ผ่านฉลุยวาระแรก มติ ๓๑๑ ต่อ ๑๗๗ มติพรรคฝ่ายค้านคว่ำร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗ “ชัยธวัช” ซัดไม่สะท้อนตอบโจทย์รัฐบาลแก้วิกฤติประเทศ รับมรดกบาปรัฐบาลเก่า คณะรัฐมนตรีขาดวุฒิภาวะแจงข้อมูลบิดเบือนรับอภิปรายกร่อย ตีปี๊บรอชมฉากดุเดือดศึกซักฟอก “ศิริกัญญา” ขยี้ซ้ำสอดไส้ ไม่ตรงปก ไร้แผนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน มีแต่เทงบฯสร้างถนน ทุ่มสร้างตึก ผิดหวัง “บิ๊กทิน” ยอมศิโรราบต่อกองทัพ ปชป.ทิ้งทวนขย่ม พท. “สุณัฐชา” ถล่มรหัสดีเอ็นเอนายใหญ่-นายหญิงตระกูลชิน ฟัดเลือกปฏิบัติจัดงบฯไม่เป็นธรรม โวยคนใต้ถูกเมินงบฯพัฒนาต่อหัวต่ำสุดในประเทศ เด็ก พท.ดิ้นป้อง ๒ อดีตนายกฯ “พิเชษฐ์” ขึงขังปิดไมค์เบรกเกม “วิโรจน์” เฉ่ง กระทรวงศึกษาธิการยัดสารพัดโครงการคนดี สกัดถูกตัดงบฯซ้ำซ้อน บี้หั่นทิ้ง ๒ พันล้าน แฉ กอ.รมน.แปะงบฯขอฝากเลี้ยงการอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ พรรคร่วมฝ่ายค้านได้อภิปรายตอกย้ำการจัดงบฯที่ไม่สะท้อนว่ารัฐบาลกำลังแก้วิกฤติที่ประเทศกำลังเผชิญ กลับมีการสอดไส้ ไม่ตรงปก ไม่ตรงแผน ขณะที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยต่างออกโรงปกป้อง ๒ อดีตนายกฯที่ถูกพาดพิงการเลือกปฏิบัติจัดสรรงบฯลงพื้นที่พท.ดิ้น ปชป.แตะนายใหญ่–นายหญิงเมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น.วันที่ ๕ มกราคมที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ วงเงิน ๓.๔๘ ล้านล้านบาท วาระแรกต่อเนื่องเป็นวันที่สาม มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม เกิดปะทะคารมตั้งแต่ช่วงเช้าระหว่าง สส.พรรค ปชป.กับพรรค พท.หลัง น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรค ปชป.ลุกขึ้นอภิปราย ตั้งคำถามถึงนายเศรษฐาเป็นนายกฯที่มีอำนาจตัดสินใจเต็มที่หรือไม่หรือเป็นเพียงนายกฯที่รอรับใบสั่งจากใครบางคน ได้ฉายาจากนักข่าวว่า เซลส์แมนแสตนด์ชิน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลชุดนี้มีดีเอ็นเอหรือรากเหง้ามาจากพรรคไทยรักไทย ที่มีนายใหญ่สายชินเจ้าของความคิด จังหวัดไหนไม่เลือกให้รอการพัฒนาไปก่อน เป็นที่กล่าวขานว่าเป็นยุครัฐบาลที่มีข้อครหาการจัดทำงบฯมากที่สุด ต่อมาถูกแปรสภาพเป็นพรรคพลังประชาชนจบลงด้วยการถูกยุบพรรค จนท้ายที่สุดกลายเป็นพรรคเพื่อไทยที่เริ่มต้นภายใต้การนำของรัฐบาลสายชิน นายกฯหญิงคนแรกของไทย ที่เมินการจัดสรรงบฯลงภาคใต้ แต่ใช้งบฯสูงถึง ๑.๓๙ ล้านล้านบาทไปกับนโยบายจำนำข้าวประสิทธิผลกลับต่ำ สิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นน้ำตาชาวนาทั้งประเทศtt ttเจอตอกไม่ได้แตะทูนหัวของบ่าวจากนั้นทำให้บรรดา สส.พรรค พท.ลุกประท้วง อาทิ นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. ประท้วงให้อภิปรายอยู่ในประเด็น ส่วนนายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ลุกสวนว่า น.ส.สุณัฐชา ยังพูดในประเด็นเรื่องงบฯไม่ได้กระทบกระทั่งทูนหัวของบ่าวอะไรเลย นายสรวงศ์ ลุกโต้อีกบอกให้ถอนคำพูดเพราะประชาชนดูอยู่ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ผลมันออกมาแล้ว สุดท้ายนายพิเชษฐ์ วินิจฉัยตัดบทให้อภิปรายต่อ“สุณัฐชา” โวยงบฯพัฒนาต่อหัวคนใต้ต่ำสุดน.ส.สุณัฐชาอภิปรายต่อว่า อย่าลืมท่านหนีอดีตไม่พ้น หนีความจริงไม่ได้ ตนและชาวใต้เกือบ ๑๐ ล้านคน เกรงว่าดีเอ็นเอความไม่เป็นธรรมในการจัดสรรงบฯจะถูกส่งต่อมาถึงตัวนายกฯ ผ่านร่าง พระราชบัญญัติงบฯฉบับนี้จากวงเงิน ๓.๔๘ ล้านล้านบาท รัฐบาลทุ่มเม็ดเงินพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกว่า ๕๘,๐๐๐ ล้านบาท ชาวใต้ ๑๔ จังหวัดได้งบฯพัฒนาเพียงแค่ ๓,๙๗๓ ล้านบาท หมุนเวียนอยู่ใน ๒๐๐ โครงการจากโครงการทั้งหมดที่ถูกจัดสรรในเล่มงบฯทั้งประเทศ ๑,๕๗๗ โครงการ ภาคเหนือได้ ๑๗๙ โครงการ ๓,๑๖๒ ล้านบาท อีสาน ๒๐ จังหวัดได้ ๕๓๗ โครงการ ๙,๗๙๔ ล้านบาท ภาคตะวันออก ๗ จังหวัดได้ ๑๒๑ โครงการ ๒,๒๓๒ ล้านบาท ภาคตะวันตก ๕ จังหวัดได้ ๑๐๑ โครงการ ๑,๘๔๗ ล้านบาท ภาคกลาง ๒๑ จังหวัดได้ ๓๙๑ โครงการ วงเงิน ๗,๓๔๕ ล้านบาท สุดท้ายภาคใต้ ๑๔ จังหวัดได้เพียง ๒๐๙ โครงการ แค่ ๓,๙๗๓ ล้านบาท ภาคที่ได้เงินงบฯพัฒนาเฉลี่ยต่อหัวน้อยที่สุดตกอยู่ที่ ๔๒๑.๑๙ บาท ทั้งที่ประชากรมากกว่าภาคตะวันตกถึง ๓ เท่า แต่กลับได้รับงบฯต่อหัวน้อยที่สุดแบบนี้จัดสรรงบฯลงพื้นที่เป็นธรรมหรือไม่“พิเชษฐ์” ออกหน้าออกตาป้อง “เศรษฐา”น.ส.สุณัฐชาได้เปิดภาพนายเศรษฐากำลังยิ้มแฉ่ง ใส่ที่คาดผมกวางเรนเดียร์ฉลองคริสต์มาสที่ทำเนียบรัฐบาลเทียบกับภาพชาวบ้านหลายคน นั่งอยู่บนหลังคาท่ามกลางระดับน้ำท่วมสูง พร้อมอภิปรายต่อว่า เมื่อพูดถึง ๓ จังหวัดชายแดนใต้ พี่น้องต้องทนทุกข์ระทมกับอุทกภัยที่หนักสุดในรอบหลายสิบปี ความจริงใจวัดกันตรงนี้ ขณะที่ชาวบ้านกำลังสวดภาวนาให้น้ำลดระดับอยู่บนหลังคาบ้าน วันนั้นท่านนายกฯกลับสนุกอยู่ นายพิเชษฐ์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ถึงกับขึงขังปิดไมค์กะทันหัน ถามเจ้าหน้าที่ว่ารูปที่ น.ส.สุณัฐชานำมาเปิดได้รับอนุญาตหรือยัง นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.ประท้วงประธานที่ประชุมว่าเบรกกลางอากาศแบบนั้นไม่ดี ขอให้ใช้อำนาจด้วยความเป็นกลาง จะมีข้อครหาว่าประธานไม่เป็นกลาง นายพิเชษฐ์อ้างว่าเจ้าหน้าที่เพิ่งส่งเอกสารมาให้กำลังตรวจสอบ ถ้าเจ้าหน้าที่พิจารณาเสร็จแล้วยินดี พร้อมวินิจฉัยอนุญาตให้นำสไลด์ขึ้นได้และอภิปรายต่อขยี้นักโทษเทวดาชั้น ๑๔ น่าอายกว่าเยอะผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมยังคงมีการประท้วงอยู่อย่างต่อเนื่อง น.ส.สุณัฐชา อภิปรายว่า รูปเมื่อสักครู่ที่นายกฯสวมใส่เสื้อสีแดงปาร์ตี้ที่ทำเนียบฯ ไม่มีอะไรน่าเสียหาย ไม่มีอะไรน่าอาย เพราะการเป็นนักโทษเทวดาอยู่ชั้น ๑๔ น่าอายกว่าเยอะ ทำให้นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรค พท.ประท้วง อภิปรายนอกประเด็น เป็นรูปที่ทำเนียบรัฐบาลจริง แต่เหตุการณ์ไม่ได้เกิดพร้อมกัน นายกฯได้ไปติดตามเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่านายกฯไม่สนใจ อย่างที่พยายามทำให้สังคมเข้าใจ ขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป.ประท้วงว่านายศรัณย์ ประท้วงข้อใดและ น.ส.สุณัฐชาเสียดสีทำผิดข้อบังคับข้อไหน นายศรัณย์สวนว่าการเอารูปขึ้นมาพร้อมกันแล้วเสียดสีว่านายกฯไปงานสังสรรค์แทนที่จะไปดูปัญหาภาคใต้ เหตุการณ์ไม่ได้เกี่ยวกัน ไม่ใช่ว่านายกฯเลือกไปงาน แทนที่จะดูแลพี่น้องภาคใต้ อีกประเด็นคือเรื่องที่บอกว่าเทวดาจากที่อื่น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับงบฯเลย“ชัยชนะ” เฉ่งน้ำท่วมใต้แต่ “นิด” ดี๊ด๊านายชัยชนะกล่าวสวนกลับว่าผู้ประท้วงกล่าวเท็จในสภาฯ สิ่งที่ผู้อภิปรายกำลังอภิปรายบอกว่าขณะที่ชาวบ้าน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ เจอวิกฤติน้ำท่วม นายกฯเหมือนลิงได้แก้วมีความสุขอยู่ที่รัฐบาล และตนถามว่าผู้อภิปรายกล่าวเท็จตรงไหน และที่ท่านบอกนายกฯลงพื้นที่ ท่านไปดูภาพไหมไปที่น้ำลึก อย่าไปที่น้ำตื้น อย่ากล่าวเท็จในสภาฯ ประธานต้องควบคุมให้ดำเนินการได้ด้วยดี ขณะที่นายพิเชษฐ์วินิจฉัยตัดบทให้ดำเนินการต่อไปลั่นโหวตคว่ำดีเอ็นเอทิ้งคนใต้น.ส.สุณัฐชาอภิปรายต่อว่า ระหว่างชาวบ้านกำลังทุกข์ระทม นายกฯกำลังปาร์ตี้ที่ทำเนียบฯ ท่านตั้งงบฯแก้ปัญหาให้พี่น้อง ๓ จังหวัดชายแดนใต้ไว้ในส่วนไหนหรือว่าช่วงนั้นนายกฯไม่ทราบเพราะว่าท่านทำงานไม่ทันเนื่องจากลาราชการถึง ๔ วัน ทั้งที่เพิ่งเริ่มทำงานได้ ๔ เดือน จากตัวอย่างโครงการในภาคใต้ที่ถูกทำให้อันตรธานหายไปจากข้อมูลค่าเฉลี่ยต่อหัว ที่คนใต้ได้รับงบฯพัฒนาน้อยที่สุด ส่อเค้าลางว่างบฯปีแรกของรัฐบาลเศรษฐา ไม่ต่างจากยุครัฐบาลนายใหญ่ พท.เมื่อหลายสิบปีก่อน การจัดทำงบฯลักษณะนี้ ยิ่งทำให้มั่นใจว่า แม้เป็นคนละคนกันแต่พฤติกรรมทอดทิ้งคนใต้ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาถึงนายกฯชื่อเศรษฐา ทวีสิน ผ่านร่าง พระราชบัญญัติงบฯ ๖๗ จึงไม่สามารถรับหลักการร่างงบฯนี้ได้tt tt“ไอติม” จี้นายกฯปรับหลักสูตรศึกษาใหม่ช่วงบ่าย สส.พรรคก้าวไกล เริ่มอภิปรายงบฯกระทรวงศึกษาธิการ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. อภิปรายเสนอผ่าตัดหัวใจ ๔ ห้องของงบฯการศึกษาคืองบบุคลากร เงินอุดหนุนนักเรียน งบลงทุนและงบนโยบาย เช่น งบฯนโยบาย ส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็กไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท มีกลุ่มก้อนเดียวที่ใหม่คือพัฒนาระบบการเรียนรู้แบบดิจิทัลในหลายหน่วยงานกว่า ๖๐๐ ล้านบาท แต่ขอให้ รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการรับประกันว่าจะไม่ซ้ำซ้อนและโปร่งใส โครงการที่ไม่ควรมีหรือควรมีแต่ต้องปรับลดงบฯลง เช่น โครงการรวมมิตรความดีทุกปี พยายามทำให้นักเรียนโตมาไม่เลว ไม่โกง ไม่เสพยา ปีนี้ยิ่งกว่าเดิมงบฯโครงการจริยธรรมคุณธรรมต่อต้านการทุจริต อยู่ที่ ๑๖๐ ล้านบาท งบฯโครงการด้านยาเสพติดรวม ๑๑๕ ล้านบาท มีโครงการใหม่ชื่อโครงการส่งเสริมคนดีตามหลักการศาสนาที่ถูกต้อง ๒๗๓ ล้านบาท ไม่คิดว่าการเอางบฯและเวลาครูไปลงกับโครงการเช่นนี้เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนเป็นคนดีแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพมากที่สุด ถึงเวลาต้องทบทวนพฤติกรรมของผู้ใหญ่ จะคาดหวังนักเรียนให้ตระหนักถึงการทุจริตได้อย่างไร หากมีโรงเรียนเรียกเงินแป๊ะเจี๊ยะหรือรับเงินใต้โต๊ะจากผู้รับเหมา จะคาดหวังนักเรียนหยุดบูลลี่กันและกันได้อย่างไร หากไม่กล้าลงโทษครูที่กลั่นแกล้งนักเรียน ส่วนโครงการที่ควรมีกลับยังไม่มี คือการเดินหน้าจัดทำหลักสูตรฉบับใหม่ขอให้นายกฯยืนยันได้หรือไม่ว่าจะจัดทำให้เรียบร้อยซัดงบฯลงทุนเทลงพื้นที่เจ้ากระทรวงนายพริษฐ์กล่าวอีกว่า งบลงทุนใช้เกณฑ์อะไรปรับลด อาคารสำหรับเด็กด้อยโอกาสและพิการถูกตัดมากที่สุดเป็นพิเศษ เรียกว่าอ่อนแอก็แพ้ไป ใช้เกณฑ์อะไรว่าจังหวัดใดได้มากน้อย เพราะโครงการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ถูกกระจายอย่างน่าสงสัย ทำไมจังหวัดที่มี สส.เขตที่มาจากพรรคเดียวกับ รัฐมนตรีจึงได้งบฯสูงกว่าจังหวัดที่ไม่มี สส.เขตที่มาจากพรรคเดียวกันกับ รมต. กลับได้งบฯส่วนนี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเกือบ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ หวังว่าเกณฑ์จะอยู่บนพื้นฐานความเดือดร้อนของนักเรียน ไม่ใช่ผลประโยชน์ตอบแทนกันทางการเมือง“วิโรจน์” ชงหั่นทิ้งงบฯศธ. ๒ พันล้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. อภิปรายงบดำเนินงานและงบรายจ่ายอื่นของ กระทรวงศึกษาธิการว่า งบส่วนนี้เป็นตัวแสบ กระทรวงศึกษาธิการรู้อยู่แก่ใจพยายามปรับลด แต่ถ้าไม่เกรงใจกัน งบดำเนินงานและงบรายจ่ายอื่นที่ซ่อนไว้กับโครงการที่ไม่เกิดประโยชน์ทางตรงกับนักเรียนหรือผู้เรียนยังมีอีกมาก วงเงินต้องสงสัยนี้อยู่ราวๆ ๘,๒๕๖ ล้านบาท ถ้าลงรายละเอียดดีๆจะปรับลดได้อีก ถ้าเอาโครงการที่ภารกิจซ้ำซ้อน โครงการที่บูรณาการเนื้อหาเข้าไปยังวิชาสอนปกติได้ โครงการที่สร้างภาระงานธุรการให้ครูผู้สอน โครงการที่ดึงเด็กมาทำกิจกรรมนอกโรงเรียน โครงการที่เต็มไปด้วยการว่าจ้างที่ปรึกษามากาง กาแล้วจิ้มทีละรายการรวมกันได้ ๒,๑๑๗ ล้านบาทเป็นอย่างน้อยtt ttสารพัดตั้งชื่อโครงการคนดีสกัดถูกตัดนายวิโรจน์อภิปรายอีกว่า เพราะโครงการเหล่านั้น มักใช้เล่ห์เพทุบาย เอาชื่อที่ดูเหมือนเป็นคนดีมาเป็นเกราะป้องกันการตัดงบ พอดูรายละเอียดจะพบว่า โครงการเต็มไปด้วยภาระของครูและนักเรียน ซึ่งหลายโครงการไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของ ศธ. เพราะมีหน่วยงานอื่น เช่น หน่วยงาน ความมั่นคงรับผิดชอบอยู่แล้ว เช่น โครงการสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติด โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา โครงการสร้างคุณธรรมจริยธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศึกษา โครงการเสริมสร้างระเบียบ วินัย คุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทั้งที่ทำได้ผ่านการสอดแทรกในวิชาต่างๆ ไม่เห็นต้องแยกโครงการออกมาถลุงงบฯ เป็นต้นแฉ กอ.รมน.แปะงบฯขอฝากเลี้ยงนายวิโรจน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีโครงการเกี่ยวกับ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ เช่น โครงการบริหารจัดการการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ โครงการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรม เราอย่าดูแค่ชื่อ ต้องเจาะดูไส้ในของมันด้วย ดูเบื้องต้นล้วนมีหน่วยงานอื่น ไม่ว่ากองทัพหรือ กอ.รมน.ทำอยู่แล้ว มีภารกิจซ้ำซ้อนหลายภารกิจ หลายโครงการไม่ได้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษา และน่าจะเป็นงบที่ กอ.รมน.เอามาฝากเลี้ยงเอาไว้ โดยคำว่า ศตวรรษที่ ๒๑ เป็นคำที่เจอบ่อยในกระทรวงศึกษาธิการ และถ้าเรายังจัดงบกันแบบนี้ ผลการศึกษาของประเทศไทย จะตกต่ำไปตลอด ศตวรรษที่ ๒๑ และพอพ้นศตวรรษที่ ๒๑ ชื่อโครงการแบบเดิมก็ยังอยู่ แต่เปลี่ยนนามสกุลห้อยท้ายเป็นศตวรรษที่ ๒๒ ไส้ในเต็มไปด้วยการจ้างที่ปรึกษา บังคับให้ครูอบรมในหัวข้อที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน หลายภารกิจซ้ำซ้อนกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นอำนาจจากส่วนกลางและเขตพื้นที่การศึกษาในการใช้งบฯและอาจจะหวังเงินทอนเสียด้วย แต่มาถลุงเวลาครูต่อให้ตายเป็นเถ้าถ่านไม่โหวตผ่านให้นายวิโรจน์กล่าวว่า มิติด้านการศึกษาประเทศอยู่ในภาวะวิกฤติ แต่ไหงจัดงบแบบนี้ เหมือนกำลังบอกให้พ่อแม่ทุกคนยอมให้ลูกหลานตัวเองเรียนหนังสือแบบเดิมๆในระบบการศึกษาที่สิ้นหวัง ยอมจำนนให้กับอำนาจนิยมและการกดขี่ ยอมให้หลักสูตรที่ไม่ได้ปรับปรุงเป็นหลักสูตรล้างสมอง ขโมยเวลาชีวิตไปอย่างสูญเปล่า สุดท้ายเด็กๆต้องเติบโตขึ้นมาเป็นพลเมือง ไม่กล้าคิด ไม่กล้าฝัน ไม่กล้าแม้แต่จะคิดตั้งคำถามกับผู้มีอำนาจ เป็นแค่บ่าวไพร่ที่คอยทำงานตามคำสั่งของผู้เป็นนายแล้วค่อยๆแก่ตัวแล้วตายจากไปในประเทศที่ต้องสาปแห่งนี้ จะอภิปรายเรื่องการศึกษาครั้งสุดท้ายในสภาฯแห่งนี้ นี่คือเหตุผลที่ถึงตายกลายเป็นเถ้าถ่าน อย่างไรก็ไม่สามารถเห็นด้วยกับร่าง พระราชบัญญัติงบฯ ปี ๖๗ ได้tt tt“เพิ่มพูน” ลุกขอสนับสนุนงบ กระทรวงศึกษาธิการพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ อภิปรายชี้แจงว่า ที่สมาชิกอภิปรายเป็นเรื่องที่เกิดก่อนรัฐบาลนี้จะเข้ามา ทุกข้อห่วงใยขอชี้แจงว่างบศธ. ๕ ปีย้อนหลังแนวโน้มลดลง แม้ปีนี้ปรับเพิ่ม ๐.๓๑% ถ้าดูโครงสร้างงบส่วนใหญ่จะไปอยู่ที่งบบุคลากรและเงินอุดหนุน รวมถึงค่าใช้จ่ายเงินลงทุน อีกส่วนหนึ่งที่บอกว่าเป็นปัญหา แต่เชื่อว่าเป็นความท้าทายการศึกษาที่ต้องประเมินร่วมกัน ไม่ว่าการเพิ่มความเสมอภาคทางการศึกษา หรือผลคะแนน PISA ที่ลดลง ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก บุคลากรคุณภาพการศึกษาไม่เพียงพอ ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องงบ กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามสร้างโอกาสการศึกษา นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก กำหนดนโยบายเพื่อให้นักเรียนเข้าถึงการเรียนการสอนที่มีความรู้เท่าเทียมกัน ภายใต้นโยบายเรียนดี มีความสุข เรียนได้ทุกที่ทุกเวลาขยายการเรียนรู้ทุกช่วงวัย ตั้งใจที่จะนำระบบสอบเทียบกลับมาใช้อีกครั้ง เชื่อมั่นว่านโยบายการศึกษาตามที่แถลงต่อสภาฯ จะช่วยสร้างโอกาสความเสมอภาคทุกช่วงวัย จึงขอให้สมาชิกสนับสนุนงบฯ ปี ๖๗ เพื่อผลักดันนโยบายเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาระบบการศึกษาต่อไป“หมิว” ร่ำไห้ขออย่าเมินงบกรมสุขภาพจิตช่วงเย็น น.ส.สิริลภัส กองตระการ สส.กทม. พรรค ก.ก.อภิปรายงบกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยเฉพาะการจัดสรรงบฯให้กรมสุขภาพจิตว่าได้แค่ ๑.๘% จากงบของ สธ. เงินอุดหนุนรายโครงการที่ดูแลสุขภาพจิตวัยรุ่นและวัยทำงานมีน้อย เทียบกับโครงการดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มาจากยาเสพติดโครงการเดียวได้งบฯถึง ๑ ล้านบาท รัฐบาลต้องกลับไปทบทวนความคุ้มค่า ค่าตอบแทนที่จะสร้างแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่จิตเวชทำงานต่อไป ตอนท้าย น.ส.สิริลภัสถึงกับร้องไห้ อภิปรายทั้งน้ำตาว่า มีรอยกรีดอยู่ที่แขนทั้ง ๒ ข้าง รักษาบำบัดโรคนี้มาหลายปี รอยกรีดนี้ไม่ได้กรีดแค่ที่แขนของตน พ่อกับแม่บอกว่ามันกรีดไปที่ใจเขาด้วย ในชีวิตนี้ทำมามากกว่า ๓ ครั้ง วันนี้ลุกขึ้นมาใช้ชีวิตต่อได้ มาเป็นผู้แทนฯพูดแทนประชาชน หากรัฐให้ความสำคัญกับปัญหานี้ จะรักษาบุคลากรที่ขับเคลื่อนประเทศนี้ได้มากมายแค่ไหน ขอเรียกร้องอย่ามองข้ามคนกลุ่มนี้ ทุกวันนี้มีคนพยายามฆ่าตัวตายอยู่ ขอให้ทำให้พวกเขาเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้พร้อมจะยืนเคียงข้าง ทำทุกวิถีทางให้เขามีชีวิตอยู่ต่อบนโลกใบนี้ได้ หลัง น.ส.สิริลภัสอภิปรายจบ สส.พรรค ก.ก.พากันเข้าไปให้กำลังใจ จับมือสวมกอด สส.บางคนพลอยร้องไห้ตาม น.ส.สิริลภัสไปด้วย“เศรษฐา” ยันใส่ทั้งเงินใส่ทั้งใจให้ปักษ์ใต้กระทั่งเวลา ๑๘.๐๐ น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ชี้แจงว่าตั้งแต่วันที่ ๔ มกราคมมีเรื่องที่ติดใจอยู่ การดูแลพี่น้องภาคใต้ขอแยกเป็นเรื่องความมั่นคงและมั่งคั่ง การใส่เงินและการใส่ใจ ตั้งแต่เป็นนายกฯลงพื้นที่ภาคใต้มาหลายหน มีเมกะโปรเจกต์ใหญ่ๆ เช่น แลนด์บริดจ์ ขยายสนามบินภูเก็ต ไม่ใช่แค่ใส่งบฯอย่างเดียว การใส่ใจได้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปแล้ว ๒ ครั้ง ไปพูดการสร้างสะพาน สร้างนิคมอุตสาหกรรม พัฒนาด่านตรวจคนเข้าเมือง ทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ สอดคล้องกับความมั่นคงทำให้เหตุรุนแรงแรงน้อยลง สิ้นเดือนหน้าจะลง ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปดูเรื่องเศรษฐกิจพร้อม รัฐมนตรีว่าการการท่องที่ยวฯและ รัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม ๓ จังหวัดมีของดีอยู่มาก ถ้าใส่ใจหลายอย่างจะถูกนำขึ้นมาโปรโมตเชื่อว่าจะเกิดสิ่งดีๆ นำเงินเข้าประเทศได้เยอะ เช่น ปลาหน้าตก หรือปลานิลสายน้ำไหลมูลค่าสูงถึงตัวละ ๓ พันบาท แต่ไม่มีใครโปรโมต จ.ยะลา มีสนามบินที่เปิดให้บริการโปรโมตให้นักท่องเที่ยวเข้ามา หวังว่าจะมีสายการบินไปเปิดบริการในอนาคต แต่เครื่องบินเจ็ตลงไม่ได้ ต้องล้ำแดนประเทศเพื่อนบ้าน จะไปเจรจาขอตอนเครื่องบินขึ้นลง มั่นใจ ๔ ปีเป็นนายกฯจะมั่งคั่งมั่นคงได้อย่างไม่เคยมีมาก่อนย้ำ ๔ เพิ่ม ๑ ลดยกระดับใช้ภาษีคุ้มค่าจากนั้นเวลา ๒๐.๐๘ น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง กล่าวปิดการอภิปรายสรุปว่า แม้การจัดทำร่าง พระราชบัญญัติงบฯจะถูกจัดทำในเวลาเร่งด่วน มีไฮไลต์สำคัญคือ ๔ เพิ่ม ๑ ลด คือ ๑.เราจัดงบฯเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ๒.เพิ่มเงินลงทุนยกระดับชีวิตประชาชน ๓.เงินคงคลังเพิ่มขึ้นจากการจ่ายเงินคืนเพื่อรักษาวินัยการเงินการคลัง และ ๔.รายได้เพิ่มขึ้น มั่นใจเราจะขยายฐานภาษีได้จากการจัดเก็บรายได้ให้เป็นธรรมและ ๑ ลด คือจะขาดดุลลดลง จะเป็นการลงทุนทางการเงินที่คุ้มค่า มั่นใจว่าแม้เหลือเวลาใช้งบฯปี ๖๗ ไม่นาน แต่รัฐบาลจะใช้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้คุณค่า มีเป้าหมาย ให้คุ้มกับเงินภาษีประชาชนทุกบาททุกสตางค์ ความเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆขอฝากให้ กมธ.วิสามัญ นำไปประกอบการพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบยิ่งขึ้น ต่อมาหลังสภาฯลงมติร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗ นายเศรษฐาเดินทางกลับ โดยยกมือทักทายสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกล่าวย้ำ ๒ ครั้งว่า “Have a good weekend”สภาผ่านวาระแรกงบฯปี ๖๗ ฉลุยเมื่อเวลา ๒๐.๑๑ น.นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯเปิดให้แสดงตน โดยมีผู้แสดงตนทั้งหมด ๔๙๕ คน จากนั้นได้เปิดให้ลงมติว่า จะรับหลักการแห่งร่าง พระราชบัญญัติงบฯปีหรือไม่ โดยมีผู้เห็นด้วยจำนวน ๓๑๑ คน ไม่เห็นด้วย ๑๗๗ คน งดออกเสียง ๔ คน และไม่ออกเสียง ๐ คน ก่อนจะตั้งคณะ กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบฯ ปี ๖๗ จำนวน ๗๒ คน มีสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี ๑ ใน ๔ หรือ ๑๘ คนและอีก ๕๔ คนเป็นสัดส่วนของพรรคต่างๆ ดังนี้ พรรคก้าวไกล ๑๖ คน พรรคเพื่อไทย ๑๕ คน พรรคภูมิใจไทย ๘ คน พรรคพลังประชารัฐ ๕ คน พรรครวมไทยสร้างชาติ ๔ คน พรรคประชาธิปัตย์ ๓ คน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติและพรรคไทยสร้างไทย พรรคละ ๑ คน โดยกำหนดเวลาในการแปรญัตติ ๓๐ วันtt tt“ไหม” ตอกย้ำงบฯ ๖๗ สอดไส้ไม่ตรงปกเมื่อเวลา ๑๑.๐๐ น. ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงสรุปการอภิปรายงบฯ ปี ๖๗ ว่า ร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗ ไม่สะท้อนว่ารัฐบาลจะแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ฝุ่น PM ๒.๕ อย่างไร มีการสอดไส้ไม่ตรงปก แทนที่จะมีแผนสร้างความสามารถการแข่งขันกับต่างประเทศ กลับแทรกแผนการสร้างถนน สร้างตึกเข้ามาแทน กรณีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง ระบุว่าเอกสารจากสำนักงบประมาณ ผิดเพียงแค่จุดเดียวที่เป็นการแสดงตัวเลข Nominal GDP ไม่ได้หักผลของเงินเฟ้อ ส่วนหน้าอื่นเป็น Real GDP หากยอมรับเป็นข้อผิดพลาดไม่ต้องถกเถียงกันถึง ๒ วัน การคำนวณแบบนี้ไม่มีใครเขาทำ คาดหวังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง จะชี้แจงเรื่องเศรษฐกิจมากกว่านี้แต่กลับให้นายจุลพันธ์ตอบอย่างน่าผิดหวัง ส่วนวิกฤติการณ์ด้านความมั่นคง ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม งบบุคลากรกองทัพยังคงเพิ่มขึ้น ยังเห็นจำนวนทหารที่เพิ่มขึ้นทุกปี เรื่องเรือดำน้ำเหมือนนายสุทินจะยอมรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง เพราะชี้แจงว่า เราผิดสัญญาแต่ความจริงเราไม่ได้ผิดสัญญาแม้แต่ครั้งเดียว วันนี้เกินระยะเวลาที่ต้องส่งมอบเรือดำน้ำแล้ว สรุปจะเอาอย่างไรกันแน่“จุรินทร์” ฉะนายกฯเมินหน้าตาคนไทยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการอภิปรายงบฯปี ๖๗ เป็นงบเป็ดง่อยว่า สะท้อนตามเนื้อผ้าตามข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ ที่นายกฯพูดเรื่อง FTA สำเร็จในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ต้องการไปพูดเปรียบเทียบกับ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์คนใหม่ ไม่ประสงค์จะไปมีปัญหาอะไรกับใคร แต่ว่านายกฯเอามาชนกันเสียผู้ใหญ่เปล่าๆ เรื่องถุงเท้าแดง ถุงเท้าชมพู นายกฯพูดถูก ถุงเท้าสีอะไรทำงานได้ ถ้าเป็นรสนิยมทำงานส่วนตัวไม่เป็นไร แต่ถ้าปฏิบัติราชการแผ่นดินไปเจรจาความกับผู้นำต่างประเทศ นายกฯต้องตระหนักด้วยมันแบกหน้าคนไทยติดตัวไปด้วย คนไทยมีสิทธิ์จะมีความรู้สึกมีความเห็นได้ เราทำหน้าที่ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบ ต่างให้เกียรติกันและกันซัด “ครูมานิตย์” องครักษ์แทนคุณนายนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป.กล่าวถึงกรณีนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาตอบโต้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.พรรค ปชป.ที่อภิปรายถึงคนติดคุกทิพย์ชั้น ๑๔ ว่า ประชาชนเข้าใจดีว่า นายครูมานิตย์เป็นหนี้บุญคุณนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายจุรินทร์อภิปรายตรวจสอบงบเพื่อติติงรัฐบาลในฐานะผู้ใช้งบให้บริหารโปร่งใส เพราะประชาชนมีข้อสงสัยว่า ทำไมรัฐบาลปล่อยให้นักโทษบางคนเข้าคุกทิพย์มาแล้วกว่า ๑๒๐ วันไม่เคยติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว นายจุรินทร์พูดถึงความเท่าเทียม การไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทั้งประเทศในการใช้งบ แล้วทำไมถึงพูดถึงการเลือกปฏิบัติที่ใช้งบดูแลผู้เสมือนถูกต้องขังเทวดาไม่ได้“อนุสรณ์” เย้ย ปชป.ตกยุคอนาคตต่ำสิบนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวว่า การพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗ สส.รัฐบาลทำหน้าที่ได้อย่างสร้างสรรค์ มีเพียง สส.ฝ่ายค้านบางคนบางพรรคที่อาจมีปัญหา สอดคล้องกับที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ออกมายอมรับว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เป็นเอกภาพ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เห็นได้จาก สส.พรรค ปชป.บางคนไม่มุ่งเน้นเสนอแนะพยายามปลุกผีความขัดแย้งแบ่งแยก สร้างภาคนิยม จมปลักอยู่กับการผลิตวาทกรรมนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังซ้ำในสังคม เสียดสีโดยใช้คำว่า ทูนหัวของบ่าวหลายครั้ง เป็นการด้อยค่า สส.ที่ประชาชนเลือกมา ด้อยค่าสภา ด้อยค่าตัวผู้พูดเอง ทำงานการเมืองแบบโบราณหลงยุคขุดอดีตที่บิดเบือนขึ้นมาหาประโยชน์ได้ไม่คุ้มเสีย ทำให้พรรคตกต่ำจนอาจกลายเป็นพรรคต่ำสิบในอนาคตหรือไม่ ผู้ใหญ่ในพรรค ปชป.ควรเรียกไปอบรม ปล่อยให้เดินไปแบบนี้ยิ่งเสียหายหนักจนกู่ไม่กลับนายกฯเชื่อขยี้งบฯใต้ ปชป.ติเพื่อก่อขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค ปชป.พุ่งเป้าจัดสรรงบฯไม่เท่าเทียม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ว่า เป็นการติเพื่อก่อในหลายๆเคส และมีหลายเคสที่พยายามอธิบายไป ต้องเข้าใจว่างบฯปี ๖๗ เรามีมรดกมาและเราพยายามทำให้ดีที่สุด ภาคใต้เชื่อว่าเป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้ว ตลอด ๔ เดือนที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒ ครั้ง ลงไป จ.ภูเก็ตหลายครั้ง งบฯเป็นเรื่องหนึ่งที่บ่งบอกถึงการจะทำให้พื้นที่มั่นคงมั่งคั่งขึ้นได้ แต่อีกเรื่องหนึ่งไม่อยากให้ลืมไปคือการใส่ใจ รัฐบาลจะดูแลประชาชนทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง จบ ๔ ปีนี้เชื่อว่าชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนทุกภาคจะดีขึ้น เราต้องมาโฟกัสว่าจะทำอย่างไรจะดูแลประชาชนทุกภาคส่วนให้เท่าเทียมเสมอภาค ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นมากกว่า ไม่ใช่เรื่องงบฯอย่างเดียวมติฝ่ายค้านคว่ำร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗เมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้านประกอบด้วยพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พรรคเป็นธรรม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวถึงจุดยืนพรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะโหวตไม่รับร่าง พระราชบัญญัติงบฯ ปี ๖๗ โดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก.ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงว่า เข้าสู่วันสุดท้ายของการพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบฯ พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นพ้องกันว่ากฎหมายงบประมาณไม่สะท้อนว่ารัฐบาลกำลังแก้ปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญ อาทิ วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติสิ่งแวดล้อม ทำงบฯที่ไม่แตกต่างจากรัฐบาลเก่า และยังพบการสอดไส้งบฯ ไม่ตรงปก ไม่ตรงแผน ฝ่ายค้านได้วิพากษ์วิจารณ์ตั้งคำถามและให้ข้อเสนอแนะ แต่คณะรัฐมนตรีชี้แจงไม่ตรงกับคำถาม ขาดวุฒิภาวะให้ข้อมูลที่บิดเบือน พรรคฝ่ายค้านจึงมีมติว่าจะลงมติไม่เห็นชอบกับร่าง พระราชบัญญัติฉบับนี้รับงานกร่อยรอบหน้าเดือดศึกซักฟอกเมื่อถามว่าจะมีบทลงโทษอย่างไร หากโหวตสวนกลับมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายชัยธวัชกล่าวว่า ไม่มีบทลงโทษ เพราะเชื่อมั่นว่าอย่างไรก็โหวตไปในทิศทางเดียวกัน ทุกพรรคมีเอกภาพ ไม่มีการแตกแถว พรรคประชาธิปัตย์ได้คุยกันแล้วเมื่อวันที่ ๒ ม.ค. มีมติจะไม่รับหลักการ เมื่อถามย้ำว่าหากมีเสียงแตกไปสนับสนุนงบฯจะทำอย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งคิด มั่นใจว่าไม่มีเสียงแตกแน่นอน อย่างที่พรรค ปชป.ได้บอกไว้ถึงจะมี สส.ลาป่วย เราจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน และกลางปีจะมีร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๘ หวังว่ารัฐบาลจะไม่มีข้ออ้างจัดทำงบฯ ได้ประสานงานกับหัวหน้าพรรค ปชป.ว่าเราจะนัดประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ เพื่อวางแผนงานและเป้าหมายร่วมกัน เพื่อให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นเอกภาพ ส่วนที่หลายคนรู้สึกว่าการอภิปรายรอบนี้ยังไม่ได้ดุเดือด อยากจะบอกกับประชาชนว่าเป็นการประชุมร่าง พระราชบัญญัติงบฯไว้ค่อยดูการอภิปรายซักฟอกที่ดุเดือดในอนาคต เพราะการอภิปรายงบฯควรจะให้ข้อมูลแก่ฝ่ายบริหาร และประชาชน ไม่ได้ดุเดือดเผ็ดร้อนปชป.ยันไม่ลงมติเห็นชอบให้ด้านนายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบ คีรีขันธ์ พรรค ปชป. กล่าวว่า งบฯปี ๖๗ ไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศได้ งบฯทำฝนเทียมมีน้อย นักบริหารไม่มีใครออกมาพูดเรื่องฝนหลวงของกระทรวงเกษตรฯ หากยังอยู่ในลักษณะนี้ไม่ว่าภาคเกษตรกรหรืออุตสาหกรรม ไม่สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชนได้ ราคาพรรคประชาธิปัตย์ได้ลงมติแล้วว่า เราจะไม่รับหลักการ ขอฝากไปที่กรรมาธิการให้นำไปแก้ไขและดูแลไม่เชื่อมือนายกฯจะบริหารงบฯได้ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า งบลงทุน ๗๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ไปลงอยู่แค่ ๔ กระทรวง คือกระทรวงคมนาคม กลาโหม มหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ และเป็นงบฯผูกพันจากรัฐบาลที่แล้ว งบการลงทุนที่เกิดในรัฐบาลนี้จริงมีเพียง ๒๐๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท รัฐบาลที่แถลงไว้กับรัฐสภาวันที่ ๑๑ กันยายน๖๖ คงไม่สามารถนำมาพัฒนาได้มาก การศึกษาของไทยได้งบน้อย อยากให้นำเงินมาลงทุนด้านการศึกษาและการสาธารณสุข ดูแลผู้สูงอายุ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ เราไม่สามารถรับหลักการในร่าง พระราชบัญญัตินี้นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า การตัดสินใจของพรรคฝ่ายค้านคือเสียงสะท้อนของประชาชน ต้องการการเปลี่ยนแปลงจากการบริหารจัดการประเทศ ๙ ปีที่ผ่านมา เราไม่รับร่าง พระราชบัญญัติฉบับนี้เพราะยังไม่ไว้ใจการบริหารประเทศของนายกฯเศรษฐา เรายังไม่เห็นศักยภาพในการบริหารงบประมาณกฟผ.แจง สส.ก้าวไกลใช้ข้อมูลเก่าวันเดียวกัน นายชัยวุฒิ หลักเมือง รองโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงกรณี สส.พรรคก้าวไกลอภิปรายฐานะการเงินของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในที่ประชุมสภาฯพิจารณา พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗ ระบุสภาพคล่องกระแสเงินสดของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจะลดลงเหลือ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาทในเดือน ต.ค. และจะติดลบเดือน ธ.ค. อ้างอิงข้อมูลมาจากรายงานการประชุมของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยว่า เป็นข้อมูลคาดการณ์เก่า ณ เดือน ตุลาคม๖๖ ใช้สมมติฐานรายรับจากค่าไฟฟ้าที่ใช้ตัวเลขสมมติฐานหน่วยละ ๓.๙๙ บาทจนถึงเดือน ธันวาคม๖๗ ไม่ใช่ข้อมูล ณ ปัจจุบันของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยล่าสุดผลประกอบการและสถานะการเงินจริงของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยณ สิ้นปี ๒๕๖๖ มีกระแสเงินสด ๙๑,๐๐๐ ล้านบาท ไม่ใช่ ๖๑,๖๒๓ ล้านบาท ตามข้อมูลสมมติฐานที่คาดการณ์ไว้ในเดือน ตุลาคม๒๕๖๖ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีมาตรฐานการรักษาระดับเงินสดขั้นต่ำที่ต้องคงไว้ ๖๐,๐๐๐ ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต้องบริหารทางการเงินเพื่อรักษาระดับเงินสดให้อยู่ในระดับ ๖๐,๐๐๐ ล้านบาทอย่างเคร่งครัดสมช.ไฟเขียว “บิ๊กรอย” นั่งเลขาฯเมื่อเวลา ๑๖.๑๐ น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ทวีตภาพขณะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่รัฐสภา และข้อความผ่าน X ระบุว่า ที่ประชุมได้เห็น ชอบการแต่งตั้ง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตำรวจดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช.แต่ยังมีกระบวนการอีกหลายขั้นตอนตามกฎหมายที่ต้องดำเนินการก่อนนำเรื่องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาคปท.นัดม็อบกดดัน รบ.ช่วย “ทักษิณ”เมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น.ที่สำนักงานพรรคไทยภักดี (ทภด.) ถนนนครอินทร์ จ.นนทบุรี เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ เข้าหารือกับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรค ทภด.เพื่อขยายแนวร่วมเคลื่อนไหวกรณีนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ได้สิทธิ์พักรักษาตัวที่ชั้น ๑๔ รพ.ตำรวจ โดยไม่ต้องเข้าไปรับโทษในเรือนจำ นายพิชิตกล่าวว่า ในวันที่ ๑๒-๑๔ มกราคมนี้ คปท.นัดหมายประชาชนมารวมตัวกันชุมนุมแบบปักหลักค้างคืน ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล เพื่อคัดค้านกรณีรัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้ น.ช.ทักษิณ ร่วมกันออกมาปกป้องกระบวนการยุติธรรมอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
พระราชบัญญัติงบฯ ๖๗ ฉลุยวาระแรก มติ ๓๑๑ ต่อ ๑๗๗ เสียง หลังเสร็จศึกอภิปราย ๓ วัน
เรื่องที่เกี่ยวข้อง