รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยัน ยึดมั่นอุดมการณ์ไม่เป็นพรรคอะไหล่ในการร่วมรัฐบาล ตั้งเป้า ๖ เดือน – ๑ ปี เพิ่มสมาชิกพรรคทั้งคนใหม่ และดึงคนเก่าหวนกลับมาร่วมงานวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๖ นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าระหว่างรอให้ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันเพื่อรับรองเป็นทางการของคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ เข้าบริหารงานพรรค ว่า ขณะนี้ว่าที่ กก.บห. พรรคหลายคน เริ่มเตรียมการเพื่อพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อเดินหน้าทำงานในภาระหน้าที่ที่รับมอบหมายตามตำแหน่ง ทั้งนี้ ทุกคนต่างยอมรับว่าการทำงานเพื่อฟื้นฟูพรรคในห้วงเวลานี้เป็นเรื่องที่ยาก แต่เราทุกคนต่างไม่ย่อท้อหรือถอดใจ ถึงแม้หลายฝ่ายจะคิดว่า กก.บห. พรรคชุดนี้ จะมีต้นทุนต่ำ โดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบค่อนข้างมาก รวมถึงการปรามาสจากหลายฝ่ายที่ไม่คาดหมายถึงผลสัมฤทธิ์ในเนื้องานที่จะเกิดขึ้นในระยะใกล้นี้ สำหรับเราที่เป็นทีมผู้บริหารพรรค พร้อมทุ่มเททำงาน ปิดช่องว่างแก้ไขปัญหา เพื่อเติมเต็มและทำความเข้าใจผ่านผลงานที่เราทำ ที่จะเป็นตัวสะท้อนและชี้วัดความพึงพอใจของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศและสังคมไทยสำหรับการดำเนินงานภายในพรรคช่วงแรก นายชนินทร์ ระบุว่า คงจะมีการเริ่มต้นเดินหน้าทำงาน โดยต้องเร่งถอดบทเรียนความล้มเหลวและความแตกแยกที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำในอนาคต อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเราจะตั้งเป้าหมายเบื้องต้นเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นที่ยอมรับ และมีสมาชิกทั้งใหม่และสมาชิกเก่า รวมถึงผู้สนับสนุนพรรคเดิมที่ลาออกไปแล้ว ให้หวนกลับเข้ามาร่วมการทำงานเพิ่มกับพรรคให้มากขึ้น “ตั้งเป้าภายใน ๖ เดือน ถึง ๑ ปี ว่า เราน่าจะมีสมาชิกพรรคเพิ่มมากขึ้น เพื่อร่วมงานพัฒนาพรรคไปข้างหน้าต่อไป โดยจะมีการเดินสายของ กก.บห. พรรค ไปพบปะพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกพรรคทั่วประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น และปรับจูนทัศนะความคิดให้เข้าใจและตรงกัน ที่สำคัญคือการรับฟังปัญหา คือเสียงสะท้อนต่างๆ ของพี่น้องประชาชน เพื่อนำไปติดตามเสนอให้รัฐบาลนำไปแก้ไขปัญหา หรือทำเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ในอนาคตต่อไป” นายชนินทร์ เผยในช่วงท้ายว่า สิ่งสำคัญที่ กก.บห. ชุดนี้ต้องให้ความชัดเจนคือ ต้องพิสูจน์การทำงานที่ยึดมั่นพันธสัญญาของหัวหน้าพรรคที่ให้ไว้ในที่ประชุมใหญ่ครั้งแรกเมื่อได้รับตำแหน่งว่า จะยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรค ไม่เป็นพรรคอะไหล่ในการร่วมรัฐบาล และจะรีบทำงานฟื้นฟูเรียกศรัทธาภายในพรรค เพื่อการเปลี่ยนผ่านให้เร็วที่สุด.