“อาจารย์ปริญญา” มอง ประชาธิปัตย์ ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ ก็ยังไม่ใช่พรรคตัวเลือกในการเลือกตั้งครั้งหน้า คาดพรรคอันดับ ๓ จะเป็นพรรคภูมิใจไทย ชี้อนาคตพรรคเป็นอย่างไรอยู่ที่ปัจจุบันของผู้นำวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๖ ที่อาคารรัฐสภา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทาง พรรคประชาธิปัตย์ หลังได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า เป็นธรรมเนียมของพรรคประชาธิปัตย์หากได้ สส.น้อยลง ต้องเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ ส่วนพรรคจะเป็นอย่างไรไม่ได้อยู่ที่ตัวหัวหน้าพรรคเพียงอย่างเดียว แม้ว่าจะเป็นข้างที่มีการโน้มเอียงจะไปเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้านตามที่มีการวิเคราะห์กันก็ตาม แต่ก็อยู่ที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่าจะนำพาพรรคเป็นอย่างไร จากพรรคที่เคยเป็นที่ ๑ และ ๒ แต่ปัจจุบัน พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เป็นพรรคทางเลือกแล้ว สิ่งที่เป็นความท้าทายต่ออนาคตของ พรรคประชาธิปัตย์ ก็อยู่ในมือของหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่าจะเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง หรือจะไปร่วมรัฐบาล“แม้จะมีการยืนยันว่าไม่ใช่พรรคอะไหล่ของใคร แต่ก็ต้องดูกันต่อไป พูดง่ายๆ พรรคประชาธิปัตย์ จะสามารถฟื้นฟูได้หรือไม่ ก็อยู่ที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ว่าจะนำพาพรรคไปทางไหน” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปริญญา กล่าวเมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวของประชาชนได้หรือไม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปริญญา กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตกลงไปแล้วตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ เพราะการเลือกตั้งเป็นเรื่องของประชาธิปไตย ในตอนนั้นมีความไม่ชัดเจนว่าจะเป็นตัวเลือกทางแนวความคิดของกลุ่มใด พอเป็นเรื่องของคนขัดแย้งระหว่างรุ่น ที่คนรุ่นใหม่เลือกอีกแบบ อนุรักษนิยมเลือกอีกแบบ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่อยู่ในตัวเลือกนี้เช่นกัน อีกทั้งก็ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำงานในขณะนี้ และยังไม่ใช่ตัวเลือก ๑-๓ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะหากจะเป็นประชาธิปไตย ก็มีพรรคก้าวไกลอยู่ ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ปรับมาแล้วเป็นอำนาจนิยมใหม่ แล้วประชาธิปัตย์อยู่ตรงไหน จึงไม่ใช่แค่หัวหน้าพรรคอย่างเดียว แต่อยู่ที่จะวางจุดยืนของพรรคไว้อย่างไร ถ้ากลับมาอยู่ใน ๑ ใน ๓ “หากเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นการแข่งกันระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล พรรคที่ ๓ ก็จะกลายเป็นพรรคภูมิใจไทย เพราะถ้าหากพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ลงเล่นการเมืองต่อ ๒ พรรคนี้ก็จะกลายเป็นพรรคเล็กไปโดยปริยาย ดังนั้นอนาคตข้างหน้าของพรรคประชาธิปัตย์มันอยู่ที่ปัจจุบันของผู้นำพรรค” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปริญญา กล่าว.