วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

ลากคอนายทุนบงการพังร้านส้มตํา ทวงหนี้โหดไม่พอใจลงทะเบียนแก้หนี้ นายกฯสั่งล้าง

07 ธ.ค. 2023
59

ผบช.ภ.๑ แถลงรวบนายทุนพร้อมลูกสมุนแก๊งเงินกู้โหดบุกทำลายร้านส้มตำลูกหนี้ จ.ชัยนาท ตามเช็กบิลตามใบสั่งนายกฯ เย้ยนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ปมเหตุไม่พอใจเหยื่อลงทะเบียนแก้หนี้ ผู้ต้องหาก้มหน้าสารภาพเจอข้อหาหนัก ผบ.ตำรวจรับไม่ได้แก๊งทวงหนี้ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ย้ำทุกหน่วยทั่วประเทศเข้มงวดขานรับนโยบายรัฐบาล บูรณาการทุกภาคส่วนแก้ปัญหาเด็ดขาดความคืบหน้ากรณีคนร้าย ๒ คน ขี่รถ จยย.มาจอดที่บริเวณข้างร้านขายส้มตำแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ ๖ ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เนื่องจากเจ้าของร้านได้มากู้เงินนอกระบบยอดเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท ปัจจุบันได้ทยอยส่งไปแล้วเงินต้นเหลือประมาณ ๒๐,๐๐๐ บาท แต่กลับไปลงทะเบียนแก้ไขหนี้นอกระบบ เจ้าหนี้เกิดความแค้นบุกมาพังร้าน ช่วงเช้ามืดวันที่ ๖ ธันวาคมที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง สั่งให้ตำรวจในพื้นที่รีบจับกุมดำเนินคดีทั้งแก๊ง เพราะเป็นการกระทำท้าทายกฎหมายต้องจัดการให้เด็ดขาดตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นล่าสุดเมื่อเวลา ๐๘.๓๐ น. วันที่ ๗ ธ.ค. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.๑ พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.๑ พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จ.ชัยนาท นายวิทยา ชพานนท์ ปลัดจังหวัดชัยนาท ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา ๓ ราย ประกอบด้วย นายไตรภพ กาฬภักดี อายุ ๒๘ ปี ชาว อ.เนินขาม จ.ชัยนาท นายนิรุต เอี่ยมศรี อายุ ๒๔ ปี ชาว อ.หันคา จ.ชัยนาท ที่ก่อเหตุพังร้านส้มตำ พร้อมของกลางรถ จยย.ฮอนด้า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ และหมวกกันน็อก ๑ ใบ พร้อมแจ้งข้อหา ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และขยายผลจับกุมนายธีระศักดิ์ วีระนนท์ อายุ ๔๔ ปี หรือแมว เป็นนายทุนอยู่เบื้องหลังได้ในบ้านพักพื้นที่ อ.หันคา จ.ชัยนาท ช่วงค่ำวันที่ ๖ ธันวาคมที่ผ่านมาพล.ต.ท.จิรสันต์เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการแถลงผลการปฏิบัติงานจับกุมผู้ต้องหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาล ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายไปกู้เงินจากผู้ต้องหา ๓๐,๐๐๐ บาท และส่งดอกแบบลอยตกวันละ ๘๕๐ บาท ไม่หักเงินต้น เป็นการคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดทำให้ผู้กู้ส่งไม่ไหว เรื่องนี้นายกฯให้ความสำคัญและกำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค ๑ รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับพี่น้องประชาชน ให้ดำเนินคดีผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด เจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุพังร้านขายส้มตำ ๒ คน ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพนอกจากนี้มีการขยายผลจับกุมนายธีระศักดิ์ เจ้าหนี้ได้ในเวลาต่อมาแจ้งข้อหา ๒ ข้อหา การเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และการให้กู้เงินโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นนโยบายหนึ่งของทางรัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ขอฝากไปถึง ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ หรือลูกหนี้ ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาลว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ประกาศการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ ให้บูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยร่วมกับตำรวจ เปิดระบบลงทะเบียนรับความช่วยเหลือแก้ไขหนี้นอกระบบ ที่ผ่านมา มีประชาชนทั้งลูกหนี้เจ้าหนี้มาลงทะเบียนจำนวนมากเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่มีบางรายตามที่ปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ก่อเหตุไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตำรวจติดตามจับกุมได้ยกแก๊ง กำชับไปยังทุกหน่วยทั่วประเทศ ให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง หากพบใครฝ่าฝืนกฎหมายให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดวันเดียวกัน นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นอภ.เมืองสุราษฎร์ธานี นำชุดปฏิบัติการพิเศษกวาดล้างนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ ๕ คน ประกอบด้วย นายสมหวัง จินดาเฟือง อายุ ๒๓ ปี ชาว จ.พิษณุโลก นายนพดล ศรีสวัสดิ์ อายุ ๓๙ ปี ชาว จ.พิษณุโลก นายสุรศักดิ์ชัยพิบูรณ์ อายุ ๒๒ ปี ชาว จ.สมุทรปราการ และชาวอินเดีย๒คน ขณะกำลังติดตามเก็บเงินจากลูกหนี้ในพื้นที่ ต.บางชนะ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางเงินสด ๑๔,๙๐๐บาทสอบสวนนายทุนคนไทย ๓ คน รับสารภาพว่าปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยร้อยละ ๒๐ ต่อ ๒๔ วัน จะเก็บดอกเบี้ยเป็นรายวัน คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ส่วนชาวอินเดีย ๒ คน ให้การปฏิเสธไม่ได้ปล่อยเงินกู้ แต่มาเก็บเงินค่าผ่อนสินค้า เมื่อตรวจสอบหลักฐานการเข้าเมืองและการอยู่อาศัยในราชอาณาจักรยังไม่พบการกระทำผิด ลงบันทึกประวัติแล้วปล่อยตัวไป หากพบเป็นการเก็บดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดจะนำตัวมาดำเนินคดีทันทีอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่