ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งใหญ่อินโดนีเซียชี้ว่า นายปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีว่าการกลาโหม ชนะขาดด้วยคะแนนเสียงเกินครึ่ง จ่อได้เป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาย ปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ออกมาประกาศชัยชนะการเลือกตั้งในวันพุธที่ ๑๔ ก.พ. ๒๕๖๗ หลังผลการนับคะแนนอิสระอย่างไม่เป็นทางการชี้ว่า เขาได้คะแนนเสียงเกินกว่า ๕๘% และไม่จำเป็นต้องจัดการลงคะแนนรอบ ๒ อีกต่อไปนายปราโบโว วัย ๗๒ ปี จากพรรคเกอรินดรา (Gerindra) พร้อมด้วยนาย ยิบราน รากาบูมิง รากา แคนดิเดตรองประธานาธิบดี และบุตรชายของนาย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ขึ้นกล่าวปราศรัยต่อหน้าผู้สนับสนุน โดยนายปราโบโวให้คำมั่นว่า จะเป็นผู้นำ, ปกป้อง และคุ้มครองชาวอินโดนีเซียทุกคน“เราจะเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีของชาวอินโดนีเซียทุกคน” นายปราโบโวประกาศ “ผมย้ำมาตลอดว่า เราจะนำ, ปกป้อง และคุ้มครองชาวอินโดนีเซียทุกคน ไม่ว่าจะเชื้อชาติ, ชนเผ่า, ศาสนา หรือมีภูมิหลังทางสังคมอย่างไร ชาวอินโดนีเซียทุกคนอยู่ในความรับผิดชอบของเรา เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา”“เราจะจัดตั้งรัฐบาลที่ประกอบด้วยคนที่เก่งที่สุดในอินโดนีเซีย” นายปราโบโวกล่าว ปราโบโว ซูเบียนโต กับ ยิบราน รากาบูมิง รากา (ขวา)ทั้งนี้ ผลการนับคะแนนจากหน่วยงานอิสระหลายเจ้าของอินโดนีเซียซึ่งที่ผ่านมาค่อนข้างแม่นยำ ชี้ว่า นายปราโบโว มีคะแนนเลือกตั้งนำโด่งที่ ๕๘.๗๓% ตามด้วยคู่แข่งอย่างนาย อานีส บาสเวดิน อดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ผู้สมัครอิสระ ที่ ๒๕.๑๐% และนาย กันจาร์ ปราโนโว อดีตผู้ว่าการจังหวัดชวากลาง จากพรรครัฐบาล PDI-P ที่ ๑๖.๑๗%อย่างไรก็ตาม นายอานีสและนายกันจาร์ ยังไม่ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ ท่ามกลางรายงานว่าเกิดการทุจริตเลือกตั้ง โดยทั้งคู่เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนอย่าเพิ่งด่วนสรุป และอดทนรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ นอกจากนั้นยังขอให้ใครก็ตามที่มีหลักฐายความผิดปกติที่หน่วยเลือกตั้ง มอบข้อมูลให้แก่พวกเขาด้วยอนึ่ง คณะกรรมการการเลือกตั้งทั่วไป (KPU) ของอินโดนีเซีย มีเวลาถึงวันที่ ๒๐ มี.ค. ในการรวบรวมคะแนนโหวตและประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการออกมา ซึ่งหากยืนยันว่านายปราโบโวชนะ ขณะจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ ๘ ของประเทศในวันที่ ๒๐ ต.ค. โดยมีนายยิบราน วัย ๓๖ ปี เป็นรองประธานาธิบดีติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : cna