“เศรษฐา” เล็งต่อยอดพาเจ้าสัวออนทัวร์ช่วยเกษตรกร ทั่วทุกภาค ถก คณะรัฐมนตรีสัญจรระนอง พร้อมเคลียร์ใจคนคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ ย้ำเปิดใจฟังเสียงชาวบ้าน ให้ความสำคัญเป็นที่หนึ่ง ลั่นปรับ คณะรัฐมนตรีให้ฟังนายกฯคนเดียว “ภูมิธรรม” ขอคนวิจารณ์ดิจิทัลวอลเล็ตใจกว้างหน่อย หวด ป.ป.ช.ทำเกินหน้าที่ด่วนสรุปมีทุจริต โวยกลับสู่โลกความจริง ไม่ใช่จินตนาการ โกงกันมหาศาลทั้งที่โครงการยังไม่เกิด ยันผลการศึกษา ป.ป.ช.แค่ข้อพึงสังวร ไม่ใช่ข้อต้องปฏิบัติ ไม่ห่วง สว.-ฝ่ายค้านลากปม “ทักษิณ” ขึ้นเวทีซักฟอก ปชป.ชำแหละ ๔ โครงการรัฐล้มเหลว จี้ พท.รับสารภาพผิดหาเสียงเพ้อฝันแต่ทำไม่ได้ ขย่มปูพรม แจกเงินหมื่นไปต่อไม่ได้จากกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง นำคณะนักธุรกิจหรือกลุ่มเจ้าสัวรุ่นใหม่ ในนาม “กลุ่มรวมมิตร” ไปลงพื้นที่น้ำร่องเพื่อช่วยพัฒนา ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนที่ จ.เชียงใหม่ ล่าสุด นายกฯระบุจะขยายผลต่อยอดไปยังทุกภาค ทั่วประเทศtt ttนายกฯขอบคุณ ปชช.เปิดใจคุยเจ้าสัวเมื่อเวลา ๐๙.๔๕ น. วันที่ ๒๑ ม.ค. ที่กองบิน ๔๑ จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีนำนักธุรกิจลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคมว่า เป็นครั้งแรกที่เรานำนักธุรกิจลงมาต้องขอขอบคุณประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย ที่สละเวลามาพูดคุยให้ความรู้กับนักธุรกิจรายใหญ่ รายกลาง และรายย่อยที่เรียนกับหลักสูตรรวมมิตร เพราะเขาต้องสละเวลาทำมาหากินมา ต้องขอขอบคุณที่ให้โอกาสกับผู้ประกอบการที่จะมาช่วยในระยะยาว เราเน้นเรื่องความยั่งยืน ไม่ได้อยากให้แค่มาซื้อของไปแล้วจบ อยากให้เขาช่วยเปิดตลาดให้กับสินค้าดีๆหลายอย่าง และถ้าหากมีปัญหาอะไรเฉพาะกิจหลายท่านก็ยินดี อย่างเมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค. ที่มีชาวเขาปลูกกาแฟและมีกาแฟเหลืออยู่เยอะมาก นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รับซื้อไปหมดถือเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยากให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นอีกบ่อยๆจะได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น และมีปัญหาอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน คนมีมากก็ให้มาก มีน้อยก็ให้ไม่มีไม่ต้องให้เล็งต่อยอดพาไปตะลุยทุกภาคเมื่อถามว่าจะต่อยอดไปพื้นที่ภาคอื่นอีกหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า แน่นอนอยากจะไปทำในทุกพื้นที่ ทั้งภาคอีสานและภาคใต้ แต่หลักสูตรรวมมิตรมีปีละ ๑ ครั้ง มีหลักสูตรเยอะ เช่น วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) เยอะไปหมดอยากให้ทุกคนช่วยๆกันมาทำอย่างนี้ก็ยินดี เพราะเชื่อว่าหน่วยงานรัฐ กพร.ที่ดูแลด้านโครงการพระราชดำริ อยากจะเปิดโอกาสให้นักธุรกิจและนักเรียนที่ร่วมเรียนหลักสูตรเหล่านี้มีส่วนร่วมในการได้พบปะกับประชาชน เมื่อถามว่าปัญหาหนึ่งที่ชาวบ้านร้องขอคือใบอนุญาตของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะมีการสั่งการเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายกฯกล่าวว่า มีหลายเรื่องคือเรื่องการเปิดตลาดซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่รับไปช่วยดูให้ เรื่องแหล่งเงินทุน มากับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง พอดี ท่านดูแลด้านนี้อยู่แล้วและเป็น สส.ในพื้นที่ด้วย จึงรับไปช่วยดูแลแหล่งเงินทุนด้วย และเรื่องของใบอนุญาตต่างๆที่เป็นเรื่องของความบังเอิญที่ตนไปเมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส เขามีสินค้าพวกเวชภัณฑ์ยารักษาโรคต่างๆที่เข้ามาและติดปัญหาตรงนี้เยอะ เดี๋ยวจะไปดูกันอย่างบูรณการเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ของสมาพันธรัฐสวิสของพี่น้องประชาชนก็เหมือนกัน เพราะมีเรื่องเอกสารที่ต้องผ่านขั้นตอนเยอะ ทำให้ได้ใบอนุญาตออกมาช้าก็ต้องไปช่วยปรับปรุงดูแลตรงนี้เยอะพร้อมแจงคนเห็นต่างแลนด์บริดจ์นายเศรษฐาได้ทักทายสื่อ “กู้ดมอร์นิ่ง” ด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง พร้อมระบุว่าเสียงไม่ค่อยดีตั้งแต่เดินทางกลับจากเมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส เพราะเป็นหวัด แต่เมื่อคืนได้นอนพักผ่อน อาการไม่ได้แย่ลง จากนั้นกล่าวถึงวัตถุประสงค์เลือก จ.ระนอง ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (คณะรัฐมนตรีสัญจร) ว่า คณะรัฐมนตรีสัญจรนัดแรกไปภาคอีสานมาที่ จ.หนองบัวลำภู ครั้งนี้เป็นภาคใต้ ครั้งต่อไปเป็นภาคเหนือ สลับสับเปลี่ยนกันไปต้องไปดูแลให้ทั่วถึง รับฟังปัญหา พร้อมชี้แจงโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย น่าจะมีโอกาสพูดคุยกับประชาชนเกี่ยวกับโครงการนี้ด้วย เมื่อถามย้ำว่ามีรายงานข่าวอาจมีประชาชนบางส่วนมาแสดงความเห็นคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องมีการชี้แจงและมีการชี้แจงตลอด เวลาเราลงพื้นที่มีคนมาร้องเรียน ขอใช้คำว่าร้องเรียนทุกเรื่องอยู่แล้ว รัฐบาลมีหน้าที่ต้องรับฟัง ไม่ว่าราคาพืชผลหรือเรื่องอื่นๆต้องรับฟังอยู่แล้ว ยืนยันว่าโครงการแลนด์บริดจ์จะทำให้เกิดประโยชน์มากกว่าต้องไปพูดคุยยังทำได้อีกในแง่การสื่อสารและรับฟังความคิดเห็นย้ำให้ความสำคัญ ปชช.เป็นที่หนึ่งเมื่อถามว่ามีการมองกันว่ารัฐบาลพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติ แต่กับคนในพื้นที่ การสร้างความเชื่อมั่นค่อนข้างน้อย นายเศรษฐากล่าวว่า รับฟังแล้วเห็นอยู่ว่าเมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค. ที่กลับถึง กทม. เวลา ๑๐.๓๐ น. จากนั้นเวลา ๒๐.๐๐ น. เดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่ การลงพื้นที่และการให้ความสำคัญกับประชาชนในพื้นที่ถือว่าเป็นการให้ความสำคัญสูงสุด เดี๋ยวจะเดินทางไปที่ จ.ระนอง วันที่ ๒๒ ม.ค. อีกทั้งยังมีตารางเดินทางไปอีกหลายจังหวัด ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ให้ความสำคัญอย่างมากกร้าวปรับ คณะรัฐมนตรีฟังนายกฯคนเดียวผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะที่รัฐบาลพยายามทำงานไป ในทางการเมือง ยังมีกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐากล่าวว่า ยืนยันมาตลอดเวลาว่าเรายังทำงานร่วมกันดีอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีทุกคนทำงานหนักมาก ตรงนี้ขอให้ฟังจากตนคนเดียวแล้วกัน ถึงเวลาเมื่อไหร่จะบอกเองแล้วกัน เมื่อถามว่านายกฯได้วางไว้หรือไม่ว่า ๖ เดือนจะประเมินผลการทำงานของ ครม. นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกคนมีการประเมินผลตลอดเวลา เรามีการติชม เสนอแนะมาตลอด ไม่จำเป็นต้อง ๖ เดือน ๓ เดือน หรือ ๑ ปี เมื่อถามว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหน ต้องการปรับรัฐมนตรีของพรรคตัวเองเสนอได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่ารับฟังอยู่ตลอด แต่ตอนนี้ เท่าที่ได้ยินมา ทุกท่านมัวแต่ง่วนกับการทำงาน ยังไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ความเดือดร้อนของประชาชนทุกคนรู้อยู่ว่ามีเยอะอยู่แล้ว ขณะเดียวกันรัฐมนตรีหลายท่านลงพื้นที่ เมื่อถามว่าในฐานะเป็นนักการเมืองอยากจะฝากอะไรเกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่มี นอกจากต้องรับฟังความเห็นประชาชน ความเห็นเรื่องเสนอแนะ และความเดือดร้อนเป็นเรื่องที่รัฐมนตรีทุกท่านให้ความสนใจ และต้องใส่ใจด้วยtt ttภูมิธรรม เวชยชัย“อ้วน” ให้ใจกว้างวิจารณ์เงินดิจิทัลที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้าน และ สว.อาจนำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมาอภิปรายซักฟอกรัฐบาลว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเอามาเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ หากมองให้กว้างขวางและใจกว้างหน่อย มันเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ได้คิดถึงว่าเป็นคนรวยหรือคนจน จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ ทำให้วงจรทางเศรษฐกิจหมุนเวียน เราอยู่ในระบบทุนนิยม ต้องเข้าใจมนุษย์ เห็นความเหลื่อมล้ำของคน ที่สำคัญเป็นการเรียนรู้ของประชาชนในโลกเศรษฐกิจยุคใหม่ เศรษฐกิจดิจิทัลมีประโยชน์ อยากให้เริ่มต้นวิจารณ์จากเป้าหมายวัตถุประสงค์ ไม่ได้วิจารณ์จากจินตนาการของตัวเอง รัฐบาลแถลงนโยบายนี้ไว้ชัดเจนอยู่แล้วกับสภาฯ เป็นนโยบายที่หาเสียงมา ถ้าเป็นประเทศอื่นในโลกประชาธิปไตยเขาให้ทำ ทำแล้วดี หากไม่ดีต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองคิดและทำ แต่ยังไม่ทันไรมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ต้องเปิดใจให้กว้างกว่านี้ ช่วยกันมอง หากวิเคราะห์ผิดจะขาดโอกาสกู้วิกฤติประเทศอัด ป.ป.ช.ทำเกินหน้าที่ด่วนสรุปทุจริตเมื่อถามว่านายกฯยอมรับว่าโครงการนี้อาจใช้ไม่ทันในช่วงเดือน พ.ค. นายภูมิธรรมกล่าวว่า อยู่ที่กระบวนการตัดสินใจว่าจะเป็นแบบไหน ถ้าหากจะเลื่อนออกไปเรื่อยๆคงต้องเลื่อน แต่ถ้าถามเจตนารมณ์ของรัฐบาลตอนนี้ยังไม่อยากจะเลื่อน ยังยืนยันจะทำให้ได้ตามเป้าหมาย จะเริ่มต้นทำเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับเวลา แต่ตอนนี้พยายามจะทำให้ได้ ดูจากเจตนารมณ์นายกฯชัดเจนว่าต้องเดินหน้าโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อถามว่าข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีผลทำให้ต้องยกเลิกไปหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องถือว่า ป.ป.ช.ทำเกินอำนาจหน้าที่ เพราะมีหน้าที่ตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วว่าเป็นปัญหาอะไร แต่โครงการนี้ยังไม่ทันเกิดขึ้นเลยไปสรุปว่าจะมีการทุจริต มีข้อควรระวังเยอะแยะไปหมด ข้อควรระวังรับฟังได้ แต่จะถือเป็นข้อห้ามก็ไม่ใช่ ท่านยังไม่กล้าพูดเลยว่าห้าม พูดเพียงสงสัยอย่างโน้นให้ระวังอย่างนี้ อยากให้กลับมาอยู่ในโลกของความจริง ไม่ใช่โลกแห่งจินตนาการว่าจะโกงกันมหาศาล ขอให้มาดูความจริงดีกว่าหยันแค่ข้อพึงสังวรณ์ไม่ใช่สิ่งต้องปฏิบัติ“การพยายามแก้ต้องคิดรูปแบบใหม่ๆทำแบบเดิม ๑๐ กว่าปีมาแล้วก็อยู่ที่เดิม เศรษฐกิจยังแย่ อยู่จนถึงปัจจุบัน หาก ป.ป.ช.มีข้อเสนอมาถึงรัฐบาลแล้ว เราพร้อมจะนำมาไตร่ตรองดู ถือเป็นข้อพึงสังวรณ์ ไม่ใช่ข้อที่ต้องพึงปฏิบัติ” นายภูมิธรรมกล่าว เมื่อถามว่ายืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ล้มเลิกโครงการนี้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า จุดมุ่งหมายอยู่ที่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ เราเชื่อว่าวันนี้สถานการณ์เศรษฐกิจวิกฤติ เรื่องนี้เถียงกันได้แต่ต้องเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงาน” นายภูมิธรรมกล่าวไม่ห่วงปม “ทักษิณ” ทุกอย่างตาม ก.ม.นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีของนายทักษิณไม่น่ามีปัญหา เพราะกฎหมายที่ออกมายกโทษให้สามารถกลับไปอยู่บ้านของตัวเองหรือนอกเรือนจำมีมาตั้งนานแล้ว เพราะในเรือนจำอยู่ยาก และมีความแออัด เขาคิดว่าเรื่องใดที่โทษไม่รุนแรง ปฏิบัติตัวดีก็สามารถออกมาพักข้างนอกได้ อันนี้เป็นวิธีคิดของสากล ทั้งนี้สิ่งที่นายทักษิณได้รับประโยชน์ก็ได้จากกฎหมายที่ออกมาในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ไม่มีปัญหาอะไรที่ต้องกังวล และเมื่อเรียกร้องให้นายทักษิณเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว อยู่ตามกระบวนการยุติธรรมtt ttศรัณย์ ทิมสุวรรณสส.กังวลจ่อทวงถามแจกเงินหมื่นนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อาจแจกไม่ทันเดือน พฤษภาคมต้องเลื่อนออกไปก่อนว่า เห็นนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง ให้ข้อมูลประชาชนยังต้องการอยู่ หากได้ช้าลงอาจจะกระทบกับสิ่งที่เขาวางแผนเอาไว้บ้าง ต้องให้นายกฯหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทราบข้อมูลรายละเอียดชี้แจงกับที่ประชุม สส.พรรคก่อนว่าถึงไหนแล้ว ที่บอกอาจช้าเพราะอะไร มีโอกาสจะได้เร็วเหมือนเดิมหรือไม่ ในที่ประชุมพรรคคงจะมี สส.หลายคนสอบถามเรื่องนี้ เพราะเป็นโครงการที่สำคัญทุกคนเห็นว่าจำเป็นคงจะสอบถามว่าจะทำอย่างไร ด้วยวิธีไหน เวลา สส. ลงพื้นที่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ แต่ถูกสอบถามอีกหลายเรื่องไม่ว่ายาเสพติด การท่องเที่ยวหรือนโยบายอื่นสว.ซักฟอกค้านสายตาไร้ประโยชน์นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี สว.จะยื่นอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๕๓ ว่า รัฐบาลเข้าใจการทำหน้าที่ของ สว.ที่กำลังจะหมดวาระ สิ่งใดที่จะทำเพื่อให้ประชาชนระลึกถึงการทำหน้าที่ของ สว.ในวาระท้ายๆคงต้องทำ แต่ขอให้เป็นการอภิปรายเพื่อให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลจริงๆ ประชาชนที่ติดตามรับฟังจะสามารถตัดสินใจได้เองว่าช่วงระยะเวลา ๓ เดือนกว่าที่รัฐบาลเข้ามาทำงาน รัฐบาลได้แก้ปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนได้มาก ทั้งที่งบประมาณปี ๒๕๖๗ ยังไม่ผ่าน แต่รัฐบาลก็สามารถผลักดันสร้างผลงานที่จับต้องได้มากมาย ทั้ง การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้กับประชาชน ถ้า สว.บางท่านจะมาอภิปรายกันแบบระเบิดภูเขาเผากระท่อม เอาเป็นเอาตาย ไม่สนใจข้อเท็จจริง ทำ หน้าที่แบบค้านสายตาประชาชนจะเป็นการอภิปรายที่ประเทศชาติและประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเย้ยฝ่ายค้านมีเสถียรภาพให้ได้ก่อนนายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนพรรคฝ่ายค้านที่เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไม่มีอะไรที่รัฐบาลต้องวิตกกังวล เป็นห่วงแต่ผู้อภิปรายของฝ่ายค้านมากกว่า เสถียรภาพพรรคร่วมฝ่ายค้านที่สารภาพเองว่ามีปัญหากันแก้ไขหรือยัง จะหาประเด็นอะไรใหม่ๆมาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นิด้าโพลสะท้อนกรณีอดีตนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ส่งผลต่อความอยู่รอดของรัฐบาล การที่รัฐบาลทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชน ควบคู่กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ไขวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองคืบหน้าไปมาก เชื่อว่าคะแนนนิยม ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก รัฐบาลเศรษฐามีเวลา ๔ ปีบริหารราชการแผ่นดิน ขอให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เคารพซึ่งกันและกัน เชื่อว่าประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างดี“นพดล” ขอให้ใช้ข้อเท็จจริงไม่ใช่เฟกนิวส์นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงการวิจารณ์ว่าการจะพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เลือกปฏิบัติให้สิทธิพิเศษว่า ขอเรียกร้องให้เอาข้อเท็จจริงและระเบียบมาดู ประกาศเรื่องการพักการลงโทษของกรมราชทัณฑ์ ออกสมัยรัฐบาลก่อนตั้งแต่ปี ๒๕๖๓ หลายปีก่อนพรรค พท.จะมาเป็นรัฐบาล ไม่ได้ออกโดยรัฐบาลนี้ คงไม่ออกเพื่อช่วยนายทักษิณแต่ใช้เป็นการทั่วไป ทุกคนต้องโทษมาแล้ว ๑ ใน ๓ และเข้าเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งคือ เจ็บป่วยร้ายแรง พิการหรืออายุ ๗๐ ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติไม่ได้ มีคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง และฝ่ายการเมืองไปแทรกแซงสั่งไม่ได้ การพักการลงโทษเป็นเรื่องสากล ไม่ใช่นวัตกรรมของไทย ประเทศพัฒนาแล้วมีการพักโทษ (parole) ขอให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย อย่าไปสร้างความสับสนและใส่ร้ายเลยว่าใช้อภิสิทธิ์พักโทษ การวิจารณ์เป็นสิทธิ์แต่ต้องทำบนข้อเท็จจริงหรือ fact ไม่ใช่ fake หรือข้อมูลเท็จ ประชาธิปไตยไม่งอกงามด้วยอคติและความเท็จ บ้านเมืองต้องเดินหน้า เราควรมีความเมตตาปรารถนาดีต่อกันปชป.สับเละ ๔ โครงการรัฐล้มเหลวนายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีต สส.กทม. กล่าวถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญ ๔ โครงการของรัฐบาลว่า โครงการอีซี่ อี-รีซีปต์ (Easy e-Receipt) กระตุ้นไม่เข้าเป้า ผิดเป้าหมาย ทั้งกลุ่มคนที่รับประโยชน์ และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการล้วนเป็นคนที่มีฐานะ มีขั้นตอนยุ่งยาก ต้องมีกระบวนการผ่านบริษัท คนกลาง Service Provider รับรอง ต้องเสียเงิน คนเข้าร่วมโครงการลำบาก สรุปสุดท้ายโครงการนี้คนที่ได้ประโยชน์คือคนรวยและผู้ประกอบการร้านค้ารายใหญ่ แต่รัฐเสียรายได้จัดเก็บไปเกือบหมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับโครงการลดภาษีให้อสังหาริมทรัพย์ ไม่สามารถช่วยคนระดับล่างให้มีที่อยู่อาศัยได้ ไม่กระตุ้นยอดการโอนหรือยอดขายคอนโดฯราคาไม่เกิน ๓ ล้านบาทได้ เพราะผู้ซื้อไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ หรืออาจเข้าถึงแต่กู้ไม่ผ่าน ขณะที่โครงการแลนด์บริดจ์ที่นายกฯไปเกือบทั่วโลก ใช้งบไปหลายร้อยล้านบาท ถามว่ามีประเทศใดบ้างรับคำเป็นเรื่องเป็นราว การเป็นเซลส์แมนต่างประเทศต้องปรับจูนการสื่อสารให้ชัดเจน ไม่ใช่พูดเหมือนเป็นไบโพลาร์ ไปต่างประเทศ พูดอย่าง บอกว่าประเทศพร้อมเศรษฐกิจน่าลงทุน แต่อยู่ไทยกลับบอกว่าประเทศเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สมัยเป็นประธานคณะ กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ สภา เคยศึกษาแล้วโครงการแลนด์บริดจ์เพื่อขนถ่ายสินค้าข้ามฝั่งเกิดขึ้นยากจี้ พท.รับผิด “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไปไม่ได้นายชนินทร์กล่าวอีกว่า ส่วนดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาทชัดเจนว่าเป็นไปไม่ได้ ๓ หน่วยงานหลักรายงานตั้งแต่ต้นปี ๖๖ ก่อนเลือกตั้งว่า ไม่มีตัวชี้วัดบ่งบอกว่าจำเป็นต้องกระตุ้นแบบปูพรมแจกเงินเข้าข่ายลักษณะโปรยทานให้เศรษฐี เศรษฐกิจมีปัญหาเฉพาะจุด อยู่ที่ปากท้องผู้มีรายได้น้อยที่รอใช้เงินอยู่ รัฐบาลเร่งแก้ไขไปแจกเงินหมื่นบาทให้คนมีรายได้ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยความยากจนหรือกลุ่มเปราะบาง ไม่เกิน ๒๐ ล้านคน ใช้งบไม่ถึง ๒ แสนล้านบาท ไม่จำเป็นต้องออกร่าง พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้านบาท ไม่ผิดวินัยการคลัง ใช้งบประจำหรืองบเพิ่มเติมได้ แต่ควรปรับเงื่อนไขการให้เงินไม่ซับซ้อนยุ่งยาก ไม่ให้ผลประโยชน์ไปตกอยู่กับผู้ประกอบการรายใหญ่ ไปถึงรากหญ้าแท้จริง พรรค พท.ตั้งใจหาเสียงแบบประชานิยมตั้งแต่แรก เพ้อฝันให้ประชาชนหลงเคลิ้ม ทางที่ดีที่สุดเพื่อไทยต้องรับสารภาพผิด ที่หาเสียงเพ้อเจ้อในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อย่าอ้างต้นเหตุมาจากกฎหมายหรือมีคนคัดค้าน เพราะพูดไม่คิด คิดไม่รอบคอบ คิดใหญ่ทำเป็น เป็นวาทกรรมหลอกลวงของการเมืองที่ต้องการหาเสียงแบบเก่า ขอให้หยุดยื้อความสุขคนจน เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตถือว่าจบแล้ว มีหลายด้านที่รออยู่ แม้รัฐบาลจะผลักดันให้ผ่านสภาได้ แต่สุดท้ายจะไปเจอกับด่านวุฒิสภา (สว.) รวมถึงยังจะโดนยื่นตีความทางกฎหมายอีกด้วยtt ttจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์“จิรัฏฐ์” เหน็บ ทบ.ละเลงงบฯ ซดไวน์หรูนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงการใช้งบฯกองทัพ ว่า ในการ จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันกองทัพบก ประจำปี ๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๑๙ ม.ค. ที่หอประชุมกองทัพบก ถนนพระรามเก้า มีองคมนตรี เข้าร่วม อาทิ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี นายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม และนายเศรษฐา ทวีสิน นายก และ รัฐมนตรีว่าการคลัง มาร่วมงาน เห็นความ หรูหราของการจัดงานนี้แล้ว อยากให้ประชาชนได้เทียบอาหารและที่อยู่หลับนอนของทหารชายแดน ในคลิป “ทหารมีไว้ทำไม” ที่พลอยไพลิน ไปถ่ายทำ เทียบกับอาหารและไวน์บนโต๊ะ ในงานของนายพลแต่งตัวเต็มยศ กินไวน์หรูดูแพง ประชาชนเห็นแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง ย้ำว่าเหล่านายพลควรไปดูคลิปทหาร มีไว้ทำไม จะได้หันกลับไปดูแลชีวิตความเป็นอยู่ ทหารที่ชายแดนบ้าง ไม่ใช่เอาเงินงบฯแผ่นดินไป จัดงานโชว์การแต่งตัวเต็มยศไปจิบไวน์ จัดงานอลังการกันทุกปี ค่าไวน์วันนั้นเชื่อว่าเอาไปตัดถนนขึ้นดอย ไปยังที่จุดเฝ้าสังเกตการณ์ให้พี่ๆทหารชายแดนได้ ๑ เส้น ส่วนค่าจัดงานรวมๆวันนั้นตัดถนน ได้หลายเส้นบนดอย แถมทำบ้านพักทหารชายแดน หลังใหญ่ๆได้ที่จุดเฝ้าสังเกตการณ์ได้อีกต่างหากเหน็บ “สุทิน” แค่โทรโข่งกลาโหมนายจิรัฏฐ์กล่าวอีกว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าทำไมนายสุทิน จึงไม่มี รมช. มาช่วยงานในกระทรวงเหมือน กับรัฐบาลหลายชุดก่อนหน้า ทั้งที่เห็นกันชัด สถานการณ์ ตอนนี้นายสุทินคนเดียวเอาไม่อยู่หรอก กองทัพดื้อ ขนาดนี้จนนายสุทินยังถูกมองว่าเป็นแค่โฆษกกองทัพด้วยซ้ำ ทำไมนายสุทิน หรือนายเศรษฐาไม่ตั้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกลาโหม สงสัยจังว่าอำนาจการตั้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกลาโหมเป็นของใคร กองทัพ หรือรัฐบาล ถ้าเทียบ ด้วยตัวงบประมาณ กระทรวงที่มีงบฯหลักหมื่นล้านบาท บางกระทรวงมี รัฐมนตรีช่วยว่าการตั้ง ๒ คน ส่วนกระทรวงกลาโหมมีงบกว่า ๒ แสนล้านบาท ภาระการบริหารงบมากมายขนาดไหน แต่กลับมีรัฐมนตรีแค่คนเดียว หรือว่าขอไปแล้วแต่เขาไม่ให้“จิรายุ” ขอบคุณช่วยโปรโมตสนามงูนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรค ก.ก. ในฐานะโฆษกคณะกรรมา ธิการการทหาร สอบถามกระทรวงกลาโหม จะขอเข้า ถ่ายทำบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและสนามกอล์ฟกานตรันต์ (สนามงู) ที่สนามบินดอนเมือง รวมทั้งเรื่องที่พักอาศัยของข้าราชการได้หรือไม่ว่า สนามกอล์ฟกานตรัตน์(สนามงู) กลางสนามบินดอนเมือง ไม่ใช่สนามของนายพลกองทัพหรือชนชั้นนำ คนทั่วไปวอล์กอินไปตีได้ ไม่ต้องเป็น เมมเบอร์ ราคาถูกมากประมาณ ๑,๐๐๐ บาท รวมกรีนฟี-แคดดี้-รถกอล์ฟ ถ้าสนใจออกรอบจะไปร่วมก๊วนด้วย หรือถ้าอยากถ่ายทำจะนำพาไปชม ต้อง ขอบคุณที่พูดถึงสนามกอล์ฟนี้เป็น “อันซีนไทยแลนด์” ที่นักท่องเที่ยวและนักกอล์ฟทั่วโลกพูดถึงมาโดยตลอด เพราะได้ถูกจัดอันดับสนาม ๑ ใน ๖ ที่แปลกที่สุดของโลก เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๙ ส่วนจะขอเข้าไปถ่ายบ้านองคมนตรีเกรงว่าจะไม่งาม ขณะที่บ้านพักของข้าราชการ ทหารเป็นตึกสูง ไม่ได้เรียกว่า “คอนโด” มันคือ “แฟลต” ขนาดห้องเป็นไปตามขนาดลำดับชั้นหรือตำแหน่งโฆษก รทสช.ติงต้องรู้อะไรไม่ควรนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าว ตอบโต้นายจิรัฏฐ์ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ กมธ.จะเข้าไปตรวจสอบหน่วยงานต่างๆของรัฐ ตนในฐานะ สส. สนับสนุนที่ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงกลาโหม แต่การจะ ไปตรวจสอบอะไรต้องหารือกันใน กมธ.ให้มีมติก่อน ไม่ใช่อยากตรวจสอบอะไรก็ออกมาให้ข่าว ไม่ทราบว่า กมธ.มีมติหรือยัง นายจิรัฏฐ์ใช้อำนาจใดไปตรวจสอบ ต้องเข้าใจอำนาจหน้าที่ กฎหมายและบทบาทก่อน เพื่อให้น่าเชื่อถือ นายจิรัฏฐ์ไม่ใช่ประธาน กมธ. เป็นเพียงโฆษกไม่ใช่ออกมาแถลงในสิ่งที่อยากจะพูด อยากทำ จะขอเข้าไปถ่ายทำบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ไม่ควรไปก้าวล่วง นายจิรัฏฐ์ เป็นถึง สส.ต้องรู้ว่าอะไรควรไม่ควร แนะนำเอาเวลาไปทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนจะดีกว่าสว.เฉ่งพวกจิตอคติขวางปรองดองนายวันชัย สอนศิริ สว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า พระท่านว่าเมื่อเราละ โลภ โกรธ หลงได้ ดวงตาจะ เห็นธรรม เป็นหนทางสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ตราบใดที่จิตใจยังฝังด้วยความโกรธ ความเกลียดจะมองฝั่งตรงข้ามผิดไปทั้งหมด ทางพระเรียกว่าอคติ แม้จะทำตัวเจ้าหลักการ เรียกร้องหาความเป็นธรรม แต่แท้ที่จริงจิตใจฝังด้วยอคติ บ้านเมืองจึงไม่ก้าวข้าม ความขัดแย้งเพราะอคติ แม้แต่เรื่องคุณทักษิณ ชั้น ๑๔ มาจากอคติคือ ความโกรธ ความเกลียด ความชิงชังฝังอยู่ในกระดูก ไม่ปล่อยวาง ทำตัวเป็นเจ้าหลักการยุติธรรม คนประเภทนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความถูกต้องหรือมีหลักการ ใครเป็นพวกตัวเอง แม้ทำไม่ถูก จะเผด็จการ ไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมเห็นว่าถูก ไม่มีหลักการ แต่มาจากจิตใจโกรธเกลียดอาฆาตมาดร้าย ไม่เผาผี อาฆาต ๗ ชั่วโคตร เป็นอุปสรรค ต่อการปรองดองสมานฉันท์ที่เป็นเรื่องสำคัญสุดของประเทศ ทั่วโลกเรียกร้องเรื่องนี้ ประเทศเราเดินมาถึง วันที่มีประชาธิปไตยจะเต็มใบ ความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์กำลังจะเกิดขึ้น ควรปล่อยวาง ทำจิตใจ ให้สงบ ลด ละ เลิกกันเสียบ้างtt ttทักษิณ ชินวัตรนิด้าโพลชี้ปม “ทักษิณ” ไม่กระทบ รบ.วันเดียวกัน นิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “กรณีทักษิณ ชินวัตร กับความอยู่รอด ของรัฐบาล” ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ ม.ค. จากประชาชนที่มีอายุ ๑๘ ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวม ๑,๓๑๐ หน่วยตัวอย่าง เมื่อถามถึงความอยู่รอดของรัฐบาล จากกรณี ทักษิณ ชินวัตร ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ พบว่า ร้อยละ ๓๙.๖๒ ระบุไม่ส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของรัฐบาลเลย ร้อยละ ๒๑.๙๘ ค่อนข้างส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของรัฐบาล ร้อยละ ๑๘.๗๐ ไม่ค่อยส่งผลกระทบ ร้อยละ ๑๕.๔๒ ระบุส่งผลกระทบอย่างมาก และร้อยละ ๔.๒๘ ระบุเฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ เมื่อถามความคิดเห็นต่อการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ส่งตัวทักษิณ ชินวัตร กลับเข้าเรือนจำ จะลุกลามจนนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่ เหมือนการชุมนุมของเสื้อเหลือง เสื้อแดง และ กปปส.ในอดีต ร้อยละ ๔๑.๖๐ ระบุว่า จะไม่นำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่แน่นอน ร้อยละ ๔๑.๓๐ ระบุจะนำ ไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่ แต่ไม่ใหญ่โตเหมือนในอดีต ร้อยละ ๑๑.๑๕ ระบุว่า จะนำไปสู่วิกฤตการณ์ ทางการเมืองรอบใหม่เหมือนในอดีต แน่นอน และร้อยละ ๕.๙๕ ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจกรอ.๖ จว.ใต้ชง ๒ โครงการเข้า คณะรัฐมนตรีผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการ ประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจร จ.ระนองวันที่ ๒๒ ม.ค. ก่อนการ ประชุมนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไข ปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.)กลุ่มจังหวัดภาคใต้พิจารณาข้อเสนอโครงการพัฒนาพื้นที่ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ฝั่งอันดามัน ๖ จังหวัด คือกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล หลายโครงการมูลค่ากว่า ๗๕๐ ล้านบาท จังหวัดเสนอ ๓๕๐ ล้านบาท และภาคเอกชนเสนอ ๔๐๐ ล้านบาท โดยนายก้องศักดิ์ คู่พงศกร ประธานกรรมการหอการค้าภูเก็ต เปิดเผยว่า กลุ่ม จังหวัดอันดามันเตรียมเสนอ ๒ โครงการ วงเงินไม่เกิน ๕๐ ล้านบาท ให้ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคใต้และ ครม. สัญจรพิจารณา ประกอบด้วย ๑.โครงการท่าเรือมารีน่า ชุมชน ๑ จังหวัด ๑ ท่าเรือ รวม ๖ ท่า ใน ๖ จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน คือ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล จะเสนอก่อสร้างท่าเรือนพรัตน์ จ.กระบี่ วงเงิน ๑๖.๘ ล้านบาท ๒.โครงการของดีจังหวัดอันดามัน ๓ จังหวัด คือ ภูเก็ต ระนอง กระบี่ ยกระดับสินค้าชุมชนให้เป็นสินค้าพรีเมียม วงเงิน ๓๓ ล้านบาทระนองขออัปเกรดท่าเรือไปเกาะสองนายก้องศักดิ์กล่าวอีกว่า จ.ระนอง เตรียมนำเสนอโครงการของจังหวัด วงเงินไม่เกิน ๕๐ ล้านบาท ได้แก่ ๑.โครงการปรับปรุงถนนและระบบสาธารณูปโภคพร้อมปรับภูมิทัศน์ถนน “จัดสรรพัฒนา” ตั้งแต่ปากซอย ๑๕ ไปจนถึงสี่แยกประปา จาก ๒ เลน เป็น ๔ เลน ระยะทาง ๗๕๐ เมตร ๒.โครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง-เกาะสอง เนื่องจากเป็นท่าเรือข้ามฟากระหว่าง จ.ระนองกับเกาะสอง ประเทศเมียนมา และเป็นท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้า จ.ระนองยังมีโครงการที่จะเสนอ คณะรัฐมนตรีสัญจรเร่งรัดอีก ๓ โครงการคือ ๑.โครงการถนนเพชรเกษม จากระนองไปพังงา บางช่วงยังเป็น ๒ เลน ปรับให้เป็น ๔ เลนตลอดสาย ๒.โครงการถนนสายราชกรูด-ชุมพร (หลังสวน) ถนนสำคัญต่อ จ.ระนอง ปัจจุบันมีรถใช้สัญจรมาก แต่ยังเป็นถนน ๒ เลนวิ่งสวนทางกัน อยากเร่งรัดเพื่อรองรับการเดินทางระหว่าง จ.ชุมพรกับ จ.ระนอง ๓.โครงการก่อสร้างฝายน้ำล้นคลองบางริ้น วงเงิน ๙๐ ล้านบาททดแทนฝายเดิมที่ชำรุดเสียหายเมื่อปี ๖๕ เป็นแหล่งกักเก็บน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาของ จ.ระนองด้วยนายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ รองประธานหอการค้าไทยและประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ พื้นที่ภาคใต้กล่าวว่า จ.กระบี่ จะเสนอของบฯ ๓๘ ล้านบาท สร้างอาคารใหม่สำหรับเพิ่มห้องผ่าตัด จะมีห้องผ่าตัดหัวใจ ทำบอลลูน ทำบายพาสหัวใจและฉีดสีด้วย“ธนกร” เชื่อมือ รบ.กระตุ้น ศก.ภาคใต้นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจร จ.ระนองว่า จะเป็นโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้อย่างมาก ส่วนที่มีการจับตาจะมีกลุ่มคัดค้านการสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ช่วงที่นายกฯลงพื้นที่ คณะรัฐมนตรีสัญจร มั่นใจว่านายกฯ รวมถึงกระทรวงที่เกี่ยวข้อง พร้อมรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายทั้งนักวิชาการ ส่วนท้องถิ่น ประชาชนและผู้ประกอบการ ถึงผลกระทบในด้านต่างๆ รวมถึงสิ่งแวดล้อม เชื่อรัฐบาลมองในหลายมิติ ไม่ใช่แค่เพียงการเป็นท่าเรือน้ำลึกระหว่างฝั่งอ่าวไทยกับฝั่งอันดามัน ยังมองเรื่องความมั่นคงทางเศรษฐกิจระยะยาว การเป็นฮับโลจิสติกส์ขนส่งสินค้า เชื่อมโลกเข้าด้วยกัน มั่นใจว่าแลนด์บริดจ์จะเปลี่ยนพื้นที่ภาคใต้ของไทย ให้เป็นประตูการค้าสู่นานาชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้มหาศาลอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
พร้อมคุยชาวบ้าน ค้านแลนด์บริดจ์ นายกฯยันเกิดประโยชน์ “ภูมิธรรม” ซัดปปช.เกินหน้าที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง