักษิณ ป่วยหนัก ไม่ควรเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ช่วงนี้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องฝุ่น PM ๒.๕ เยอะนั้น นายสมศักดิ์ มองว่า “บางครั้งคนเราหากยังพอขยับตัวได้ ก็คิดถึงบ้านเรือนที่เคยอยู่” ทั้งนี้ ในฐานะนักการเมืองอาวุโสอยากขอร้องให้ทุกฝ่ายมองข้าม นายทักษิณ ให้เป็นเรื่องปกติ ปุถุชนคนธรรมดาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “โอ๊ย อย่าไปขอร้องอะไรเลย ใครจะมองอย่างไรก็มองไปเถอะ เราตอบคำถามได้เราก็ตอบ ชี้แจงกันไป แบ่งความรู้ให้กันไป ไม่ต้องห่วงใครต่อใคร เป็นสิทธิของแต่ละคนอยากจะมอง อยากจะพูด อยากจะคิดอย่างไรที่จะไม่ไปละเมิดสิทธิคนอื่น ก็ว่ากันไป เรามีหน้าที่ตอบก็ตอบไป สนุกดีออก” ขณะที่กรณีนี้จะเป็นการตอกย้ำถึงการมีศูนย์กลางทางการเมืองอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า หรือการมีนายกรัฐมนตรี ๒ คนหรือไม่ นายสมศักดิ์ เผยว่า ก็แล้วแต่จะคิด แต่เราก็ไม่รู้ว่าศูนย์กลางอยู่ตรงไหน อะไร อย่างไร แต่วันนี้เรามีนายกรัฐมนตรีที่มีกฎหมายเป็นเครื่องมือทำงานอยู่ สั่งการดำเนินการ คนอื่นไม่มีเครื่องมือบริหารทำงานต่างๆ แต่จะห้ามหรือไม่ให้คนอื่นคิด หรือห้ามคนอื่นพูดคงไม่ได้ มันเป็นเรื่องของการเมือง ทำจิตทำใจไว้ เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกประเด็น นายทักษิณ ไปอภิปรายทั่วไปด้วยนั้น นายสมศักดิ์ ตอบกลับว่า “อย่างนั้นหรือครับ ขอบคุณที่บอกให้ทราบ”สำหรับกรณีที่มีการใช้งบประมาณ ๑๓๘ ล้านบาท ปรับภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเตรียมรับแขกบ้านแขกเมือง รองนายกรัฐมนตรี ตอบว่า ไม่รู้ แต่ส่วนตัวมองว่าเวลาแขกไปใครมาต้องดูสวยงาม ที่บ้านตน ภรรยาก็พยายามปรับอยู่ตลอด เดี๋ยวก็ปรับนู่นปรับนี่ เป็นเรื่องของมนุษย์ ของความชอบ ที่สำคัญเป็นเรื่องหน้าตาของบ้านเมืองก็ต้องปรับบ้าง ไม่เห็นจะเป็นอะไร ส่วนมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบประมาณที่ค่อนข้างมาก ก็มองว่า ถ้ามีเงินมากเราก็ปรับ ถ้าไม่มีเงินมากเราก็รอไปก่อน ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า งบฟอกอากาศในตึกไทยคู่ฟ้า แพงไปหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อันนี้ไม่ทราบ ถ้าอยากทราบเดี๋ยวจะไปตรวจให้ และตนก็ไม่ทราบเรื่องการใช้งบประมาณเพราะไม่ได้เป็นคนทำ เมื่อถามย้ำว่าเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ต้นไม้ก็ดูสูงไปแล้ว อากาศก็ร้อน ปรับใหม่บ้างก็ได้ สถาปนิกก็ต้องดูบ้าง” ทางด้านคำถามว่าที่ปรับแบบนี้ เฉยๆ หรืออย่างไรก็ได้ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า “เรายังไงก็ได้ ถ้ามีงบทำให้มันสวยก็ดีแล้ว ส่วนจะเป็นเรื่องฮวงจุ้ยของรัฐบาลหรือไม่ ก็แล้วแต่ใครจะคิด”