โดนหนักทั้งแก๊ง เด็กแว้นพระสมุทรเจดีย์ ตำรวจส่งฟ้องแล้ว ๒๒ ราย ศาลสั่งปรับหนักคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท จำคุก ๓ เดือน พร้อมริบรถทุกคันเมื่อวันที่ ๑๔ ก.พ. ๖๗ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของ ตร. เปิดเผยกรณีปิดล้อมเด็กแว้นแข่งรถบนถนนสุขสวัสดิ์ พื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จับกุมผู้ต้องหาได้ ๓๒ ราย ยึดรถ ๔๙ คัน ส่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว ๒๒ ราย ศาลพิพากษาปรับหนักคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท จำคุก ๓ เดือน พร้อมริบรถจักรยานยนต์ของกลางทุกคน ทั้งหมด ๒๒ คัน ส่วนผู้ต้องหาเด็กเยาวชนอีก ๑๐ ราย อยู่ระหว่างทำสำนวนการสอบสวน และจะดำเนินการต่อเนื่องตาม พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวฯ และเตรียมพิจารณาโทษเอาผิดสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้เด็กออกมารวมกลุ่มกันก่อเหตุดังกล่าวนี้ พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า เมื่อเวลา ๐๓.๓๐ น. ของวันที่ ๑๒ ก.พ. สภ.พระสมุทรเจดีย์ นำโดย พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้สั่งการให้พ.ต.อ.ทศพล ทองใบ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า ๑๐๐ นาย วางแผนเข้าปิดล้อมจับกุมกลุ่มเด็กแว้นที่มารวมตัวกันบริเวณ ถ.สุขสวัสดิ์ ฝั่งขาเข้า สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด ๓๒ ราย ยึดรถจักรยานยนต์ จำนวน ๔๙ คัน นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ได้แจ้งข้อหา “ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ” ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๓ ก.พ. ๒๕๖๗ ส่งฟ้องศาลแขวงสมุทรปราการ ศาลได้พิพากษา ปรับคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท ทำทัณฑ์บนไว้ ๑ ปี จำคุก ๓ เดือน โทษจำคุกรอลงอาญา ๒ ปี ริบรถของกลาง ๒๒ คัน ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอีก ๑๐ ราย อยู่ระหว่างทำสำนวนการสอบสวน และจะดำเนินการต่อเนื่องตาม พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวฯ และพิจารณาดำเนินคดีเอาผิดกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้ออกมารวมตัวก่อเหตุดังกล่าวนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการแก้ปัญหาของเด็กแว้น โดยนำข้อมูลเบาะแสการร้องเรียนผ่านสายด่วน ๑๕๙๙ และ ๑๙๑ จากคณะทำงานฯ ของ ตร. ที่ประสานส่งข้อมูลไปให้ แล้วนำมาวิเคราะห์ดำเนินการวางแผนระดมกวาดล้างจับกุมในครั้งนี้ ซึ่งตนได้กำชับทุกพื้นที่ให้ประสานและนำข้อมูลต่างๆ ของคณะทำงานฯ ของ ตร. นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับการแก้ปัญหาเด็กแว้นในพื้นที่ของตนเอง ทั้งนี้ การแข่งรถในทาง การขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง และเป็นความผิดทางอาญา ศาลพิพากษาลงโทษหนัก ริบรถของกลาง จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน ให้ช่วยกันห้ามปราม อย่าปล่อยปละละเลยบุตรหลานของท่าน และอย่าเลียนแบบหรือกระทำตามในลักษณะนี้เด็ดขาด ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้คณะทำงานฯ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวน บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็ดี ทั้งการรวมตัวบนท้องถนนก็ดี โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุร้ายที่สายด่วน ๑๙๑ หรือ ๑๕๙๙ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
