วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

ศาล แจงคดี "ยิ่งลักษณ์" ศาลฎีกาใช้เวลาพิพากษา ๑ ปี ๕ เดือนเศษ ไม่ใช่ ๑๒ ปี

ศาลยุติธรรม แจงคดี “ยิ่งลักษณ์” ศาลฎีกาใช้เวลาพิจารณาพิพากษาเพียง ๑ ปี ๕ เดือนเศษ ไม่ได้ใช้เวลานาน ๑๒ ปี ตามที่สื่อบางแห่งเสนอ หากนับตั้งแต่ไต่สวนคดี จนถึงวันตัดสิน ใช้เวลาเพียง ๗ เดือน เท่านั้นวันที่ ๒๙ ธ.ค. ๒๕๖๖ นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ตามที่สื่อโทรทัศน์บางแห่งมีการนำเสนอข่าวและให้ความเห็นไปในทำนองที่ทำให้สาธารณชนอาจเข้าใจไปว่า การดำเนินคดี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้เวลาเนิ่นนานทำให้มีผลเหมือน “การอำนวยความยุติธรรมที่ล่าช้าเป็นการปฏิเสธความยุติธรรม” ซึ่งได้ใช้คำในภาษาอังกฤษว่า “Justice delayed is justice denied.” อันอาจทำให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนถึงการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ความจริงแล้วใช้เวลาพิจารณาพิพากษาคดีนี้เพียง ๑ ปี ๕ เดือนเศษเท่านั้น ไม่ได้ใช้เวลานานตามที่เป็นข่าวคดีดังกล่าวเป็นคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งโจทก์ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ศาลฯ จึงได้รับไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อม. ๑๑/๒๕๖๕ และได้มีการดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยนัดพิจารณาครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ นัดตรวจพยานหลักฐานเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ และนัดไต่สวนเมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เดิมคดีนี้นัดฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ แต่นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ ซึ่งเป็นองค์คณะอยู่ด้วยคนหนึ่งได้ถึงแก่กรรม ทำให้ต้องแต่งตั้งองค์คณะผู้พิพากษาใหม่มาทดแทนและได้มีการนัดฟังคำพิพากษาใหม่ และได้อ่านคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๖ การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้จึงเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการกำหนดระยะเวลาการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรม พ.ศ.๒๕๖๖ กำหนดไว้แล้วว่าคดีที่ต้องทำการไต่สวนหรือสืบพยานในศาลฎีกา ศาลจะพิจารณาพิพากษาคดีให้แล้วเสร็จภายใน ๑ ปี นับแต่วันเริ่มไต่สวนหรือสืบพยาน แต่ศาลฯ พิพากษาคดีนี้เพียงภายใน ๗ เดือนนับแต่วันเริ่มไต่สวนดังนั้น จึงขอชี้แจงให้สื่อมวลชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อจะได้นำเสนอข่าวให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ได้เร่งรัดการพิจารณาพิพากษาให้คู่ความทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมภายในระยะเวลาอันรวดเร็วแล้ว