ผู้การ ปปป.แฉ “เอก ปากน้ำ” เปลี่ยนซิมการ์ดลบหลักฐานในมือถือในโน้ตบุ๊กทิ้งหมดก่อน ตำรวจเข้าจับแต่ไม่หนักใจเพราะส่งไปกู้ข้อมูลกลับมาได้แน่เชื่อจะได้เห็นอะไรอีกเยอะ เผยอีกเมื่อปีที่แล้วถูก “แรมโบ้ อีสาน” แจ้งดำเนินคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ระบุพฤติกรรม อันตราย ด้าน เสธ.หิมาลัย ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน ในฐานะแกนนำพรรครวมไทย สร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กระบุปม “เจ๋ง” โดนคดีเป็น เรื่องส่วนตัวให้แจงสังคมเอง ฟาดแรงนี่พรรคการเมือง ไม่ใช่โรงเรียนอนุบาลที่ต้องมานั่งอบรมความประพฤติกรณีตำรวจ บก.ปปป. เข้าตรวจค้นบ้านอดีต ภรรยานายเอกลักษณ์ วารีชล หรือเอก ปากน้ำ อายุ ๔๗ ปี คีย์แมนคนสำคัญก๊วน “ศรีสุวรรณ” รีดทรัพย์ อธิบดีกรมการข้าวแลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริต ยึดโทรศัพท์มือถือของอดีตภรรยานายเอกลักษณ์มาตรวจสอบหลังพบว่ามีการลบแชตที่คนทั้งคู่สนทนากันหลายสิบรายการความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ ๔ ก.พ. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เปิดเผยกรณีการตรวจค้นและจับกุมนายเอกลักษณ์ วารีชล หรือเอก ปากน้ำ คีย์แมนสำคัญก๊วน “ศรีสุวรรณ จรรยา” ว่า หลักฐานที่ตำรวจ บก.ปปป. ตรวจยึดได้นั้น มีทั้งหนังสือ และเอกสารต่างๆจำนวนมากจะต้องนำมาตรวจดูว่า มีส่วนไหนเกี่ยวข้องคดีบ้าง ส่วนโทรศัพท์มือถือนายเอกลักษณ์ที่ยึดมาตรวจสอบพบว่ามีการเปลี่ยนซิมการ์ดใหม่เมื่อวันที่ ๒๙ ม.ค. ก่อนจะเข้าจับกุม รวมทั้งข้อมูลต่างๆที่อยู่ในคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตต่างๆล้วนแต่ถูกลบข้อมูลทำลายหลักฐานไปก่อนหน้า คาดว่าผู้ต้องหาน่าจะรู้ตัวก่อน แต่ไม่ได้หนักใจเพราะ สามารถส่งหลักฐานทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์และกู้ข้อมูลมาดูได้เกือบทั้งหมดเพื่อนำมาพิสูจน์ทราบได้ เชื่อว่าจะได้เห็นข้อมูลอะไรอีกเยอะพอสมควรผบก.ปปป. กล่าวต่อว่า สำหรับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก นั้น ก่อนที่จะจับกุมเมื่อวันที่ ๑ ก.พ. พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้ส่งข้อมูล ของนายเจ๋ง ให้ ป.ป.ช. ตีความเรื่องสถานะมาก่อนแล้ว จากนั้นได้ขอศาลออกหมายจับ แต่หลังจับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา หรือการ์ตูน จิระพุทธิภาคย์ มาได้แล้วนั้น พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ได้ทำหนังสือสอบถามถึงประธานสภา รวมทั้งชุดคณะกรรมธิการต่างๆ ว่า ทั้งหมดมีสถานะใดในคณะ กรรมาธิการ ขณะนี้กำลังรอหนังสือตอบกลับอยู่รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางการสืบสวนพฤติกรรมนายเอกลักษณ์ หรือเอก ปากน้ำ พบว่ามี พฤติกรรมชอบร้องเรียนมาตั้งแต่สมัยที่เรียนปริญญาเอก เริ่มจากการร้องเรียนอาจารย์ประจำภาควิชาหลายคน ที่สอนนายเอกต่างถูกร้องเรียนเรื่องต่างๆมาตลอดนอกจากนี้ เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์๖๖ นายเอกลักษณ์ ยังเคยถูกนายเสกสกล อัตถาวงษ์ หรือแรมโบ้ อีสาน แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ นายเสกสกลกล่าวอ้างว่า พฤติกรรมนายเอกลักษณ์มีความอันตราย มักทำตัวเป็นนายหน้าไปรับงานจาก บริษัทต่างๆแล้วกล่าวอ้างจะเคลียร์ให้ ทำให้บางบริษัท รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องของทีโออาร์ จากนั้นนายเอกลักษณ์จะเสนอตัวอาสามาร้องเรียนที่สำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักปลัด เอาเอกสารที่มีการ ออกเลขร้องเรียนแล้วไปข่มขู่เข้าข่ายเป็นการตบทรัพย์ ที่ผ่านมามีการไปแจ้งความไว้แล้วที่ สถานีตำรวจนครบาลดุสิตทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์๖๖ นายเอกลัษณ์ได้เผยแพร่เอกสารถึงสื่อมวลชน มีข้อความหนึ่งระบุชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่รู้จักกับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก มานาน ช่วยเหลือรับส่งกันในฐานะคนสนิทกันด้วยก่อนนี้เมื่อช่วงค่ำวันที่ ๓ ก.พ. นายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน) ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความ ในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า พรรคนี้ไม่มีเรื่องส่วนตัว!! รทสช.เป็นพรรคการเมือง ไม่ใช่โรงเรียนอนุบาล ยืนยัน!! อุดมการณ์ทำเพื่อชาติ อดมื้อ กินมื้อ ก็ต้อง พร้อมทำใจ กรณีของคุณเจ๋ง ดอกจิก โดนกล่าวหาว่า ไปพัวพันกับขบวนการตบทรัพย์ท่านอธิบดีกรมข้าวที่กำลังเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ ต้องเรียนพี่น้องประชาชนทุกท่านเลยนะครับ ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของ คุณเจ๋งล้วนๆ เป็นเรื่องที่คุณเจ๋งจะต้องไปตอบสังคมและต่อสู้คดีเอาเองโพสต์ของอดีตนายทหารคนดังระบุต่อว่า คุณเจ๋ง ดอกจิก เข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ตาม โครงการสมานฉันท์ของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ต้องการสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ภายใต้แนวความคิดของการอยู่ร่วมกันบนความเห็นต่าง ที่ไม่ต้องการให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนคนในชาติแบ่งแยกกันเป็นก๊ก เป็นเหล่า เป็นสีอีกต่อไป เรียกว่า เป็นการสลายสีเสื้อ ก้าวข้ามความขัดแย้ง พรรครวมไทย สร้างชาตินั้นเปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีอุดมการณ์ทาง การเมืองในการที่จะสร้างสรรค์พัฒนาประเทศชาติ บำรุงรักษาศาสนา ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข การร่วมงาน ตามอุดมการณ์ของพรรค ทุกคนจึงมีอิสระในการทำงาน ตามแนวทางของตัวเอง แต่ที่นี่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ให้แสวงหา การบริหารพรรค โดยท่านหัวหน้าพรรค นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และท่านเลขาธิการพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ผู้ที่มีโอกาสได้บริหารงาน ราชการการเมืองในตำแหน่งต่างๆ ต้องเร่งขยันสร้างผลงานให้ปรากฏต่อสายตาของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผู้หยิบยื่นโอกาสให้พรรครวมไทยสร้างชาติได้ทำงาน รับใช้พวกท่านทั้งหลายนายหิมาลัยระบุในโพสต์บัญชีเฟซบุ๊กตัวเองอีกว่า จุดแข็งเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตของพรรคในบางครั้งอาจกลายเป็นจุดอ่อน หากผู้เข้ามาร่วมงาน การเมืองของพรรค ต้องการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือลาภอันมิควรได้ บุคคลเหล่านี้จึงอาจจะต้องไปหาหนทางจากที่อื่น อยู่นอกเหนือการควบคุมของพรรค พรรคการเมืองจึงเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน มาช่วยกันทำงาน เพื่อประเทศชาติตามนโยบายและแนวทางของพรรคนั้นๆ ไม่ใช่โรงเรียนอนุบาลที่จะมานั่งคอยอบรมสั่งสอนควบคุมความประพฤติของสมาชิกและผู้ร่วมงาน แต่ละท่านที่มาร่วมอุดมการณ์ย่อมต้องระวังตัว ควบคุม จิตใจตัวเองให้ยึดมั่นและมั่นคงในอุดมการณ์ แม้จะ ต้องอยู่อย่างยากลำบาก อดมื้อกินมื้อ แต่นั้นคือเกียรติยศ ทางการเมืองของแต่ละท่าน เรื่องที่เกิดขึ้นจึงเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่จะเข้าสู่ถนนการเมืองได้พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ ส่วนคุณเจ๋ง ดอกจิก นั้น คงต้อง เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ที่จะต้องไปพิสูจน์ตัวเอง ตามวิถีทางของขบวนการยุติธรรมและบริบทของสังคมต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่