วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

วิเคราะห์การเมือง : วัดใจกับองค์กรอิสระ

สภาพสังคมป่วยวิปริต สลดหดหู่จิตตกกันไปตามๆกันข่าวคราวอาชญากรรมที่เกิดขึ้น นับวันยิ่งพัฒนาไปในทางเลวร้าย สะท้อนภาวะเสื่อมทรามของจิตใจที่ไม่ได้พัฒนาขึ้นที่หนักกว่าคือผู้บังคับใช้กฎหมาย กลายเป็นโจรผู้ร้ายเสียเอง ตำรวจระดับสัญญาบัตรขืนใจเด็ก ม.๕ ตั้งแต่หัววันก่อนเข้าเรียน ใช้เล่ห์เหลี่ยมโขกสับ เรียกค่าปรับ ๒,๐๐๐ บาท ข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อกเด็กวัยนี้ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่มีเงินติดตัวมาจ่ายค่าปรับขนาดนั้นแน่ ข่มขู่ คุกคาม ก่อเหตุอุกอาจขืนใจแลกค่าปรับสังคมจะอยู่กันยังไง ไม่มีความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน แม้แต่สิทธิมนุษยชนยังโดนปล้นกลางแดดต้องยกเป็นปัญหาระดับชาติ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง อย่ามุ่งแต่แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ภัยสังคมใกล้ตัวประชาชน ถ้าไม่จัดการให้เหมาะสมอาจลามหนักบั่นทอนเครดิตรัฐบาลอย่างไวจริงอยู่แม้ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจวิกฤติซบเซา แต่ก็เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขก่อน จะรอให้เศรษฐกิจฟื้นกลับมาคงไม่ทัน ถึงตอนนั้นสังคมคงเละเทะไปแล้วครั้นดูโรดแม็ปเส้นทางแก้ไขเศรษฐกิจของรัฐบาล ยังเจอแต่ทางวิบาก ยังไม่เห็นแสงสว่างปลายทางtt ttภูมิธรรม เวชยชัยมองมุมหนึ่งก็น่าเห็นใจ ตามที่ “รองอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย บอกรัฐบาลเข้าสู่อำนาจมาในจังหวะวิกฤติเศรษฐกิจซบเซาซึมลึก งบประมาณไม่มีดังนั้น น่าจะได้ทำงานแบบจริงๆจังๆตั้งแต่ช่วงกลางปี ๒๕๖๗ เป็นต้นไปไอ้ที่คาดหวังจะกู้เงินมาบริหารจัดการปัญหาที่อยู่ตรงหน้า ก็เจออุปสรรคตลอดเวลาร่าง พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้กับนโยบายเรือธง “ดิจิทัลวอลเล็ต” แจกเงิน ๑๐,๐๐๐ บาทให้ประชาชน ส่อเค้าไม่ผ่าน หรือล่าช้ากว่ากำหนดแน่นอนหลังมีเอกสารหลุดจากคณะทำงานเฉพาะกิจ ที่ ป.ป.ช.ตั้งขึ้นมาศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลเนื้อหาถล่มโจมตี ด้อยค่าแหลกลาญ พร้อมแนบคำสั่งสอนมาให้ด้วยแต่พอเป็นข่าวไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่ารายงานผลศึกษานั้นไปไหนต่อ ส่งให้ ป.ป.ช.ชุดใหญ่แล้วไม่มีอะไรในกอไผ่เงียบไปเฉยๆ จบไปดื้อๆอุตส่าห์ทำมาขนาดนี้ก็ควรส่งต่อให้รัฐบาลอย่างเป็นทางการ ทำขัดๆเขินๆ เงียบไป คนนินทา แค่หลอกด่าฟรีขณะที่ “รองอ้วน” แอบแค้นจับใจ บอกกลับไปเป็นแค่ข้อควรระวังพึงสังวรไว้ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำตามแต่แม้ใจจะบอกว่าอย่าไปสนใจ แต่ก็ไม่สามารถเมินเฉยต่อเสียงขององค์กรอิสระ ที่มีอำนาจให้คุณให้โทษได้บอกขนาดนี้แล้วไม่แก้ ก็โดนคว่ำแน่ เลยต้องเสียเวลาเปลี่ยนแผนใหม่หมด“นิด้าโพล” ถามประชาชนแล้วเข้าใจ ไม่โกรธรัฐบาลถ้าดิจิทัลวอลเล็ต ล่าช้า หรือแม้แต่จะยกเลิก แต่ไม่บอกว่าเพราะอะไร เพราะไม่คาดหวังเชื่อมั่นรัฐบาลอยู่แล้ว หรือเห็นใจรัฐบาลที่เจออุปสรรคแต่ “นายกฯนิด” และพรรคเพื่อไทยยืนยันเดินหน้าจนสุดทาง เพราะประชาชนเลือกมาสั่งให้ทำไม่ถอย ไม่ขัดขืน แต่แสดงออกว่าไม่ยอมรับองค์กรอิสระไม่ต่างกับพรรคเพื่อนบ้านค่ายส้ม “ก้าวไกล” ที่กำลังตั้งป้อมเผชิญหน้าองค์กรอิสระด้านกฎหมายเหมือนกันวันที่ ๓๑ มกราคม๒๕๖๗ ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย คดีพรรคก้าวไกลเสนอแก้ไขมาตรา ๑๑๒และใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่พลพรรคก้าวไกลแสดงออกกลายๆ ไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาที่แปรเจตนาไปจนผิดเพี้ยนโชว์อารยะขัดขืนไม่ไปฟังคำตัดสินให้เสียเวลา ขออยู่สภาทำงานตามหน้าที่ที่ประชาชนสั่งดีกว่าtt ttปิยบุตร แสงกนกกุล“อ.ป๊อก” ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เคยบอกไว้ เจตนาแรกเริ่มเราสร้างศาลรัฐธรรมนูญมาเพื่อตรวจสอบร่าง พระราชบัญญัติขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่นานวันไปก็เพิ่มอำนาจแปลกใหม่ ทั้งยุบพรรค ตัดสิทธิหลังการรัฐประหารปี ๒๕๕๗ จนมีรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ สว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. จะเป็นผู้เคาะว่าใครได้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระแม้ฝ่ายที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จะพยายามแก้ไขปรับรื้อองค์กรอิสระเรื่อยมาแต่ก็ไร้ผลและวันนี้เป็นอีกครั้งที่คำตัดสินเป็นโทษต่อฝ่ายเลือกตั้ง และอาจนำไปสู่การยุบพรรครอบใหม่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเจตนาการกระทำของพรรคก้าวไกลเข้าข่ายล้มล้างการปกครองพร้อมสั่งให้ยุติทุกความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับมาตรา ๑๑๒ ไม่ว่าแก้ไข ยกเลิก หรือแม้แต่แสดงความเห็นมาตรา ๑๑๒ เปรียบเหมือนกล่องดวงใจ สัญลักษณ์ก้าวไกลไปแล้ววัดใจว่าจะลุยไฟเดินหน้าท้าทายให้ยุบพรรคทันทีหรือชะลอตั้งหลักสับเปลี่ยนบุคลากร หรือจะเลือกยอมแพ้ยกธงขาว.ทีมข่าวการเมือง รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม