วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

“วิทยา” ย้ำ ไม่เซ็นเช็คเปล่า ยัน แก้ รธน.ประเด็นไหน ต้องฟังเสียงประชาชน

“วิทยา แก้วภราดัย” สส.รทสช. เรียกร้อง สส.ในสภาตกผลึก จะแก้ รธน.ประเด็นไหน โดยฟังเสียงความต้องการประชาชน ย้ำ ไม่เซ็นเช็คเปล่าเด็ดขาด ถ้ายังไม่รู้ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร.จะแก้ รธน.พาบ้านเมืองไปทางไหนเมื่อวันที่ ๓๑ ม.ค. ๒๕๖๗ นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อภิปรายให้ความเห็นระหว่างการพิจารณารับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง การจัดทำข้อเสนอระบบการเลือกตั้ง และแนวทางการทำงานของสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนพิจารณาเสร็จแล้วว่า ได้ติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาอย่างต่อเนื่อง ฟังอย่างชาวบ้านได้ข้อเท็จจริงว่า การจะตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร.มาเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เพราะพวกเรารู้สึกว่ารัฐธรรมนูญฉบับเก่าที่มาไม่ชอบ เผด็จการเป็นคนเขียนให้ แต่ทิศทางว่าจะแก้ไปทางไหนยังไม่ชัดเจนนายวิทยา กล่าวว่า ตนนั่งดูสภาชุดที่แล้วมา ๔ ปี คิดออกเรื่องเดียวที่สภาคิดแก้รัฐธรรมนูญ คือ เรื่องบัตรใบเดียวกับบัตรสองใบ มาวันนี้เรามาพูดเรื่องเดิมอีกแล้ว คิดจะตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร.ขึ้นมาแก้รัฐธรรมนูญที่มีที่มาที่เราไม่ชอบ แต่โดยสภาพความเป็นจริง พวกเราเป็นผลผลิตจากสิ่งที่เราไม่ชอบทั้งสิ้น ยังคิดไม่ออกว่านอกจากไม่ชอบที่มาเกลียดตัวแล้วจะกินไข่หรือเปล่า คิดออกหรือยังรัฐธรรมนูญที่คิดจะแก้ใหม่ทั้งฉบับ มีปัญหาอะไรกี่เรื่อง แล้วจะแก้เรื่องอะไรบ้าง ต้องบอกให้ได้ว่าจะให้คนนอกไปแก้ จะแก้เรื่องอะไรทั้งนี้ สิ่งที่เป็นปัญหาที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน หัวใจหลักของรัฐธรรมนูญ ความเป็นประชาธิปไตยเรื่องเดียว คือ การค้ำประกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในประเทศ ถ้าสิทธิเสรีภาพประชาชนละเมิดง่ายด้วยอำนาจไม่เป็นประชาธิปไตย ที่บอกกันว่าจะเลือก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร. ในใจพรรคการเมืองในทุกพรรคก็คิดว่าต้องหาคนของพรรคการเมืองมาเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร.ให้ได้มากที่สุดทั้งนี้ เหตุผลเพื่อจะได้เอาตามใจที่พรรคคิด แต่กระบวนการในการสรรหาถ้าผ่านการเลือกตั้งทั้งหมด ไม่มีใครเชี่ยวชาญเท่ากับ ๕๐๐ คนในสภา นักวิชาการอย่าสะเออะขึ้นมา ๕๐๐ คนในสภาฝีมือที่สุดแล้วในแผ่นดิน กกต.ก็ไล่ไม่ทัน ถ้าไล่ทันจนป่านนี้ยังประกาศใบแดงไม่ได้สักใบ กลายเป็นว่าทุกคนในที่นี้กลายเป็นคนขาวสะอาดท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ระบอบประชาธิปไตยเราก้าวไปสู่หายนะ เมื่อประชาชนต้องการเงิน แล้วก็ตัดสินใจง่าย เราเห็นการซื้อเสียงกลายเป็นเรื่องปกตินายวิทยา กล่าวว่า ตนนั่งฟังมานานว่าอยากแก้รัฐธรรมนูญเรื่องไหนมาก จะมาบอกว่าให้เปลี่ยนเสื้อตัวนี้ ให้คนอื่นมาตัดให้ใหม่ ตัดมาแล้วก็เหมือนเดิมอีก แล้วตนจะต้องชวนประชาชนไปหมดเงินเป็นหมื่นล้าน เพื่อให้ได้เสื้อตัวใหม่ ซึ่งเหมือนกับเสื้อตัวเดิม ไม่มีหลักประกันในการเดินไปข้างหน้า ทุกหมวดเขาเขียนไว้หมด กระทบไม่ได้ ถ้ากระทบขอให้บอกกันตรงๆ อยากแก้เรื่องไหน วิธีการจะสรรหา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร. ตนรับได้ แต่ตนไม่เคยเชื่อจะได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร.มาอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม อย่าวาดหวังไว้มากว่าจะได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร.วิเศษวิโส ได้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเลิศเลอดีที่สุด ไม่มีที่ไหนในโลกเทียบเท่า ฝันไปเถอะ“วันนี้นักการเมืองยัดเยียด ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ต้องแก้ทั้งฉบับ ตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร. ประชาชนทั้งประเทศสงสัยจะแก้ไขอย่างไร ใครจะเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร. ผมคิดว่าใช้เวลาตรองสักนิด ให้คำตอบกับประชาชนทั้งประเทศ เราเป็นตัวแทนชาวบ้าน ฟังคำตอบจากชาวบ้านว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขารู้สึกว่าไม่ดีตรงไหน แล้วมาช่วยกรองกัน อย่างน้อยตั้งเป็นธงจากสภา ต้องรู้อยากแก้ตรงไหน อย่าคิดจะเปลี่ยนเสื้อตัวนี้อย่างเดียว เพราะเสื้อตัวนี้ไม่สวย คนตัดไม่ใช่ช่าง อย่าพาประเทศไปอย่างนั้น ช่วยกันขายความคิดที่มาจากประชาชน นำมาอภิปรายกันในสภา เพื่อคุมว่าจะเขียนอะไรใส่มือคนที่เราจะมอบอำนาจให้ แต่อย่าเขียนเช็คเปล่าให้เขา ผมไม่เซ็นเช็คเปล่าเด็ดขาด ถ้าไม่รู้ว่าจะพาบ้านเมืองไปทางไหน” นายวิทยา กล่าว…