เทกแอ็กชันดุๆ เขย่าขวัญ กระตุกกันซะแรงเลยตามฉากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบบุกรวบตัวผู้สื่อข่าวสำนักข่าวดังพร้อมๆ กับล็อกตัวช่างภาพอิสระแบบไม่ให้ทันตั้งตัว ส่งให้ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง ดำเนินคดี สืบเนื่องจากการทำข่าวศิลปินอิสระพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว หมิ่นเหม่มาตรา ๑๑๒ขังข้ามคืนก่อนส่งฟ้องศาลดำเนินคดี พระราชบัญญัติความสะอาดฯช็อตต่อเนื่องอารมณ์ซีเรียส แบบที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง โชว์ภาพหน้านิ่วคิ้วขมวด ถกเครียดกับ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และนายตำรวจใหญ่ ยกระดับมาตรการเข้มอารักขาบุคคลสำคัญไล่ล้อมคอก ป้องกัน ภายหลัง “เด็กเฮี้ยว” ก้าวล้ำ “แดนต้องห้าม”ตามข้อมูลจากปาก “บิ๊กต่อ” ฟันธงมีขบวนการชักใยอยู่เบื้องหลัง สั่งไล่ล่าไอ้โม่งผู้บังอาจกระทำการเสียดแทงหัวใจประชาชนคนไทย จุดชนวนระเบิดตูมใหญ่ สถานการณ์ลุกลามใหญ่โต หัวเชื้อกระตุกเกมแลกเลือดอย่างที่แก๊ง “เด็กเฮี้ยว” ตะลุมบอนกับก๊วน “คนแก่ห้าว”ม็อบชนม็อบ เอาเป็นเอาตายแบบไม่สนลูกหลาน ลุงป้าน้าอา ปู่ย่าตายายคิวตะลุมบอน ขยายวงไปถึงท็อปบูต โรงเรียนนายร้อย จปร.ตบเท้าโชว์พลังกันพรึบพรับ กระชับสัญญาณคลื่นความถี่แรงสูงจากกองทัพคำรามขู่ขบวนการ “ลองของ” อย่ายั่ว “ตบะแตก”และไม่พลาดที่จะถูกนักเลือกตั้งอาชีพ ลากเข้าโซนตะลุมบอนทางการเมือง ตามฟอร์มเก่งโดยอัตโนมัติ เหลี่ยมถนัดกระโดดโหนทันควัน “เสี่ยขิง” นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งแท่นชงญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฎรปรับปรุงมาตรการอารักขาบุคคลชั้นสูงได้จังหวะแท็กทีมแนวร่วมกองทัพสลิ่ม ประณามพฤติกรรมเด็กเฮี้ยวป่วนแดนต้องห้าม ถือหางตำรวจ เร่งให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด อย่าปล่อยให้เป็นเสี้ยนหนามจุดยืนคนละฟาก หักมุมย้อนศรกับอาการของขั้วตรงข้าม ตามฟอร์มของผู้มีอิทธิพลเหนือความคิดของกองกำลัง “ด้อมส้ม” นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รีบดักคอ เตือนเป็นนัยอย่างสร้างผีตัวใหม่ขึ้นมาย้อนประวัติศาสตร์เลือดเดือนตุลาฯอีกเลยฟาดอำนาจรัฐและฝ่ายความมั่นคง อย่าทำให้สังคมหวนคืนสู่ยุคแห่งความหวาดกลัว รัฐบาลต้องปกป้องเสรีภาพสื่อ การจับกุมสื่อที่ทำหน้าที่ของตนเองราวกับว่าทำความผิดร้ายแรง การยัดข้อหาแบบนี้ จะทำให้สังคมไทยกลับมาสู่ยุคของการควบคุมสื่อ ทำข่าวที่เห็นต่างจากรัฐไม่ได้ยืนยันพรรคก้าวไกลไม่ได้อยู่เบื้องหลัง “เด็กเฮี้ยว” ล้ำแดนต้องห้ามในเหลี่ยมที่ทีมเด็กรุ่นใหม่เอาด้วยกับการลากปมร้อนเข้าสภา แต่หนีไม่พ้นถูกฝ่ายคุมเกมอำนาจและแนวร่วมต่อต้านกองทัพส้มจับตาเกมแฝง “หลุมพราง” ขยายผลเกมมวลชนบนถนนตามเงื่อนไขสถานการณ์หนีไม่พ้นการปะทะหนักๆ แบบที่ตำรวจ ๓-๔ โรงพักเดินหน้าเสนอเรื่องถอนประกัน “เด็กเฮี้ยว” ล็อกหัวขบวน “แก๊งทะลุวัง” เข้ากรงขัง “ตัดตอน” ปราบพยศไฟจากฤทธิ์เด็กเฮี้ยวกำลังสุมกองฟอน จังหวะหัวเชื้อไวไฟโผล่มาพอดีล่าสุด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม ยอมรับเต็มปากเต็มคำ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีชื่อเป็น ๑ ในนักโทษเด็ดขาด ๙๔๕ คน ที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้เสนอเรื่องการพักโทษมาที่กระทรวงยุติธรรมได้สิทธิอยู่ในกลุ่มเจ็บป่วยร้ายแรงหรือพิการ หรืออายุ ๗๐ ปีขึ้นไป ติดคุกมาแล้ว ๑ ใน ๓ หรือ ๖ เดือน จากที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือจำคุก ๑ ปีนับถอยหลัง “นายใหญ่” เช็กเอาต์จากชั้น ๑๔ กลับคฤหาสน์ “จันทร์ส่องหล้า”จังหวะ “สลิ่ม” งง ไม่รู้จะดักขวางทางไหนถูก ระหว่าง “เด็ก เฮี้ยว” กับ “ศัตรูคู่อาฆาต” อาการเดียวแต่ต่างอารมณ์กับ “ด้อมส้ม” ที่หมั่นไส้ การไล่ทุบเด็ก อุ้มคนแก่ที่แน่ๆจังหวะ “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ไฟกำลังลามทุ่ง อุณหภูมิเดือดปุดๆบรรยากาศหักมุม เงื่อนไขสถานการณ์ไม่เป็นใจกับโปรแกรมโกอินเตอร์ นายเศรษฐาให้ความหวังล่วงหน้า จะบินไปกล่อมเยอรมนี ฝรั่งเศส ขอไฟเขียว “เชงเก้น วีซ่า” เปิดให้คนไทยบินเข้ายุโรปได้ง่ายๆในอารมณ์ที่รู้อยู่ว่า ชาติตะวันตกเสพ “ประชาธิปไตยเสรี” เข้าเส้นเลือดเห็นฉากอำนาจเดือดๆในเมืองไทย แทบไม่ต้องเดาคำตอบล่วงหน้าเลย.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
เรื่องที่เกี่ยวข้อง