เมื่อเร็วๆนี้ ทีมนักโบราณคดีและนักบรรพชีวินวิทยาจากหลายสถาบัน รายงานลงวารสาร Scientific Reports เผยการค้นพบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยกระดูกโคนขา กระดูกหน้าแข้ง สะโพก และข้อสะโพก ถูกขุดขึ้นมาจากฟาร์มในจังหวัดซานตาครูซ อาร์เจนตินา ในภูมิภาคปาตาโกเนียอันกว้างใหญ่ของทวีปอเมริกาใต้การวิเคราะห์ฟอสซิลเผยให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตนี้อยู่ในกลุ่ม “เธเรีย” (Theria) เป็นกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่ ซึ่งก็คือเชื้อสายของสายพันธุ์ที่ออกลูกเป็นตัว ไม่ได้ออกลูกด้วยการวางไข่ ทีมระบุว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ ถูกตั้งชื่อว่า Patagomaia chainko มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ ๗๐ ล้านปีก่อน ในสมัยมาสทริชเชียน (Maastrichtian) ของยุคครีเตเชียสตอนปลาย ที่กินเวลา ๑๐๐.๕ ล้านถึง ๖๖ ล้านปีก่อน ทำให้ตั้งข้อสังเกตว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้มีขนาดใหญ่กว่าตัวอย่างอื่นๆ ในบรรดาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่รู้จักในยุคนั้นจากฟอสซิลที่มีอยู่ ทีมนำเสนอว่า Patago maia chainko เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดกลาง ขนาดน่าจะเทียบได้กับสุนัขจิ้งจอกแอนเดียนในปัจจุบัน สามารถเติบโตได้ยาวประมาณ ๑.๒ เมตร ทีมยังประเมินว่าน้ำหนักของ Patagomaia chainko ที่ค้นพบในจังหวัดซานตาครูซ อยู่ระหว่างประมาณ ๒.๗-๒๖ กิโลกรัม มีค่าเฉลี่ยราว ๑๔ กิโลกรัม ทีมระบุว่าการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าวิวัฒนาการของขนาดลำตัวที่ใหญ่ ในหมู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในยุคครีเตเชียสตอนปลาย มีความซับซ้อนมากกว่าที่เคยเข้าใจกัน.Credit : Scientific Reports (๒๐๒๔). DOI: ๑๐.๑๐๓๘/s๔๑๕๙๘-๐๒๔-๕๓๑๕๖-๓อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
