กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (ปภส.) ยื่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน ชงศาล รธน.ชี้ หลัง “ธนาธร” ประธานคณะก้าวหน้า โผล่นั่ง กมธ.ถ่ายโอนกิจการกองทัพ ขัดคำวินิจฉัย ศาล รธน.สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ หรือไม่เมื่อเวลา ๑๓.๓๐ น. วันที่ ๒ ก.พ. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (ปภส.) เข้ายื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายเอกพจน์ ถิรวณิชย์ ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบและปฏิบัติการเร่งด่วน เพื่อขอให้ผู้ตรวจฯ เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่น ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๕/๒๕๖๓ เรื่องพิจารณาที่ ๓๗/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๒๑ ก.พ. ๒๕๖๓นายทรงชัย กล่าวว่า ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๗๒ วรรคหนึ่ง (๓) และวรรคสอง ประกอบมาตรา ๗๒ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ ๒ ม.ค. ๒๕๖๒ หรือวันที่ ๑๑ เม.ย. ๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๙๒ วรรคสอง มีกำหนดเวลา ๑๐ ปี นับตั้งแต่ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ และห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาอีก ภายในกำหนด ๑๐ ปี นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๙๔ วรรคสองต่อมา วันที่ ๒๕ ม.ค. ๖๗ ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนหน้าที่การให้บริการไฟฟ้า ที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการของกองทัพไปอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง รวมถึงการถ่ายโอนธุรกิจต่างๆ ของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาล ของ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ โดย กมธ.ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล มีชื่อ นายธนาธร มาเป็น กมธ.ด้วย ซึ่งวันที่ ๓๑ ม.ค. ที่ผ่านมา นายธนาธร เข้าร่วมประชุมกมธ.ดังกล่าว นัดแรกนายทรงชัย กล่าวว่า ตนอาศัยรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๖๐ มาตรา ๔๑ ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๒ ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๓๐ ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔๑ ได้มีคำวินิจฉัย และขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ ปี ๖๐ มาตรา ๒๑๐ (๒) ประกอบมาตรา ๑๘๕(๓) การบรรจุ แต่งตั้ง นายธนาธร เป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
