วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

ศาลรัฐธรรมนูญให้ “พิธา-ก้าวไกล” ขยายเวลายื่นข้อเท็จจริง นัดพิจารณา-ไต่สวน ๒๐ ธ.ค.

ศาลรัฐธรรมนูญ อนุญาตให้ “พิธา-พรรคก้าวไกล” ขยายเวลายื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริง คดีล้มล้างการปกครอง และคดีหุ้นไอทีวี พร้อมนัดพิจารณา-ไต่สวน ๒๐ ธ.ค. ๖๖วันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๖ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่ผลการพิจารณา หลังประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญ ๓ เรื่อง โดยมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ๒ เรื่อง คือ กรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ ว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ ๑) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ ๒) ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง หรือไม่ คดีอยู่ในระหว่างศาลรัฐธรรมนูญให้พยานบุคคลของผู้ถูกร้องทั้งสอง และพยานผู้เชี่ยวชาญจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็น ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ ซึ่งพยานบุคคลของผู้ถูกร้องทั้งสองยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ ขอขยายระยะเวลายื่นบันทึกถ้อยคำข้อเท็จจริงหรือความเห็นออกไปอีก ๑๐ นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้ว อนุญาตให้ขยายระยะเวลาถึงวันจันทร์ที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ และกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๓๐ น.ขณะที่อีกเรื่อง เป็นกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณี นายพิธา (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๑ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๓) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคสอง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องว่างลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๕ วรรคหนึ่ง (๒) และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยและสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนับแต่วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๖ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ต่อมาผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๖ และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติม ครั้งที่ ๑ ฉบับลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๖ผลการพิจารณาเป็นดังนี้ ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตตามที่ผู้ถูกร้องขอขยายระยะเวลาจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นล่วงหน้าโดยให้จัดส่งภายในวันอังคารที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๖๔ วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องสำเนาแก่คู่กรณีฝ่ายอื่นเพื่อทราบก่อนวันนัดไต่สวนไม่น้อยกว่า ๗ วัน จากนั้นอภิปรายเตรียมการไต่สวนในวันพุธที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖ในช่วงท้าย สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ระบุไว้ด้วยว่า การไต่สวนทั้ง ๒ เรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นเข้าร่วมรับฟังการไต่สวน.tt tttt tt