วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ องค์งาม สภาพแชมป์และเป็นองค์หน้าใหม่

03 มี.ค. 2024
53

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส ของ “นาย” โป๊ยเสี่ย-ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์.เข้าสู่สนามพระอาทิตย์แรกของเดือนที่สาม ซึ่งอากาศเริ่มร้อนขึ้นแร้ว ทำให้สนามพระยุคติดแอร์เป็นที่ชุมนุมยอดนิยมของชาวพระ เพราะนั่งสบาย ได้เจอคนชอบเหมือนกัน และยังปลอดภัยจากการสอดส่องของอาซ้อ เพราะเห็นว่าไปดูพระไม่ได้ไปดู sheเริ่มกันที่ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ของ โป๊ยเสี่ย-ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ ที่สายพระเครื่องเรียกติดปากว่า “นาย” มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะจิตใจกว้างขวางและด้วยการเล่นหาพระเครื่องแบบรู้ลึกรู้จริง มีประสบการณ์มายาวนาน วงการ พระเครื่องจึงยกย่องท่านเป็น “เสาหลัก” คนสำคัญ มีบทบาทในการยกระดับวงการวัตถุมงคล โดยสะสมแต่พระแท้ดูง่าย สภาพสมบูรณ์ สวยแชมป์จนเป็นนักนิยมพระแถวหน้า ที่มีพระหลักยอดนิยมชั้นดีพรีเมียม ระดับ องค์ครู ที่เป็นตำนานของวงการมากมายหลายองค์และถึงวันนี้ ที่นักสะสมหลายคนรามือเลิกซื้อไป แต่ “นาย” ก็ยังใจรัก ปักหลักซื้อไม่ยอมเลิก อย่างองค์นี้ เป็น พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ องค์ล่าสุด ที่เพิ่งนิมนต์เข้ารัง ด้วยความปลื้มในความเป็น พระองค์งาม สภาพแชมป์ และเป็นองค์หน้าใหม่ พวกเราได้เห็นก็ชื่นใจไปด้วยกับผู้ครอบครองที่คู่ควร พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑกลาง วัดใหม่อมตรส ของโจ๊ก ลำพูน.ตามมาด้วย พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑ (กลาง) วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ องค์นี้เคยลงให้ดูปลายปีก่อน เป็นพระสภาพงามสมบูรณ์ พองาม กำลังใช้ กำลังโชว์ และบอกว่าไม่นานคงได้เปลี่ยนเจ้าของ แล้วก็จริง เพราะวันนี้ชื่อเจ้าของคนใหม่คือ เสี่ยโจ๊ก ลำพูน พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ใหญ่ ๗ ชั้น นิยม A วัดไชโยวรวิหาร ของจอมยุทธ พเนจร.องค์ที่สาม เป็น พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ใหญ่ ๗ ชั้น นิยม A วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ของนักสะสมที่ใช้นามฉายาน่าซูฮกว่า จอมยุทธ พเนจร เพราะอยากโชว์พระ แต่ไม่อยากโชว์ความหล่อพิจารณาจากความงามสมบูรณ์ขององค์พระ บอกได้ว่า สวยแชมป์ เพอร์เฟกต์–ก็สมกับที่เจ้าของชื่อ จอมยุทธ พระรอด พิมพ์ต้อ เนื้อเขียวหินครก วัดมหาวัน ของ ป. สินกาญจน์.องค์ที่สี่ คือ พระรอด พิมพ์ต้อ เนื้อเขียวหินครก วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน พระพิมพ์รองน้องในสกุล พระรอด แต่ได้ความงามสมบูรณ์ระดับท็อปไฟว์ของพิมพ์ มาทดแทนจึงสามารถเทียบไหล่กับพี่ๆ พระพิมพ์หัวแถว –ข่าวว่าราคาที่ เสี่ย ป. สินกาญจน์ ทุ่มมาคือ ๑๒ ล้าน โอ้แม่เจ้า พระสมเด็จจิตรลดา พ.ศ.๒๕๑๒ ร.๙ ของไมตรี เฉลิมชัยชาญ.ต่อด้วย พระสมเด็จจิตรลดา พ.ศ.๒๕๑๒ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช พระตำหนักสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ ของ เสี่ยไมตรี เฉลิมชัยชาญพระสมเด็จจิตรลดา เป็นพระพิมพ์ยอดนิยม ที่อินเทรนด์ตลอดกาล และมีการย้ายกุฏิ เปลี่ยนมือกันมากที่สุดเมื่อปีก่อน ปีนี้กระแสก็ยังแรง โดยเฉพาะพระองค์งาม สภาพแชมป์ เดิมๆ แท้ดูง่ายๆ อย่างองค์นี้ ที่มีใบสั่งรอนิมนต์ทุกสนาม เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ข้างรัศมี เนื้อทองแดงเถื่อน หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของทองกานต์ ศรีอิสรีย์.ต่อไปเป็น เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ข้างรัศมี เนื้อทองแดงเถื่อน พระครูวิมล คุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เหรียญหล่อเอกลักษณ์ สุดยอดนิยมในสกุลพระเครื่องหลวงปู่ศุข ที่ท่านสร้างไว้ในยุคต้นๆ ราวปี พ.ศ.๒๔๕๐เพราะองค์ลูกศิษย์เอกคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ เสด็จเตี่ย หลวงปู่จึงได้ช่างหลวงออกแบบแกะแม่พิมพ์ มีเนื้อพระแยกเป็นตะกั่ว โลหะผสม–และ เนื้อทองแดงเถื่อน เนื้อนิยมสุดหายาก แบบเหรียญนี้ ของ คุณทองกานต์ ศรีอิสรีย์ ที่เป็นองค์งามแชมป์ มีภาพเป็นองค์ดาราในหนังสือตำราเล่มมาตรฐานมาถึงปัจจุบันตรงนี้ขอตอบ คำถามสนามพระ ซะหน่อยว่า ที่ทหารเรือมาแล้วเรียกพระองค์ว่า “เสด็จเตี่ย” นั้น เล่ากันว่า ธรรมเนียมของทหารเรือจะต้อง ขัดดาดฟ้าเรือ ซึ่งตอนนำนักเรียนนายเรือไปฝึกภาคทางทะเลบนเรือหลวงพาลีรั้งทวีป ในปี พ.ศ.๒๔๖๒ พอ เห็นนักเรียนขัดกันผิดๆถูกๆ จึงรับสั่ง ว่า “อ้ายลูกชายมานี่ เตี่ยจะสอนให้” แล้วก็ทรงขัดดาดฟ้าให้ดูเป็นตัวอย่างทหารเรือจึงเรียกพระองค์ว่า เสด็จ “เตี่ย” เพราะเป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๒๘ ของ รัชกาลที่ ๕ จะเรียก เตี่ย เฉยๆไม่ได้ ส่วนคำว่า เสด็จ ก็ใช้เรียกพระราชโอรส พระราชธิดา ที่ประสูติจาก เจ้าจอมมารดา ซึ่งจะมีฐานันดรเป็น พระองค์เจ้าส่วนอีกพระนามคือ หมอพร เพราะช่วงหนึ่งทรงลาออกจากราชการนาน ๖ ปี และไปทำอาชีพหมอยาแผนโบราณ จึงใช้พระนามว่า หมอพร ซึ่งย่อจากพระยศ ซึ่งตอนนั้นทรงเป็น กรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์ต่อมาได้เลื่อนพระยศเป็น กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ส่วนพระนามเต็มคือ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งจากการพัฒนากองทัพเรือไทย ทหารเรือจึงยกย่องเป็น องค์บิดาของทหารเรือไทย เหรียญหนุมานลงยา เนื้อทองคำ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน ของคุณนิธิศ นนท์วราเวช.ลงจากเรือไปดูลิง อีกรายการเป็น เหรียญหนุมาน เนื้อทองคำ ลงยา หลวงพ่อกุน วัดพระนอน อ.เมือง จ.เพชรบุรี สุดยอดเหรียญดังเหรียญหลักยอดนิยมที่หายากสุดๆ ต้นกำเนิดฉายา “เสื้อเกราะเมืองเพชร”สร้างไว้โดยหนึ่งในอมตะพระเกจิฯ ที่ได้รับการยกย่องเป็นพระผู้มีวิชาอาคมเข้มขลังแถวหน้าของเมืองเพชร เป็นเจ้าตำรับผู้สร้าง ตะกรุดโทน ไมยราพสะกดทัพ ตะกรุดยอดนิยมอันดับ ๑ท่านมีพรสวรรค์ในเชิงช่าง และมีความรู้วรรณคดี จึงนำรูปลักษณ์ตัวเอกใน รามเกียรติ์ สร้างเป็นเครื่องรางของขลังหลายรูปแบบ อาทิ ยักษ์ไมยราพ ฤๅษีรามสูร พระรามแผลงศร ฯลฯ และ รูปจำลองหนุมาน เพราะท่านเกิดปีวอกอย่างเหรียญนี้เป็นเหรียญรุ่นนิยมสุด สร้างไว้ทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน นาก สัมฤทธิ์ แต่ก็มีน้อยมากสำหรับ เนื้อทองคำ อันนี้เคยเป็นเหรียญของพระอาวุโสของวัดคงคาราม ที่มีสภาพสมบูรณ์ สวยเยี่ยม เดิมๆ พบในวงการเพียงหลักหน่วยต้นๆ เพราะเป็นเหรียญที่สร้างสำเร็จได้ยากกล่าวกันว่า นอกจากความพิถีพิถันในการสร้างด้วยฝีมือช่างชั้นเยี่ยม ทั้งการแกะแม่พิมพ์ การลงยาแล้ว ท่านจะปลุกเสกกำกับด้วย พระคาถาอิติปิโสตรึงไตรภพ ลงอักขระลายมือที่หลังเหรียญลบถมด้วยลูกสะบ้า (เห็นได้จากรอยคลื่นที่หลังเหรียญ) ในคืนวันเพ็ญถึง ๗ ป่าช้าเพื่อให้มีอิทธิคุณทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยมเป็นที่สุด–เหรียญเด็ดแบบนี้ พอเห็นชื่อเจ้าของก็ไม่แปลกใจ เพราะตกอยู่กับ เสี่ยนิธิศ นนท์วราเวช ไปเรียบร้อย สมใจแฟนคลับ ที่รอฟังข่าวทุกอาทิตย์ว่าจะพิชิตอะไรอีก เหรียญรุ่น ๒ เนื้อเงิน พ.ศ.๒๔๙๘ หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ของพายุ บ้านวัชรสาร.อีกเหรียญ เป็น เหรียญเนื้อเงิน รุ่น ๒ พ.ศ.๒๔๙๘ หลวงพ่อทองศุข อินทโชโต วัดโตนดหลวง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อมตะพระเกจิฯแห่งเมืองเพชรบุรี ซึ่งมีอายุอยู่ระหว่าง พ.ศ.๒๔๒๐-๒๕๐๐ท่านเกิดที่บ้านทับใต้ ต.หินเหล็กไฟ เพชรบุรี ในแผ่นดิน ร.๕ พออายุ ๙ ขวบได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์สมภารวัดโพธิ์ อ.บ้านลาด จนอ่านเขียนภาษาขอม-บาลีได้แตกฉาน และยังเรียนวิชาหมัดมวย กระบี่กระบอง จนสามารถเป็นอาจารย์สอนศิษย์ได้เพราะมีวิชาต่อสู้ ตอนเป็นวัยรุ่นจึงเป็นหัวโจกเพื่อนฝูงยกย่องยอมรับ จึงพากันเที่ยวเตร่จนกลายเป็นอันธพาล นักเลงโต และก่อคดีมีชื่อกระฉ่อนแถบราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม สุดท้ายต้องหนีอาญาแผ่นดินอยู่อย่างลำบากหลบๆซ่อนๆ อดอาหาร ทำให้สำนึกได้ว่าใช้ชีวิตผิดทาง จึงตัดสินใจกลับตัวไปอุปสมบทตอนอายุ ๓๒ ปี ที่วัดปราโมทย์ ต.โรงหวี อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๒มีหลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อตุย วัดปราโมทย์ เป็นพระ กรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อคง วัดแก้ว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้นามฉายา อินท โชโต จำพรรษาที่วัดปราโมทย์ ๔ พรรษา วัดแก้ว ๒ พรรษา เรียนพระธรรมวินัย และวิปัสสนา กับพระคู่สวดด้วยความมุ่งมั่นขยันหมั่นเพียร และเรียนวิชาพุทธาคมกับ หลวงพ่อตาด ได้เป็นศิษย์ร่วมสำนักกับหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม แล้วไปเรียนวิชาต่อกับ หลวงปู่นาค วัดหัวหิน สำเร็จแล้วธุดงค์ไปหลายจังหวัด จนถึงวัดโตนดหลวง ชาวบ้านศรัทธาในวัตรปฏิบัติและวิชาอาคมที่ท่านใช้ช่วยเหลือชาวบ้าน จึงอาราธนาท่านอยู่จำพรรษา ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสที่ว่างอยู่จนวัดมีความเจริญต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูพินิจสุตคุณ มีชื่อเสียงเป็น ๑ ใน ๑๐๘ พระเกจิฯที่ได้รับนิมนต์ร่วมพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธชินราช ที่พุทธสมาคมจัดสร้างมอบทหารครั้งสงครามอินโดจีนและด้วย วิชาลงกระหม่อม ที่ขึ้นชื่อลือชาในอานุภาพ แคล้วคลาด คงกระพัน จึงมีศิษย์แพร่หลาย รวมทั้ง พระยาพหลฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ยังให้ท่านลงกระหม่อมตลอดอายุ ๘๐ ปี ท่านสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลไว้หลายรูปแบบที่มีชื่อเสียง เช่น เหรียญรูปเหมือน ๑-๒ ตะกรุดพอกครั่งพุทรา ลูกอม แหวน ฯลฯ โดยเฉพาะ เหรียญรูปจำลองท่านรุ่น ๑ พ.ศ. ๒๔๙๒ ที่ในอดีตศิษย์เห็นว่ารูปหน้าไม่เหมือน หลวงพ่อจึงให้ความนิยมน้อยกว่า เหรียญรุ่น ๒ ที่สร้างออกเมื่อคราวงานบุญฉลองกุฏิเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๘ แบบเหรียญนี้ ที่สภาพสมบูรณ์ สวยแชมป์เดิมๆ ดีแน่แท้ชัวร์เดิมเป็นของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของเมืองเพชร ที่เก็บมากว่า ๔๐ ปี วันนี้จึงใจอ่อนออกให้ เสี่ยพายุ บ้านวัชรสาร ที่ทุ่มทุนสู้แบบยากปฏิเสธลากันด้วยเรื่องปิดท้าย ของ ป้าสำลี ชาวสวนทุเรียนเมืองจันท์ ที่นั่งฟังเพื่อนบ้านคุยถึงข่าวคนทำสวนถูกฝูงตัวต่อต่อยตาย เพราะเผลอเอามีดไปฟันโดนรังมันแตกออกมาแกก็รู้สึกกลัว เพราะในสวนตัวเองก็มักมีตัวต่อ ตัวแตน ตัวผึ้ง มาทำรัง จึงถามว่าจะป้องกันได้ไง เพื่อนบ้านก็บอกว่าไม่ต้องกลัวจนเกินเหตุ เพราะถ้าไม่แพ้พิษมันก็ไม่ถึงตาย และที่สำคัญให้ระวังส่วนหัว เพราะใกล้สมอง ให้หาอุปกรณ์ป้องกัน ใส่หมวก งอบ หรือยาทาแก้พิษสัตว์ไว้ใกล้ตัว หรือให้สบายใจก็หาพระเครื่องของขลังที่มีพุทธคุณป้องกันเขี้ยวงาแมลงสัตว์กัดต่อยมาใช้ติดตัวผ่านไป ๑ เดือน เจอกันอีกที เพื่อนบ้านก็เห็น ป้าสำลี มีพระเครื่อง ตะกรุดห้อยเต็มตัว แต่ที่เห็นเตะตาเป็นผมทรงใหม่ สะดุดตา จึงถามว่า อารมณ์ดีอะไร ขายทุเรียนได้เยอะหรือจึงทำผมซะสวยเช้งป้าสำลี ทำหน้าอายๆ บอกว่า ไม่ได้อารมณ์ดี แต่เป็นวิธีป้องกันต่อแตนต่อย เพราะห้อยพระห้อยตะกรุดยังรู้สึกไม่ชัวร์และความที่เป็นคนรักสวยรักงามก็ไม่อยากใส่หมวกเพราะจะทำให้ผมเสียทรง แกเลยไปซื้อวิกผมทรงยีตีโป่งมาใส่ สไตล์นางงามรอรับมง เพราะฟูซะจนถูกตัวอะไรต่อยเหล็กในก็ไม่ถึงหนังหัว ชัวร์แน่ๆ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.สีกาอ่างคลิกอ่านคอลัมน์ “สนามพระ” เพิ่มเติม