วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

"ศรีสุวรรณ" ฟ้องศาลปกครอง ไต่สวนฉุกเฉิน สั่ง "ทักษิณ" กลับรักษาตัวเรือนจำ

“พี่ศรี” มาแล้ว “ศรีสุวรรณ” ฟ้องศาลปกครอง ไต่สวนฉุกเฉินขอสั่ง “ทักษิณ ชินวัตร” กลับรักษาตัวเรือนจำ พร้อมสั่งเพิกถอนระเบียบราชทัณฑ์คุมขังนอกคุก เล็งฟ้อง ๙ อรหันต์ หากเอื้อให้รักษาตัวภายนอกวันที่ ๑๙ ธ.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นฟ้องอธิบดีกรมราชทัณฑ์, ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ถึง ๔ ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งที่ให้ นายทักษิณ ชินวัตร ออกไปนอนพักรักษาตัวนอกเรือนจำ รวมทั้งเพิกถอนระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. ๒๕๖๖ และขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้ระเบียบดังกล่าวไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การออกระเบียบอนุญาตให้ผู้ต้องขังไปคุมขังนอกเรือนจำได้โดยประกาศใช้ เมื่อวันที่ ๗ ธ.ค. ๖๖ ยิ่งตอกย้ำว่าเป็นความพยายามเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ไม่ต้องนอนคุกสักวันเดียว โดยอ้างเหตุนักโทษล้นคุก ทั้งที่นักโทษส่วนใหญ่ ๙๙% เป็นนักโทษที่เกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ได้รับอานิสงส์จากระเบียบดังกล่าว แต่คนโกงแผ่นดินกลับเข้าเงื่อนไขให้ไปคุมขังที่บ้านได้ อันเป็นการทำให้คำพิพากษาของศาลไม่มีความหมายต่อการลงโทษนักโทษให้หลาบจำได้เลยนอกจากนี้ พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ๒๕๖๐ ยังกำหนดไว้ชัดเจนว่า กรณีที่จะอนุญาตไปรักษาตัวนอกเรือนจำนั้น จะต้องมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต หรือเป็นโรคติดต่อเท่านั้น แต่จากคำแถลงของกรมราชทัณฑ์ และแพทย์เจ้าของไข้ ไม่พบว่า นายทักษิณ เข้าเงื่อนไขดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นการอนุญาตให้นายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจที่สังคมสงสัย จำเป็นที่ต้องพิสูจน์กันในชั้นศาลเพื่อให้ได้ข้อยุติtt tt”เรื่องนี้ประชาชนจับข้อพิรุธได้มากมาย แต่ผู้ถูกฟ้องคดีก็ไม่ยี่หระ ไม่สนใจ แม้แต่นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในฝ่ายบริหาร ก็ไม่สนใจต่อกรณีนี้ เพราะอาจจะถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียร่วมกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม การที่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะใช้อำนาจโดยพลการ น่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องโดยเฉพาะการออกระเบียบให้ผู้คุมขังไปพักรักษาตัวอยู่นอกเรือนจำ ซึ่งกฎกระทรวงที่ออกโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นั้น ไม่ได้เขียนว่าจะต้องออกไปพักอยู่ที่บ้านพัก ไปสถานประกอบการเอกชน วัดวาอาราม มัสยิด ไม่ได้เขียนไว้ แต่ระเบียบนี้กลับมาเขียนไว้มากกว่าที่กฎกระทรวงกำหนด ไปพักที่บ้านพักก็ได้ ไปพักที่สถานประกอบการเอกชน โรงพยาบาลเอกชน หรือที่ใดก็ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการจัดการนอกเหนืออำนาจกฎกระทรวงโดยชัดเจน ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้นักโทษชื่อทักษิณ”เมื่อถามว่า จะครบ ๑๒๐ วันแล้ว มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่กรมราชทัณฑ์จะขอขยายระยะเวลาการรักษาตัวของนายทักษิณ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ก็มีแนวโน้มเป็นอย่างนั้นมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ตนเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมทางปกครองที่มายื่นฟ้องในวันนี้ จะรักษาบรรทัดฐานในเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน เพราะที่ผ่านมาศาลปกครองก็พูดมาโดยตลอดเรื่องความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นคำขอของตนเพื่อขอไต่สวนฉุกเฉิน และบังคับให้มีการทุเลาตามระเบียบนี้ ทางศาลเห็นชอบด้วยก็จะทำให้ นายทักษิณ ต้องกลับมารักษาตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หรือโรงพยาบาลราชทัณฑ์เมื่อถามต่อว่า หากนายทักษิณได้ประโยชน์จากระเบียบราชทัณฑ์ดังกล่าว จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จะไปฟ้องคณะทำงานพิจารณาการคุมขังในสถานที่คุมขังที่มีจำนวน ๙ คน และมีรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นประธาน ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้ นายทักษิณ ไปคุมขังนอกเรือนจำเป็นคดีอีก ๑ คดีโดยอรหันต์ทั้ง ๙ เป็นคนที่ชี้เป็นชี้ตายที่จะเสนอเรื่องไปยังอธิบดีให้ลงนามอนุมัติในขั้นตอนสุดท้าย อย่างไรก็ตาม เห็นว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บริหารสูงสุดควรลงมาดูแล เพราะเป็นเรื่องที่ทำลายกระบวนการยุติธรรม แต่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ลอยตัว ไม่พูด ไม่แตะต้องเรื่องนี้ ก็เป็นที่รับรู้กันของสังคมไทยส่วนที่อ้างว่า ระเบียบดังกล่าวเป็นการออกมารองรับกฎกระทรวงที่ออกมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว เห็นว่าโดยปกติการออกกฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมายแม่ จะต้องออกภายใน ๑-๒ ปี ดังนั้นเมื่อ นายสมศักดิ์ ออกกฎกระทรวงมาในปี ๖๓ ระเบียบก็ควรออกภายในวันนั้น ไม่จำเป็นต้องไปจัดประชุม หรือรับฟังความคิดเห็นประชุมกันในองค์กรก็ออกระเบียบได้เลย แต่กลับมาออกในช่วงที่นายทักษิณกลับมารับโทษ เมื่อ ๒๒ ส.ค. และออกมารองรับเพราะคิดว่า นายทักษิณ จะได้ประโยชน์จากการอภัยโทษในวาระสำคัญ แต่เมื่อไม่มี ก็จำเป็นต้องเร่งระเบียบนี้ออกมาเพื่อรองรับใช่หรือไม่