“สมศักดิ์ เทพสุทิน” นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม. ระบุ นายกฯ เดินสายต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายเรื่องเล็ก หากเทียบกับโอกาส-ผลประโยชน์ที่ไทยได้รับ ชี้นายกฯ นำผ้าขาวม้าสู่สายตาต่างประเทศ สะท้อนคิดถึงประชาชนเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๑๒ มี.ค. ๒๕๖๗ ที่ห้องประชุม ๕๐๑ ตึกบัญชาการ ๑ ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีอย่างเป็นทางการ และกิจกรรมคู่ขนาน ระหว่างวันที่ ๗-๑๔ มี.ค. โดยมีรัฐมนตรีแจ้งลาการประชุม ๖ คน ได้แก่ ๑. นายเศรษฐา ๒. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ๓. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๔. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ๕. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการแรงงาน และ ๖. นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศ ขณะที่นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในการเดินทางไปต่างประเทศของนายเศรษฐาว่าไม่คุ้มกับงบประมาณในการใช้จ่าย ขณะที่ผลงานในประเทศของรัฐบาลยังไม่ปรากฏ ว่า ทุกคนก็ทราบดีว่างบประมาณปี ๒๕๖๗ มีความล่าช้า ซึ่งกว่าจะใช้ได้ก็ประมาณกลางเดือน เม.ย. แล้ว ที่ไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้งบฯ จำนวนมากนั้น ถือเป็นการขัดแย้งกับข้อเท็จจริง การที่นายกฯ เดินทางไปต่างประเทศประมาณ ๑๖ ประเทศ และเดินทางไปลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในประเทศไทยถือเป็นมิติใหม่ของนายกฯ ในการเปิดประเด็นให้เห็นถึงแนวคิดในเรื่องการปรับเปลี่ยนของงานด้านต่างๆ ให้เกิดช่องทางการรับรู้ การสร้างงาน และทำให้เกิดการลงทุนเข้ามาภายในประเทศของเรา ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เหมือนกรณีของรัฐมนตรีอื่นๆก็เช่นกัน หากนั่งทำงานในกระทรวงเพียงอย่างเดียวและไม่มีความคิดอะไรใหม่ๆ เข้ามาเลย ประเทศจะอยู่กับที่ การใช้งบฯ จะเป็นรูปแบบเดิม ซึ่งไม่สามารถขยายความเจริญไม่ว่าเรื่องของการลงทุนหรือรายได้ที่จะเข้ามาสู่ประเทศ “ถ้านายกฯ ไม่เปิดแนวทางหรือประเด็นใหม่ๆ ให้มากๆ เราจะไปหารายได้เข้าประเทศจำนวนมากได้อย่างไร อีกทั้งจะมีการพัฒนาประเทศได้อย่างไร และถ้านายกฯ ทำงานต่อไปให้ครบ ๔ ปี ก็จะมีข้อมูลจำนวนมากจากการเดินทางไปต่างประเทศและนำมาพัฒนา ซึ่งจะเป็นผลบวกอย่างมาก ถ้ามัวจะไปคิดว่าในประเทศยังไม่มีเงินใช้จ่ายแต่กลับต้องไปเสียค่าเครื่องบิน ค่าที่พักในการเดินทางไปต่างประเทศ มันเป็นเรื่องที่เล็กมากสำหรับค่าใช้จ่ายตรงนี้ หากเปรียบเทียบกับโอกาสและผลประโยชน์ที่จะได้มา สิ่งเหล่านี้ไม่น่าจะไปพูดหรือเสียดสี” นายสมศักดิ์ กล่าวนายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีคนไปพูดเสียดสีกรณีที่นายกฯ นำผ้าขาวม้าไปใช้เพื่อให้ชาวต่างประเทศได้เห็น ส่วนตัวมองว่าการที่นายกฯ เดินทางไปต่างจังหวัดแล้วมีประชาชนนำผ้าขาวม้ามามอบให้ รวมทั้งของฝากอื่นๆ การที่นายกฯ นำผ้าขาวม้าติดตัวไปต่างประเทศด้วยแสดงให้เห็นว่านายกฯ มีความคิดถึงพี่น้องประชาชน คิดถึงคนต่างจังหวัด แม้ตัวจะเดินทางไปอยู่ต่างประเทศ ไปทำงาน แต่ใจก็ยังนึกถึงชาวบ้าน ตนคิดว่าเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งที่นายกฯ มีแนวคิดและไอเดียในการพูดคุยกับพี่น้องประชาชนว่าแม้ตัวจะไปต่างประเทศแต่ยังไม่ลืมคนไทย สร้างความรู้สึกของความใกล้ชิดตลอดเวลาเพราะมีผ้าขาวม้าติดตัวไป
