วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

มาตรการไหนไม่ได้ผลต้องปรับปรุง "พัชรวาท" ฮึ่มแก้ปัญหา PM ๒.๕

“พัชรวาท” ฮึ่มแก้ฝุ่นพิษ ลั่นมาตรการไหนไม่ได้ผลต้องทบทวน มั่นใจ พระราชบัญญัติอากาศสะอาด เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาฝุ่นพิษเมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม๖๗ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้รับรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM ๒.๕ ซึ่งอยู่ในช่วงที่น่าห่วงใย เนื่องจากมีระดับค่าฝุ่นปานกลาง จนถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน แม้ว่าได้เตรียมการและบูรณาการกับหลายภาคส่วนแล้วก็ตาม โดยในส่วนของ ทส.ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปกำกับดูแล ตามภารกิจล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว ทำให้หลายพื้นที่สถานการณ์เบาบางลง ขณะเดียวกันยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ต้องช่วยกันควบคุมแก้ไข โดยเฉพาะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวอ้อย และเตรียมพื้นที่ท้องนาเพื่อเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ จึงทำให้มีการเผาในปริมาณสูงขึ้น แม้จะให้มีการจับตาอย่างใกล้ชิด ก็ยังพบว่ามีการลักลอบเผา ส่วน กทม.และปริมณฑล ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากมลพิษจากท่อไอเสียและโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งการตรวจตรารถควันดำให้มีมาตรการเข้มข้น ตรวจ จับ ปรับ ตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้เกิดความตื่นตัว ร่วมมือกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหา”จากนี้ไปมาตรการต่างๆ จะมีความเข้มข้นมากขึ้น อะไรที่ทำไปแล้วไม่ได้ผลก็จะต้องมีการทบทวน ปรับปรุง เราพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจ และขณะนี้เครื่องมือสำคัญในการจัดการกับฝุ่น PM ๒.๕ คือ ร่าง พระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด กำลังเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ จะใช้เวลาแปรญัตติ ๑๕ วัน ถือว่ารัฐบาลได้ผลักดันร่างกฎหมายอย่างเร่งด่วน” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวทั้งนี้ เชื่อว่าหากร่างกฎหมายผ่านขั้นตอนของสภา และมีการประกาศใช้จริง จะสามารถบริหารจัดการปัญหามลพิษทางอากาศได้อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งในประเทศและมลพิษข้ามพรมแดน