ชาวบ้านหาดยามู จ.ภูเก็ต ที่เกิดเหตุชาวต่างชาติเตะหมอ ขณะไปนั่งชมพระจันทร์ ร้องให้หน่วยงานรัฐตรวจสอบเอกสารครอบครองที่ดินทั้งหาด หลังพบพิรุธเอกสาร “น.ส.๓ ก.” เอื้อนายทุนฮุบที่สาธารณะ หลังราคาพุ่งไร่ละ ๓๐ ล้านบาท เหตุดราม่าชาวต่างชาติเตะแพทย์หญิงชาวไทย ที่ไปนั่งชมพระจันทร์ บนชายหาดยามู จ.ภูเก็ต แม้ชายชาวต่างชาติออกมาขอโทษแล้ว แต่ชาวบ้านในพื้นที่ ก็เดินทางมายังชายหาดเกิดเหตุ เพื่อแสดงพลังต่อต้าน พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของชาวต่างชาติรายดังกล่าว ขณะที่หน่วยงานรัฐ ในท้องถิ่นมีคำสั่งให้วิลล่าหรู รื้อบันไดที่รุกล้ำมาในพื้นที่หาดสาธารณะ ขณะชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องผ่าน “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” อยากให้หน่วยงานส่วนกลางลงมาตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมามีกลุ่มทุนพยายามออกเอกสารสิทธิ “น.ส.๓ ก.” รุกล้ำพื้นที่สาธารณะ โดยคาดว่ามีคนในรู้เห็น ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า กระแสการต่อต้านฝรั่งเตะหมอ มีประชาชนในพื้นที่เดินทางมายังบันได ที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ตลอดวันนี้ (๓ มี.ค. ๖๗) ซึ่งจากการลงมาตรวจสอบวิลล่าหรู พบว่าบันไดลงหาดมีทั้งหมด ๔ ขั้น โดยบันไดขั้นแรกอยู่ในเอกสารสิทธิของเจ้าของวิลล่า ส่วนบันไดอีก ๓ ขั้นรวมถึงขั้นที่คุณหมอนั่งในวันเกิดเหตุ รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่หาดสาธารณะ จึงมีการแจ้งความและให้รื้อสิ่งปลูกสร้างออก ซึ่งหาดยามู อยู่ในพื้นที่สาธารณะ แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ทำให้มีกลุ่มทุนที่ใช้ช่องว่างในการตรวจสอบ สร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำชายหาด “การรุกล้ำลักษณะสร้างบันไดลงหาด เหมือนกับวิลล่าหรูหลังเกิดเหตุ มีอีกหลายหลังที่ทำลักษณะเดียวกัน ตอนนี้ทางเทศบาลมีการออกคำสั่งให้รื้อเฉพาะบ้านหลังดังกล่าว แต่ควรมีการตรวจสอบบ้านหลังอื่น ที่มีการสร้างบันไดลงหาด ที่อาจรุกล้ำพื้นที่หาดสาธารณะ สำหรับชาวบ้านก็อยากให้มีการตรวจสอบทั้งหมด เพื่อให้พื้นที่มีความเป็นระเบียบตลอดทั้งแนวหาดยามู” พื้นที่สาธารณะของหาดยามู จ.ภูเก็ต นอกจากการรุกล้ำของบ้านที่เกิดเหตุแล้ว ยังมีบ้านอีกหลัง ที่ชาวบ้านค่อนข้างกังวล เพราะมีการสร้างกำแพงดินเข้ามาในพื้นที่หาด โดยขออนุญาตก่อสร้างกับเทศบาล แล้วหน่วยงานรัฐก็ให้อนุญาต ทำล้ำลงไปในทะเล ชาวบ้านมีการเข้าไปเจรจาขอให้รื้อออก แต่ไม่มีการดำเนินการ โดยอ้างสิทธิ์ ทำให้ชาวบ้านต้องไปร้อง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเขายอมรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแค่บางส่วน สงสัยคนในร่วมมือนายทุนออก “น.ส.๓ ก.”ด้านประเด็นการปิดกั้นทางสาธารณะที่ลงไปยังหาดยามู จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า เส้นทางดังกล่าว เดิมชาวบ้านใช้เป็นทางสาธารณะ และมีการใช้งบประมาณของรัฐไปซ่อมแซม แต่เมื่อนายทุนเข้ามาซื้อวิลล่าหรู มีการปิดกั้นเส้นทางนี้ จนเป็นปัญหากับชาวบ้านในพื้นที่กว่า ๒๐ ปี เลยมีการแก้ปัญหาร่วมกัน ทำบันทึกข้อตกลงระหว่างชุมชนกับโครงการที่เข้ามาใช้ประโยชน์ โดยเป็นทางที่ให้ชาวบ้านผ่านได้ แต่มีเอกสารสิทธิว่าเป็นของกลุ่มทุนที่ผ่านมากลุ่มทุนพยายามจะมาขอออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ แต่ชาวบ้านไม่ยอม เพราะไม่มีการกันทางสาธารณะไว้ให้เข้าออกหาด ขณะที่พื้นที่บางส่วนก็รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่สาธารณะ มีการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่นายทุนพยายามมายื่นเรื่องกับหน่วยงานท้องถิ่น คาดว่ามีพื้นที่รุกล้ำพื้นที่สาธารณะประมาณ ๗-๘ ไร่ มีการยื่นเรื่องขอออกเอกสาร “น.ส.๓” มาเป็น “น.ส.๓ ก.” ที่มีการรังวัด ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ยังสงสัยว่า พื้นที่ที่เพิ่มมาได้อย่างไร เพราะพื้นที่บริเวณหาดตอนนี้ มีราคาพุ่งสูงถึงไร่ละ ๓๐ ล้านบาท ปกติที่ น.ส.๓ ก. ต้องกันพื้นที่ทะเล ๔๐ เมตร แต่เอกสารที่นายทุนอ้าง มีความผิดปกติที่ไม่ได้กันพื้นที่ทางทะเลไว้ในระยะที่กำหนด ทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นมา น่าสงสัยว่าจะมีคนในหน่วยงานราชการแนะนำกลุ่มนายทุนดังกล่าว ให้เปลี่ยนจาก “น.ส.๓” มาเป็น “น.ส.๓ ก.” เพื่อจะได้ไม่ผิดสังเกตเวลาไปขอออกโฉนด แต่พิรุธการถือครองจากเอกสารสิทธิถือครองพบว่า ตอนเป็น “น.ส.๓” ถือครองพื้นที่ ๙๘ ไร่ แต่พอเป็น “น.ส.๓ ก.” กลับมีพื้นที่เพิ่มขึ้นกว่า ๑๐๐ ไร่ชาวบ้านในพื้นที่อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่วนกลาง เข้ามาตรวจสอบพื้นที่หาดยามู ทั้งหมด เพราะชาวบ้านท้องถิ่นทุกคนก็มีความเป็นห่วงว่ากลุ่มนายทุนจะเข้ามายึดครองพื้นที่รุกล้ำ และออกเอกสารสิทธิที่ผิดปกติ ขณะเดียวกันอยากให้เข้ามาไกล่เกลี่ยทางสาธารณะ เพื่อให้คนในท้องถิ่นได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยไม่ถูกกีดกันจากกลุ่มทุน.
ฝรั่งเตะหมอ พิรุธ “น.ส.๓ ก.” นายทุนฮุบที่ดินหาดยามู ชาวบ้านไร้ทางออก
เรื่องที่เกี่ยวข้อง