ศ.ด็อกเตอร์สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดเผยว่า จากการที่ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการ กสศ.ได้เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับการสร้างโอกาสทางการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมานายเศรษฐาเคยให้การสนับสนุน กสศ.เปิดพื้นที่นวัตกรรมการเรียนรู้ ราชบุรีโมเดล เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยส่วนตัวเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงไม่ยอมปล่อยให้ระบบการศึกษาไทยเป็นอย่างที่เป็นอยู่แน่นอนซึ่งจากการหารือดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้ให้การสนับสนุน กสศ. ๓ เรื่องคือ เรื่องแรก คณะรัฐมนตรีมีมติขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้กับ กสศ.ออกไปอีก ๕ ปี ลดหย่อนภาษีได้ ๒ เท่า ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม๒๕๖๗-วันที่ ๓๑ ธันวาคม๒๕๗๑ เรื่องที่สอง การสนับสนุนให้ออกสลากการกุศล นำเงินสนับสนุน กสศ.วงเงิน ๒๐๐ ล้านบาท เรื่องที่สาม การสนับสนุนการจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้า เลข ๑๓ หลักของเด็กไทยทั่วประเทศ ซึ่งทำให้เรารู้ข้อมูลทันทีกรณีเด็กหลุดจากระบบ และจะไปตามตัวเด็กได้จากที่ใดกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวต่อไปว่า จากการจัดตั้งงบประมาณปี ๒๕๖๗ ของรัฐบาล แม้ว่าจะไม่สะท้อนนโยบายที่รัฐบาลนี้ได้เคยหาเสียงไว้ แต่ยังพอมีสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่า หลังปี ๒๕๖๗ รัฐบาลน่าจะผลักดันการปฏิรูปการศึกษาอย่างเต็มที่ โดยเห็นได้จากการที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เร่งจัดทำร่าง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.โดยแก้ไขในข้อเห็นต่าง ๑๗ ข้อแล้วทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาในสมัยประชุมนี้ได้ทัน ทั้งยังมีการปัดฝุ่นหลักสูตรฐานสมรรถนะขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าเรื่องนี้จะต้องมีการปรับปรุงอีกค่อนข้างมาก แต่ก็มีความเห็นตรงกันในเรื่องหลักการ“เชื่อว่าการศึกษาน่าจะดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลควรใช้จังหวะนี้ปฏิรูปการศึกษา ภายใน ๓-๖ เดือนให้เห็นผล เพราะขณะนี้คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเรื่องคุณภาพการศึกษา การมีงานทำ ปัญหาสังคม หากรัฐบาลไม่เร่งปฏิรูปการศึกษาตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อซื้อใจคนรุ่นใหม่ ไม่เช่นนั้นทุกพรรคก็จะถูกคนรุ่นใหม่เมิน” ศ.ด็อกเตอร์สมพงษ์กล่าว.
นายกฯไฟเขียวสลากการกุศลหนุน กสศ. ขยายเวลา ๕ ปี มาตรการภาษีหนุนการบริจาค
เรื่องที่เกี่ยวข้อง