ซอยจรัญสนิทวงศ์ ๖๙ ที่เงียบเหงามา ๑๗ ปี กลับมาคึกคักจ้อกแจ้กจอแจ การจราจรหนาแน่น ถนนทุกสายมุ่งสู่คฤหาสน์ “จันทร์ส่องหล้า”อารมณ์มวลชนคนเสื้อแดง แฟนคลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่รักผูกพันแบบเข้าเส้นเลือด ขนหมอนปูเสื่อนอนรอล่วงหน้า ตั้งแถวรับ “นายใหญ่” เช็กเอาต์จากชั้น ๑๔ แบบข้ามวันข้ามคืนดักยื่นหนังสือ เรียกร้องให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้านรากหญ้าขอให้อดีตนายกฯขวัญใจกลับมาช่วยฟื้นความกินดีอยู่ดีนักข่าว สื่อมวลชนนับร้อยชีวิต ถูกส่งไปปักหลักเฝ้าเกาะติดไม่ละสายตาตามแรงโน้มถ่วง พลังดึงดูดของ “ศูนย์อำนาจ” โดยแท้จริงมันคือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เครื่องหมายเฉพาะเจาะจงของระบอบ “ทักษิณ” ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติการเมืองแบบไทยๆ ที่ผู้คนในสังคมส่วนใหญ่เผลอเข้าใจไปด้วยความคุ้นชินจนแยกไม่ออกหรือแยกออก แต่ก็อวดภูมิรู้เกมอำนาจ เลือกเชื่อว่า ใครคือผู้นำรัฐบาลสถานการณ์ไหลเข้าทางยุทธการ “เสี้ยม” แบบที่ “เดอะต๋อม” นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชิงตอกลิ่มตามน้ำประเทศไทยมีนายกฯ ๒ คน เพิ่มความสับสนในเชิงการบริหาร แทงใจดำ กระตุกต่อมสะดุ้งทีมเพื่อไทย จน “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ คีย์แมนสายตรง “นายใหญ่” ต้องตอบโต้ทันควันด่าลั่น ตะคอกหัวโจกก๊วนเด็กส้ม อย่าจินตนาการเกินจริงแต่ดูเหมือนจะเบรกไม่อยู่ จังหวะกระแสไหลเร็วตามเรตติ้งของ “นายใหญ่” รีเทิร์น ยึดสถานะตัวจริงเสียงจริงสถานการณ์ยิ่งกดดันผู้นำที่ได้รับฉายา “เซลส์แมนสแตนด์ชิน” โดนนักข่าวไล่จี้จ่อไมค์จนนั่งไม่ติดอาการแบบที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ต้องเบรกดราม่า เคลียร์ เสียงนินทากระแนะกระแหนนายกรัฐมนตรี ๒ คนยึดรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีนายกฯแค่คนเดียว ซึ่งก็คือตนเองนายกฯต้องยืนยัน นั่งยัน นอนยัน นี่แค่วันแรกๆไม่กี่ชั่วโมงภายหลังจาก “นายใหญ่” เช็กเอาต์จากชั้น ๑๔ ปักหลักศูนย์อำนาจ “จันทร์ส่องหล้า”กระตุกแรงสั่นไหว รัฐบาลผสมสูตรพิสดารกระเพื่อมหนักเพิ่มโจทย์ยากผู้นำอย่างนายเศรษฐาในการประคองสถานะนายกรัฐมนตรี บนฐานการเมืองที่ไม่ได้เป็นของตัวเองนับถอยหลังไปจนครบเทอม ๔ ปี แบบที่ปักหมุดไว้หรือไม่ในสถานการณ์ปัจจัยแทรกซ้อน เชื้อชนวนร้อนๆกำลังสุมกองฟอน เพลิงจากความขัดแย้งพร้อมลุกพรึบได้ทุกเวลาไวไฟ ท้าทายอารมณ์ความรู้สึกอ่อนไหวของประชาชนส่วนใหญ่ประเมินทิศทางธง “ชัยธวัช” มุ่งเป้าจริงไปที่การขย่ม “ยุติธรรม ๒ มาตรฐาน”เขี่ยเชื้อชนวนจากระเบียบกรมราชทัณฑ์เรื่องการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำ เอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ กลับไปอยู่คฤหาสน์จันทร์ส่องหล้ากลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียวผู้นำฝ่ายค้าน จี้รัฐบาลตอบคำถามสังคมให้ได้ อย่าเงียบ และคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก ยืนกรานจะลุยตรวจสอบให้ถึงที่สุด เพราะทุกคนควรได้รับสิทธิ์ในกระบวนการยุติธรรมอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันขวัญใจด้อมส้มได้เหลี่ยมตีกินแต้ม กระตุกอารมณ์ประชาชนที่รักความเป็นธรรม สังคมที่ยึดถือกระบวนการยุติธรรมมาตรฐานเดียวกันไม่ได้เอ่ยกันตรงๆแต่ก็จับทางได้ว่า ทีมก้าวไกลตั้งใจลากไปเทียบเคียงกับเหยื่อมาตรา ๑๑๒ ที่ต้องติดคุกเซ่นความขัดแย้งในเกมอำนาจ ต้องโทษทัณฑ์จากความเห็นต่างทางในเชิงอุดมการณ์ทางการเมืองขยายภาพย้อนแย้ง เร้าดราม่า เด็กเฮี้ยวถูกไล่จับขังคุก หักมุมคนแก่ได้รับการพักโทษ ประคบประหงมออกจากชั้น ๑๔ แบบวีไอพีตามปรากฏการณ์ทางกระแสแบบที่ภาพของอดีตผู้นำใส่เฝือกที่คอและแขน สภาพสะบักสะบอม ไม่วายถูกค่อนขอดว่า เล่นละคร สร้างภาพขบวนการหมั่นไส้ ฟันธงแกล้ง “ป่วยทิพย์” หลอกคะแนนสงสาร.ทีมข่าวการเมือง รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
เรื่องที่เกี่ยวข้อง