นักท่องเที่ยวหนุ่มชาวรัสเซีย ลอบขึ้นไปบนศาลากลางจังหวัดภูเก็ต รปภ.ไปเจอ หนีซ่อนตัว ก่อนใช้ขวานทุบกระจกห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัด กระจกแตกบาดเท้าเลือดท่วม ยังไปขโมยจยย.ชาวบ้านหนี คาดหลอน มีอาการทางจิตเวลา ๐๗.๒๗ น. วันที่ ๑๗ ม.ค. ๖๗ เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ ๑๙๑ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปทุบกระจกประตู บริเวณหน้าห้องผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางหลังใหม่ ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.วิชิต นกแก้ว รองสว.(สอบสวน) ไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภายในศาลากลางหลังใหม่ ชั้น ๔ บริเวณประตูกระจกด้านขวาทางเข้าห้องผู้ว่าฯ มีร่องรอยถูกทุบกระจกแตกละเอียด และที่พื้นหน้าห้องมีหยดเลือดเป็นทางยาว นอกจากนั้นที่ใต้โต๊ะทำงานของเลขานุการผู้ว่าฯ มีขวานเหล็กที่ใช้ทุบกระจกในการดับเพลิงตกอยู่ และมีหยดเลือดติดอยู่ที่พื้น เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนทราบว่า เวลาประมาณ ๐๒.๔๕ น. อาสาสมัครเวรประจำศาลากลางได้ยินเสียงโทรศัพท์หน้าลิฟต์ชั้น ๑ ดังขึ้น จึงได้เดินไปดูและปิดเสียง จากนั้นเห็นชายชาวต่างชาติ ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีดำแอบอยู่ที่ชั้น ๑ ใกล้ลิฟต์ ทางอส.จึงได้เข้าจับตัวแต่ชายดังกล่าวได้สะบัดแขน แล้วหนีขึ้นไปตามชั้นต่างๆ ของศาลากลาง อาสาสมัครจึงโทร. ๑๙๑ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและค้นหาชาวต่างชาติแต่ไม่พบตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ ๐๔.๓๐ น. อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยินเสียงกระจกดังขึ้นในศาลากลาง แต่เจ้าหน้าที่ยังหาไม่พบว่าอยู่ชั้นไหน จนกระทั่ง ๐๖.๓๐ น. แม่บ้านของศาลากลางขึ้นมาที่ห้องผู้ว่าราชการจังหวัด พบมีกระจกแตกจึงแจ้งให้มาตรวจสอบtt ttต่อมา ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีชายชาวต่างชาติไปก่อเหตุจะขโมยรถชาวบ้านที่จอดหน้าร้านสะดวกซื้อใกล้กับศาลากลางจึงไปตรวจสอบ พบชายชาวต่างชาติไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว บริเวณเท้ามีเลือดไหลจากการถูกกระจกบาดเท้า เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวและนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เบื้องต้น ทราบว่าเป็นชาวรัสเซีย อายุประมาณ ๒๔ ปี สอบถามยังให้การวกวน พูดไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าชาวรัสเซียคนนี้จะมีอาการทางจิตเวช แพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้ฉีดยาและให้นอนพักรักษาตัวก่อน หลังจากนั้นตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
