สองผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ไขปริศนา MH๓๗๐ หายสาบสูญนานนับ ๑๐ ปี เชื่อผู้โดยสารทั้งลำตายหมดแล้ว ขณะเครื่องบินบินต่อไปอีกหลาย ชม. ชี้ไม่มีทางตกเพราะอุบัติเหตุ แต่นักบินจงใจออกนอกเส้นทางจากกรณีโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง ๗๗๗ ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH๓๗๐ พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ ๒๓๙ ชีวิต หายสาบสูญไปนานนับ ๑๐ ปี หลังทะยานออกจากสนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อจะมุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงจีน เมื่อ ๘ มีนาคม ๒๕๕๗ จนถึงบัดนี้ยังคงไร้คำตอบ ล่าสุด สองผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน Jean Luc Marchand ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการหอควบคุมการบิน และ Patrick Blelly อดีตนักบินประจำกองทัพอากาศฝรั่งเศส ซึ่งได้ทุ่มเททำงานกันมานานนับ ๔ ปี เพื่อพยายามไขปริศนาของเที่ยวบิน MH๓๗๐ ว่าหายไปได้อย่างไร ได้ออกรายการ One Show ของทางสถานีโทรทัศน์ BBC ในชื่อตอนว่า ‘ทำไมเครื่องบินหายไป: ตามหา MH๓๗๐’ ซึ่งออกอากาศวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๗ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นวันครบรอบ ๑๐ ปีที่ MH๓๗๐ หายไปอย่างปริศนา Dailystar เผย Jean Luc กล่าวในรายการว่า หลังจากเครื่องบินหายไปจากเรดาร์ จนถึงตอนนี้ เครื่องบินลำนี้ได้ล่องหนไปแล้ว และไม่สามารถติดตามได้อีกต่อไป มันเป็นความฉลาด เพราะการเลือกพื้นที่ที่จะทำให้เครื่องบินหายไป และถูกติดตามไม่ได้นั้น ถือเป็น ’หลุมดำ’ เป็นน่านฟ้าระหว่างกัวลาลัมเปอร์กับเวียดนาม โดยนักบินได้ขับเครื่องบินยูเทิร์น วกกลับที่บริเวณนี้ เพื่อไปข้ามช่องแคบมะละกาแทน ‘ถ้าคุณต้องการหายไป นี่คือที่ที่คุณทำได้ ไม่มีใครติดต่อโบอิ้ง ๗๗๗ ลำนี้ได้อีก หลังจากไม่มีการส่งสัญญาณฉุกเฉิน และบินออกนอกเส้นทาง เป็นเวลานานกว่า ๗ ชั่วโมง การเชื่อมต่อระหว่าง MH๓๗๐ กับหอควบคุมการบินได้ถูกปิดจากภายในห้องนักบิน ซึ่งทำให้ลูกเรือไม่สามารถพูดติดต่อกับทุกคนที่ภาคพื้นดินได้อีกเลย’ ขณะที่ Patrick Blelly ซึ่งเคยเป็นอดีตนักบินประจำกองทัพอากาศฝรั่งเศส เชื่อว่า เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH๓๗๐ ถูกจงใจออกจากเส้นทาง ขณะที่ผู้โดยสารเสียชีวิตหมดแล้ว เนื่องจากห้องโดยสารถูกลดความดันอากาศ และเครื่องบินได้บินต่อไปเป็นเวลาอีกหลายชั่วโมงPatrick Blelly ยังบอกว่า ทฤษฎีของเขาต่อ MH๓๗๐ คือ เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH๓๗๐ ถูกจงใจขับออกจากเส้นทาง ขณะที่ผู้โดยสารเสียชีวิตหมดแล้ว เครื่องบินลำนี้ถูกลดความดัน เพราะมันเป็นเรื่องง่ายที่นักบินจะลดความดันบนเครื่องบินได้ ซึ่งถ้านักบินทำเช่นนั้นจริงๆ และขับเครื่องบินด้วยระบบออโต้เมติก หน้ากากออกซิเจนจะหล่นลงมาให้ผู้โดยสารมีอากาศหายใจได้ต่อไปเพียง ๒๐ นาทีเท่านั้น ก่อนจะหมดสติและเสียชีวิตในขณะที่หน้ากากออกซิเจนพิเศษในห้องนักบิน สามารถทำให้นักบินมีออกซิเจนหายใจต่อไปได้เพียงพอกว่า ๒๐ ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลานานเพียงพอที่จะเปลี่ยนเส้นทางบิน ขณะที่ Patrick Blelly ยังคิดว่าไม่มีทางที่เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส MH๓๗๐ ตก เพราะเป็นอุบัติเหตุ แต่เขายังเชื่อว่านักบินที่ขับเครื่องบินลำนี้มีประสบการณ์ มีความชำนาญในการขับเครื่องบิน และยังมีเครื่องมือที่จะทำให้ MH๓๗๐ หายไปอย่างไร้ร่องรอยด้วย ที่มา : themirror,Metro
ผู้เชี่ยวชาญ ไขปริศนา MH๓๗๐ เชื่อผู้โดยสารตายหมด ขณะบินต่อไปอีกหลาย ชม.
เรื่องที่เกี่ยวข้อง