วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

รทสช.จัดกิจกรรมอาสามาด้วยใจ "พีระพันธุ์" ขอทำงานเพื่อสถาบันหลักของชาติ

“รวมไทยสร้างชาติ” ไม่มีแผ่ว จัดกิจกรรมอาสามาด้วยใจ โดยเชิญอาสาสมัครใจเดียวกันจำนวนมาก มาร่วมทำงานเดินหน้าตามอุดมการณ์พรรค “พีระพันธุ์” ลั่น ขอทำงานเพื่อสถาบันหลักของชาติ ค้ำจุนให้คงอยู่ต่อไป เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้จัดกิจกรรมอาสามาด้วยใจ ครั้งที่ ๑ หรือจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้อาสาสมัครในโครงการนี้ ได้ทำกิจกรรมร่วมกับแกนนำของพรรค ซึ่งนำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรค ได้มาร่วมกิจกรรมกับสมาชิกพรรคที่มาร่วมงานจำนวนมาก อย่างไรก็ตามกิจกรรมดังกล่าวนี้ จะมีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกหลายครั้ง โดย นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า การมาตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อลงเลือกตั้ง และถูกวิจารณ์มากว่าไม่เคยอยู่ในสายตา บางสำนักบอกว่า เลือกตั้งจะได้ สส.ไม่เกิน ๗ คน แต่ผลการเลือกตั้งออกมาได้ สส.ถึง ๓๖ คน ถือว่าเกินความคาดหมาย ด้วยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะนั้น โดยได้ทำพรรคตามแนวทางที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ใช้พละกำลังทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ นี่คือ DNA ของพรรค ตามสโลแกนของพรรคที่ว่าเราจะแก้ไขให้ทุกปัญหา เราจะเป็นที่พึ่งพาได้ทุกเรื่อง ประชาชนที่เดือดร้อนถ้าเราแก้ปัญหาให้เขาได้ ประชาชนก็มีความสุขทั้งนี้ การทำโครงการอาสาสมัครด้วยใจ เพื่อต้องการแขนขาของพรรคมาช่วยเหลือประชาชนเป็นหูเป็นตา อะไรที่ช่วยเหลือกันได้ก็มาช่วยกัน วันนี้เรามีอาสาสมัครที่มาทำงานด้วยใจกว่า ๔๐๐ คนแล้วจากทั่วประเทศ จากเดิมที่คิดว่า ๑๐๐ คนก็ดีใจแล้ว โดยการทำงานจะแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ขอขอบคุณที่มาช่วยกัน หวังว่าจะมาช่วยกันสร้างชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า อุดมการณ์ที่สำคัญที่สุดคือ ทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ค้ำจุนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้คงอยู่ต่อไปนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า การทำงานการเมืองไม่มีอะไรตอบแทน มีแต่ความเสียสละทำงานด้วยใจ พร้อมช่วยชาวบ้าน ความสุขอยู่ตรงนั้น นั่นคือคำตอบของอาสาสมัคร มีความเสียสละ ถ้ามีปัญหาเดือดร้อนขอให้แจ้งมาที่พรรค พรรคพยายามช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้มากที่สุด โดยสามารถแจ้งได้ที่สถานียุติธรรมของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งทำมาตั้งแต่ตนเป็นรมว.ยุติธรรม และได้เอามาสานต่อที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ด้านนายเอกนัฏ กล่าวด้วยว่า ตนมีความภาคภูมิใจมาก ที่ได้มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ แม้เส้นทางไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ เป็นเส้นทางที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรค แต่ตนศรัทธาในจุดยืนของพรรค และจุดยืนของนายพีระพันธุ์ว่า จะเป็นผู้นำพรรคให้สามารถทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและประเทศชาติได้ ในที่สุดเราผ่านการเลือกตั้งมา และโชคดีที่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีผู้ใหญ่ที่เป็นที่รักเคารพของคนไทยทั้งประเทศมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ถือธงนำทัพพรรครวมไทยสร้างชาติครั้งแรก ถือเป็นประวัติศาสตร์ของพรรคหลังเลือกตั้งได้ สส. ๓๖ คน ได้คะแนนกว่า ๔,๘๐๐,๐๐๐ คะแนน ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดาอย่างไรก็ตาม ครั้งนี้จึงเป็นงานสำคัญที่ นายพีระพันธุ์ และตนต้องระดมพลทั่วประเทศ จึงเป็นที่มาที่เราได้มาเจอกันในวันนี้ เพราะปรากฏการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เราไม่อยากปล่อยให้หายไป เราอยากรักษาพลังส่งต่อภารกิจไปยังรุ่นต่อๆ ไปสำหรับจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อบ้านเมืองประสบปัญหาเราแสดงจุดยืนชัดเจน จึงเห็นภาพเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (๑๔ ก.พ.) ตนได้ขออนุญาตหัวหน้าพรรค คุยกับ สส.ของพรรค และวิปรัฐบาลว่า ตนจะเสนอญัตติ เรื่อง การถวายความปลอดภัย ขบวนเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ นี่คือจุดยืนสำคัญของพรรคในการรักษาสถาบันเสาหลักของประเทศ ถือเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวด้านความรักความสามัคคีของประเทศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า นายเอกนัฏ กล่าวว่า หลังจากวันนี้ไป จะมีการจัดเวทีลักษณะนี้อีกหลายครั้ง ขอขอบคุณด้วยใจจริงที่ทุกคนได้เอื้อมมือมาที่พรรค หวังว่าหลังจากนี้ไปพวกท่านจะไปเชิญชวนเพื่อนร่วมอุดมการณ์มาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไปอย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของกิจกรรมได้มีการเปิดโอกาสให้อาสาสมัครได้ซักถามปัญหา โดยมี นายพีระพันธุ์ เป็นผู้ตอบปัญหา เพื่อไขความกระจ่างด้วยตนเอง พร้อมทั้งถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก