วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

“ธรรมนัส” เผย ปีนี้ไม่ได้ส่งพันธุ์ข้าวไทยประกวด จึงไม่ติดอันดับข้าวดีที่สุดในโลก

“ร.อ.ธรรมนัส” แจงปม พันธุ์ข้าวไทยไม่ติดอันดับในการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลกปี ๒๐๒๓ เพราะไม่ได้ส่งประกวด อัดลักลอบนำพันธุ์ข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาปลูกเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ ขณะที่กรมการข้าว เตรียมชงของบ ๒ พันล้านบาท หนุนกองทุนผลิต-ขยายพันธุ์ข้าววันที่ ๑๓ ธ.ค. ๒๕๖๖ ที่ห้องประชุมสุธรรมอารีกุล อาคารสารนิเทศ ๕๐ ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเวทีข้าวไทย ประจำปี ๒๕๖๖ ภายใต้แนวคิด “อนาคตข้าวไทย : โอกาสและความท้าทาย” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “นโยบายรัฐกับอนาคตข้าวไทย” ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับข้าวซึ่งเป็นสินค้าเกษตรหลักของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถด้านการผลิตและการตลาดตลอดโซ่อุปทาน โดยมีแนวทาง ดังนี้ ๑) ส่งเสริม สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ได้สายพันธุ์ข้าวที่หลากหลายตรงความต้องการของตลาด มีความต้านทานโรค ให้ผลผลิตสูง มีรายได้เพิ่มขึ้น ๒) นำเครื่องจักรกล เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในการผลิต เพื่อลดต้นทุนด้านการเกษตร ๓) ส่งเสริมการทำนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพภูมิอากาศ ลดการเผาตอซังในไร่นา ส่งเสริมให้เกษตรกรนำเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นามาใช้ประโยชน์ สร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น การผลิตปุ๋ย การนำไปเป็นอาหารสัตว์ และการนำไปใช้ในโรงไฟฟ้าชีวมวล ช่วยลดมลพิษทางอากาศ PM ๒.๕ ๔) สร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเพื่อให้เกษตรกรมีอำนาจในการต่อรองในการเข้าถึงปัจจัยการผลิตและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าว สามารถพึ่งพาตนเองได้  ๕) ส่งเสริมการผลิตข้าวที่ได้มาตรฐานรองรับตรงตามความต้องการของตลาด ๖) ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าข้าวให้เป็นผลิตภัณฑ์อื่น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต ๗) เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการโลจิสต์เพื่อการส่งออกข้าวไทย การส่งเสริมหาตลาดใหม่ที่มีกำลังซื้อ การเจาะกลุ่มตลาดข้าวเฉพาะ สร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จัก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณค่าและคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้าข้าวไทยร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวถึงกรณีที่มีประเด็นพันธุ์ข้าวไทยไม่ติดอันดับในการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลก The World’s Best Rice ๒๐๒๓ ในปีนี้นั้น ขอชี้แจงว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากปีนี้ประเทศไทยไม่ได้ส่งพันธุ์ข้าวเข้าประกวด ซึ่งหน่วยงานที่ส่งเข้าประกวดคือ กระทรวงพาณิชย์ และสมาคมผู้ส่งออกข้าว สำหรับกรณีการลักลอบนำเข้าสายพันธุ์ข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาปลูกในไทยนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แม้จะปลูกได้ปริมาณที่มากกว่าหรือเท่ากัน แต่ขอให้คำนึงถึงคุณภาพและเป็นสำคัญ เนื่องจากสายพันธุ์ข้าวไทยมีอัตลักษณ์เฉพาะ ซึ่งกรมการข้าวต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับแก่เกษตรกร อีกทั้งได้เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้สำหรับฤดูกาลผลิตหน้าแล้ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญจะทำอย่างไรให้เมล็ดพันธุ์ข้าวมีคุณภาพดี ผลผลิตต่ำ กรมการข้าวจึงต้องตระหนักและมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ทนทานต่อโรค และตรงความต้องการของตลาดโลกเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยทั้งนี้ ประเทศไทยมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ๔.๖๘ ล้านครัวเรือน หรือประมาณ ๑๗ ล้านคน เนื้อที่เพาะปลูกข้าวนาปีและนาปรัง เฉลี่ยปีละ ๗๐-๗๑ ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ ๔๗ ของเนื้อที่ทำการเกษตรทั้งประเทศ (๑๔๙ ล้านไร่) มีผลผลิตข้าวประมาณ ๓๑ – ๓๒ ล้านตันข้าวเปลือกต่อปี หรือประมาณ ๒๐ ล้านตันข้าวสาร โดยในปี ๒๕๖๕ ไทยส่งออกข้าวได้ ๗.๗๑ ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า ๑๓๘,๖๙๘ ล้านบาท และปี ๒๕๖๖ (ม.ค.-ก.ย.) ส่งออกได้แล้ว ๖.๐๘ ล้านตัน มูลค่า ๑๑๗,๕๙๐ ล้านบาทด้าน นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ปีนี้กรมการข้าวจะประกาศพันธุ์ข้าวเพิ่มอีก  ๘ สายพันธุ์ ช่วงเดือนเมษายน ปัจจุบันกรมการข้าวมีพันธุ์ข้าวมากกว่า ๒๐๐ สายพันธุ์ และพันธุ์ที่กำลังเป็นที่ต้องการ คือ ข้าวพื้นแข็งกข ๘๕ และ กข ๙๕ เกษตรกรมารอคิวที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ฯตั้งแต่ตีสามจนถึงหกโมงเช้า กระแสตอบรับดีมาก เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในภาครัฐโดยเฉพาะกรมการข้าวกับศูนย์ข้าวชุมชน ต้องผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเท่าไร ถึงจะเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร อธิบดีกรมการข้าวกล่าวย้ำว่า ๕๐๐,๐๐๐ ตันถึงจะเพียงพอทั้งนี้ กรมการข้าวเอง งบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด ขณะนี้กรมฯมีสภาพคล่องไม่เพียงพอ สำหรับเตรียมเมล็ดพันธุ์คุณภาพดี สำหรับให้ชาวนาไว้เพาะปลูก จึงเตรียมเสนอของบกลาง วงเงิน ๒,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อสมทบเข้ากองทุนหมุนเวียนเพื่อผลิตและขยายพันธุ์ข้าว ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ ๒,๐๐๐ ล้านบาท สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ประมาณปีละ ๑.๐๕ แสนตัน เติมเข้ามาอีก ๒,๐๐๐ จะทำให้ได้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีสู่พี่น้องชาวนา ๒.๑๐ ตัน”