วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

“พิมพ์ภัทรา” ยัน ภายใต้รัฐบาลเศรษฐา ทุกกระทรวงทำงานเพื่อประชาชนทุกวัน

รัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม แจงสภา แม้ได้งบประมาณน้อยแต่พร้อมทำงานเต็มที่ เรื่องแก้กากอุตสาหกรรมมีการจัดกองทุนไว้เยียวยาแล้ว ยันดูแลทั้งระบบเรื่องแบตเตอรี่ รถ EV ชี้รัฐบาลเศรษฐา ทุกๆ กระทรวงทำงานเพื่อประชาชนวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๗ เมื่อเวลา ๑๙.๑๘ น. ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ วาระแรก วงเงิน ๓,๔๘๐,๐๐๐ ล้านบาทนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวชี้แจงสภาผู้แทนราษฎร ว่า  แม้เราจะเป็นกระทรวงใหญ่ แต่ได้งบประมาณ ๔,๕๕๙ ล้านบาทเท่านั้น และต้องดูแลถึง ๖ กรม แม้มีจำกัดก็จะดำเนินงานอย่างเต็มที่ โดยในเรื่องจัดการกากอุตสาหกรรม ทางกรมโรงงานมีหน้าที่ออกใบอนุญาต เพียงแต่ทางกระทรวงทำได้บางส่วน สิ่งที่ทำแล้ว คือ เพิ่มความรับผิดชอบ ในเรื่องสิ่งปฏิกูลที่ไม่ใช้แล้ว พร้อมทั้งกำหนดเพิ่มบทลงโทษเป็น ๕ ปี จาก แค่ ๑ ปี หากพบว่าบริษัทใดทำผิดกฎหมาย นอกจากนี้ในการจัดการกากอุตสาหกรรม เนื่องจากกระทรวงมีงบประมาณน้อย จึงให้โรงงานมีส่วนรับผิดชอบด้วย ด้วยการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูผลกระทบจากการประกอบกิจกรรมอุตสาหกรรม หากมีการร้องเรียนเข้ามาในพื้นที่ใด สามารถนำไปเยียวยาได้เลย ไม่ต้องไปของบกลางส่วนเรื่องข้อห่วงใยแบตเตอรี่จากรถยนต์ EV นั้น ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงได้ทำสำเร็จแล้วในเรื่องส่งเสริมการใช้ ตอนนี้กำลังส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานการผลิตเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งที่จะดูแลต่อคือในเรื่องแบตเตอรี่ที่ติดมากับรถ รวมถึงรถไฟฟ้า จึงขอให้คลายความกังวลเพราะสุดท้ายกระทรวงดูแลทั้งระบบ เนื่องจากคนที่ได้รับผลกระทบคือคนไทยทั้งประเทศขณะที่เรื่องระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ที่อยากให้เชื่อมโยงถึงแลนด์บริดจ์ด้วยนั้น มีการทำมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว ในเรื่องระเบียงเศรษฐกิจทั้ง ๔ ภาค ที่จะมีการดูแลเกษตรกรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ทั้งเรื่องยางพารา ปาล์ม และจะดูแลเรื่องอุตสาหกรรมฮาลาล ที่ไม่ใช่แค่อาหาร รวมไปถึงท่องเที่ยวด้วย “จึงขอบคุณเสียงสะท้อนจากทุกท่าน ตนเองก็มีความห่วงใยเพราะมาจาก สส.เขต และขอให้ทุกท่านมั่นใจการทำงานของรัฐบาลภายในการนำของรัฐบาลเศรษฐา ทุกๆ วัน ที่ทุกๆ กระทรวงทำงาน ก็เพื่อประชาชน” รัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม กล่าว