วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

ผัวเมียซักผ้าหยอดเหรียญ ขนไปหมดร้าน อ้างป่วย จำของตัวเองไม่ได้

24 ม.ค. 2024
66

ผัวเมีย นำผ้ามาซักในตู้หยอดเหรียญ ซักเสร็จ เดินไล่เปิดฝาเครื่อง ขนเสื้อในตู้อื่นๆ ไปทั้งร้าน อ้างป่วยจิตเวชจำเสื้อผ้าตัวเองไม่ได้ วันที่ ๒๔ ม.ค. ๖๗ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้องวงจรปิดของร้านให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญในเขตเทศบาลตำบลแชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้บันทึกพฤติกรรมของชายหญิงคู่หนึ่ง ที่พากันเปิดเอาผ้าจากตู้ซักผ้าหลายตู้แล้วนำเอาใส่ตะกร้าจนล้น กลับออกไปจากร้านอย่างน่าสงสัย เมื่อเวลาประมาณ ๑๑.๔๐ น. วันที่ ๒๓ มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่ผ่านช่วงเวลาดังกล่าวไปประมาณเกือบ ๑ ชั่วโมง ก็มีลูกค้ารายหนึ่งติดต่อมายังทางเจ้าของร้านว่าผ้าของตนเองที่ซักเอาไว้ถูกใครไม่รู้มาเอาไป ทางเจ้าของร้านจึงได้เปิดกล้องวงจรปิดดูแล้วนำเอาภาพเหตุการณ์นี้โพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก “ครบุรีที่รัก V.๓” ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีชาวอำเภอครบุรีเข้าไปเป็นสมาชิกเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ช่วยตามหาบุคคลทั้งสองแล้วแจ้งให้นำผ้าที่เอาไปกลับมาคืนเจ้าของ  กระทั่งช่วงสายวันนี้ ๒๔ มกราคม๖๗ มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นญาติของผู้ที่อยู่ในกล้องวงจรปิดทั้งสอง ติดต่อมากับทางเจ้าของร้าน แล้วนำหญิงที่เอาผ้าจากเครื่องซักผ้าไป มาคืนเจ้าของ  พร้อมกับอ้างว่า สองสามีภรรยา ที่นำเสื้อผ้าไปเป็นผู้ป่วยทางจิต นำผ้ามาซักแล้วจำเครื่องไม่ได้จึงต้องเปิดดูทุกตู้ ซึ่งทางเจ้าของร้านและเจ้าของเสื้อผ้าก็ไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ได้ฝากให้ทางญาติพี่น้องของผู้ที่กระทำควรดูแลกันให้ดีกว่านี้ เนื่องจากพฤติกรรมที่กล้องบันทึกได้นั้นเหมือนว่าตั้งใจเอาเสื้อผ้าคนอื่นไปมากกว่าหยิบผิดเครื่อง เพราะเปิดหาเสื้อผ้าและหยิบเอาไป ซึ่งเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นที่มาใช้บริการอย่างมาก นางกาญจนา พรผักแว่น อายุ ๔๑ ปี ลูกค้าที่มาใช้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ถูกนำเสื้อผ้าออกจากเครื่องไป บอกว่า ตัวเองเอาผ้ามาซักที่เครื่อง เมื่อเวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. วันที่ ๒๓ ม.ค. แล้วก็กลับไปขายของที่บ้าน ผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมง ก็จะมารับผ้าคืน แต่มาถึงไม่พบผ้าอยู่ในเครื่อง จึงแจ้งให้ทางเจ้าของร้านช่วยเช็กกล้องวงจรปิดแล้วก็มาพบว่ามีชายหญิงสองคนมาเอาเสื้อผ้าในตู้ของตนไป รวมถึงตู้อื่นๆ อีกหลายตู้ ก่อนที่เจ้าของร้านจะนำไปโพสต์แล้วคนที่เอาเสื้อผ้าไปนำมาคืนในวันนี้ โดยบอกว่าเอาเสื้อผ้าไปผิดตัว และอ้างว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช จึงไม่อยากจะสืบสาวราวเรื่องหรือเอาความแต่อย่างใด และอยากขอบคุณทางร้านที่เอาใจใส่ดูแล ช่วยติดตามจนได้ผ้าของตัวเองคืนในที่สุดด้านนายวงกต สมวงศ์ เจ้าของร้านให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ กล่าวว่า หากว่าผู้ที่เอาเสื้อผ้าของคนอื่นไปในครั้งนี้เป็นผู้ป่วยจิตเวชมีอาการผิดปกติทางจิตจริง ก็อยากให้ญาติพี่น้องช่วยดูแลให้มากกว่านี้ เพราะสิ่งที่ทำไปนั้น สร้างความเดือดร้อนให้กับลูกค้าคนอื่น และยังเกิดความเสียหายมาถึงทางร้าน ทำให้คนขาดความเชื่อมั่นที่จะมาใช้บริการ เพราะทางร้านเองก็ดูแลลูกค้าตามหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนเสื้อผ้าที่บุคคลในภาพวงจรปิดเอาไปจากหลายตู้นั้นตอนนี้มีผู้เสียหายติดต่อมาเพียงรายเดียว ไม่ทราบยังมีของลูกค้าคนอื่นอีกหรือไม่ เพราะที่นำมายังมีเสื้อผ้าเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่ง