แรงเขย่าตามมาอุตลุดมหกรรมตะลุมบอนพรรคก้าวไกล ล่าสุด สนธิญา สวัสดี และ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร อีกก๊วนนักร้องขาประจำยื่น ป.ป.ช.ไต่สวน ๔๔ สส.พรรคก้าวไกล เอาผิดข้อหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง กรณีเข้าชื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒เพิ่มหัวเชื้อความผิดอีกกระทง ชงเรื่องให้ ป.ป.ช.ตั้งแท่นส่งศาลฎีกาฟันปมจริยธรรม สส. ถ้ามีความผิดจริง อาจรุนแรงถึงขั้นเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตมีจุดจบถูกประหารชีวิตทางการเมือง คล้ายกรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป ปิดฉากชีวิตการเมือง กรณีฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ในความผิดคาบเกี่ยวกับมาตรา ๑๑๒ก้าวไกลโดนรุมสกรัมสะบักสะบอม เพิ่งถูกนักร้องอาชีพ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นยุบพรรคต่อ กกต.ไม่ทันไรวันรุ่งขึ้นก็ถูกไล่เช็กบิลความผิดรายตัวซ้ำแค่ยุบพรรคยังไม่พอ แต่จะเอาถึงขั้นถอนรากถอนโคน ไม่ให้ผุดให้เกิดทางการเมืองอีกต่อไปแม้แต่กระทั่งทีมตัวประกอบ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ยังเกาะขบวน ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. เอาผิดพรรคก้าวไกล ข้อหากบฏที่ชูนโยบายหาเสียง แก้ไขมาตรา ๑๑๒ทัพส้มพลิกตำรารับไม่ทัน ทุกฝ่ายดาหน้าขยี้ตามผลพวงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เมาหมัดเห็นดาวอยู่รอบหัวเต็มไปหมดแม่ทัพใหญ่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เพิ่งตีปีกรอดบ่วงคดีถือหุ้นไอทีวีได้แค่สัปดาห์เดียว ต้องเอามือก่ายหน้าผากใหม่ อาการน่าห่วงหนักกว่าเดิมจากที่ตั้งท่าจะกลับมารุ่งเรือง ส่อกลับตาลปัตรเป็นรุ่งริ่งวนลูปอยู่บนเส้นทางวิบากกรรม อนาคตอยู่บนเส้นด้าย แขวนไว้กับองค์กรอิสระ อยู่อย่างหวาดผวา ไม่รู้จะถูกเร่งเครื่องหรือผ่อนคันเร่งเวลาไหน ต้องลุ้นหนักจะ “รอด” หรือ “ร่วง”ทีมยุทธศาสตร์อำนาจเล่นเกมเลี้ยงไข้ก้าวไกล ใช้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญตีกรอบการเคลื่อนไหวพรรค ไม่เร่งให้ตาย แต่ก็ห้ามโตริบอาวุธหนัก ตัดตอนการแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ไม่ให้ใช้เป็นจุดขายหลักอีกต่อไป สั่งยุติการดำเนินการทุกอย่างทั้งห้ามแก้ไข ยกเลิก แม้กระทั่งแสดงความคิดเห็น กดดันถ้าจะลุยไฟท้าทายต่อ ก็เสี่ยงโดนยุบพรรค หากจะโยนผ้ายอมแพ้ ยกเลิกแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ก็เสียวเสียฐานแฟนคลับกองทัพสีส้มตกอยู่ในอาการพะอืดพะอม กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องระดมสมองเรียกประชุมแกนนำและ สส. หาทางหนีทีไล่แก้เกมในช่วงวิกฤติหากจะหวังใช้วิธีออก พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ล้างผิดมาตรา ๑๑๒ เป็นช่องทางรอด โอกาสคงริบหรี่ เพราะไร้แนวร่วมในสภาที่จะกอดคอลุยไฟไปด้วยกันจุดยืนเสียงข้างมากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ยืนกรานห้ามฟอกผิดคดีมาตรา ๑๑๒ ในกฎหมายนิรโทษกรรมแม้กระทั่งฝ่ายค้านด้วยกันอย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็ประกาศอุดมการณ์ชัดเจน ห้ามแตะต้องมาตรา ๑๑๒ก้าวไกลสู้แบบหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่แคล้วต้องลดเพดานบิน ผ่อนแรงเสียดทานที่จะสร้างผลกระทบต่อพรรคในอนาคตอย่างที่เห็นสัญญาณหมอบพรรคก้าวไกล ไม่มีเรื่องการแก้ไขมาตรา ๑๑๒ อยู่ในสารบบกฎหมาย ๔๗ ฉบับที่พรรคเตรียมจะผลักดันเข้าสู่สภาในปีนี้ และรีบถอดนโยบายแก้กฎหมายร้อนออกจากเพจพรรคผ่อนคันเร่งทันทีทันใด หันมาตั้งการ์ดสูง หยุดสร้างความเสี่ยงในปมล่อแหลมถึงเวลาทบทวนยุทธศาสตร์ใหม่ หลังนโยบายร้อน เจอซอยตันไปๆมาๆอาจพึ่งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นบันไดลง ยุติการแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ที่ต้องแบกความกดดัน สู้แรงต้านมาตรา ๑๑๒ มายาวนานพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เปลี่ยนโฉมการทำงานใหม่ เลิกนโยบายทะลุฟ้า หันมาตั้งหน้าตั้งตาตรวจสอบการทำงานรัฐบาลอย่างเข้มข้นตามบทถนัด เพื่อกวาดฐานเสียงเพิ่มจากมวลชนที่ชอบสไตล์ดุดัน ทำงานถึงลูกถึงคน แต่รังเกียจการแก้ไขมาตรา ๑๑๒ถึงจุดวัดใจด้อมส้มจะยังเหนียวแน่นกับพรรค ในยามที่ไม่มีนโยบายแก้มาตรา ๑๑๒ หรือไม่ให้บทเรียนราคาแพงเจเนอเรชันใหม่ได้เรียนรู้ โลกแห่งความจริง สุดโต่งเกินก็ไปต่อลำบาก!!!ทีมข่าวการเมือง รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
เรื่องที่เกี่ยวข้อง