กลายเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย. ปีนี้ จะเป็นการแข่งขันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ วัย ๗๗ ปี อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับนายโจ ไบเดน วัย ๘๑ ปี ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเมื่อวันที่ ๗ มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางนิกกี เฮลีย์ วัย ๕๒ ปี ผู้สมัครชิงตัวแทนพรรครีพับลิกัน คู่แข่งที่เหลือเพียงคนเดียวของทรัมป์ ประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขัน ชิงตัวแทนพรรค หลังทราบผลการเลือกตั้งขั้นต้นพร้อมกัน ๑๕ รัฐ และอีก ๑ เขตปกครองตนเองอเมริกันซามัวเมื่อวันที่ ๕ มี.ค. ที่เรียกขานกันว่า “ซุปเปอร์ ทิวส์เดย์” เปรียบเป็นการชี้ชะตาว่าใครจะเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันและเดโมแครตเพื่อชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯนางเฮลีย์กล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้สนับสนุนในเมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา โดยระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องยุติการลงแข่งชิงตัวแทนพรรคและตัวเองไม่รู้สึกเสียใจ พร้อมเผยว่า ตอนนี้ขึ้นอยู่กับทรัมป์แล้วว่าจะสามารถเรียกคะแนนเสียงจากตัวแทนผู้ลงคะแนนเสียงที่ไม่ได้สนับสนุนทรัมป์ได้หรือไม่ หวังว่าทรัมป์จะสามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม การประกาศถอนตัวดังกล่าวส่งผลให้ทรัมป์ไร้คู่แข่งในการชิงตัวแทนพรรคเพื่อลงแข่งลงเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ส่วนไบเดนแม้จะยังมีคู่แข่งร่วมชิงตัวแทนพรรค แต่คะแนนของผู้ท้าชิงก็ไม่มีโอกาสแซงไบเดนได้การถอนตัวของนางเฮลีย์ยังเป็นเหตุให้ทั้งนายทรัมป์และนายไบเดนออกมาแถลงเรียกคะแนน เสียงจากผู้สนับสนุนของเฮลีย์ โดยทรัมป์แสดงความคิดเห็นบนสื่อสังคมออนไลน์ทรูธ โซเชียลว่า เฮลีย์ พ่ายแพ้ไปแล้วเมื่อคืน ยังขอบคุณครอบครัว เพื่อน และพรรครีพับลิกันที่ให้การสนับสนุนจนทำให้ได้รับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ในวันซุปเปอร์ ทิวส์เดย์ ขอเชิญชวนให้ผู้สนับสนุนของเฮลีย์หันมาสนับสนุนตัวเอง ขณะที่นายไบเดนกล่าวชื่นชมเฮลีย์ที่มีความกล้าที่จะพูดความจริงเกี่ยวกับทรัมป์ ส่วนทรัมป์ก็ได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่ต้องการผู้สนับสนุนของเฮลีย์ แต่ที่ตรงนี้ยังมีที่ว่างพร้อมต้อนรับกลุ่มผู้สนับสนุนเฮลีย์วันเดียวกัน นายทรัมป์ยังท้าโต้วาทีประลองฝีมือ กับไบเดน ซึ่งมักจัดขึ้นหลังการประชุมเลือกตัวแทนของแต่ละพรรคที่จัดขึ้นในช่วงเดือน ก.ค. และเดือน ส.ค. โดยกล่าวว่า มีความพร้อมไม่ว่าจะจัดในเวลาใด หรือที่แห่งหนใดก็ตาม เนื่องจากเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นผลดีต่อประเทศชาติที่จะได้เห็นไบเดนและผมโต้วาทีในประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสหรัฐฯ และชาวอเมริกัน ด้านนายไมเคิล ไทเลอร์ โฆษกประจำการเลือกตั้งของไบเดน ตอบกลับประเด็นดังกล่าวว่าจะมีการโต้วาทีเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ถ้าหากทรัมป์ต้องการพบไบเดนมากนักก็ให้มารับฟังการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาของไบเดนเสีย.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
รุมจีบผู้สนับสนุน "เฮลีย์" เรียกเสียงโหวต
เรื่องที่เกี่ยวข้อง