เมื่อวันที่ ๑๒ ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อสหรัฐฯ และอังกฤษ เปิดฉากโจมตีทางอากาศและทางทะเลอย่างน้อย ๖๐ เป้าหมาย ใน ๑๖ พื้นที่ของเยเมน โดยได้รับการสนับสนุนจากออสเตรเลีย บาห์เรน แคนาดา และเนเธอร์แลนด์ ในช่วงกลางดึกของวันที่ ๑๑ ม.ค. ที่ผ่านมา หลังกองกำลังติดอาวุธกลุ่มฮูตีในเยเมนทำการโจมตีเรือขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่องในบริเวณทะเลแดง ซึ่งเป็นช่องทางการขนส่งทางทะเลที่สำคัญของนานาชาติ ตั้งแต่เกิดการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาเมื่อ ๗ ต.ค. ปีที่แล้ววันเดียวกัน พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า การโจมตีทางอากาศร่วมระหว่างสหรัฐฯกับอังกฤษมีเป้าหมายเพื่อทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของกลุ่มฮูตีในเยเมน เช่น โดรน จรวด ระบบเรดาร์ ส่วนนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการป้องกันตัวเองของสหรัฐฯ กับอังกฤษ นายไบเดนยังเผยอีกว่า สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรจะไม่ทนต่อการคุกคามใดๆ ที่อาจเป็นการบั่นทอนเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลแดง รวมถึงการกระทำที่อาจเป็นอันตรายแก่พลเรือน ทั้งนี้ นายไบเดนย้ำว่า พร้อมยกระดับการสู้รบเมื่อจำเป็นด้านพลจัตวายาห์ยา ซารี โฆษกกองกำลังติดอาวุธกลุ่มฮูตี เปิดเผยว่า การปฏิบัติการของสหรัฐฯ และอังกฤษเกิดขึ้น ๗๓ ครั้ง ในหลายพื้นที่ของเยเมน อาทิ กรุงซานอา และจังหวัดซาดา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยเมน ส่งผลให้มีนักรบกลุ่มฮูตีเสียชีวิต ๕ ศพ บาดเจ็บอีก ๖ คน กระนั้นกลุ่มฮูตีจะยังคงปิดกั้นเส้นทางการเดินเรือในบริเวณทะเลแดง และทะเลอาหรับ ทางเหนือของมหาสมุทรอินเดีย และย้ำจะโจมตีเรือลำใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลต่อไปเพื่อกดดันอิสราเอล อีกทั้งกลุ่มฮูตีจะมีมาตรการตอบโต้ปฏิบัติการดังกล่าวอย่างแน่นอน ขณะที่รัฐบาลอิหร่าน กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และกลุ่มฮามาสประณามสหรัฐฯ และอังกฤษอย่างรุนแรงสำหรับความคืบหน้าการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาที่ดำเนินมาเกือบ ๑๐๐ วัน กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์ เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๕๑ ศพ ใน ๒๔ ชม. หลังอิสราเอล ทิ้งระเบิดบริเวณบ้านเรือนของประชาชนในเมืองเดียร์ อัล-บาลาห์ ตอนกลางของฉนวนกาซา รวมถึงโจมตีในหลายพื้นที่ของฉนวนกาซา ส่งผลให้ตั้งแต่เกิดการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับฮามาสเมื่อ ๗ ต.ค. ปีที่แล้ว มีพลเรือนปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย ๒๓,๗๐๘ ศพ บาดเจ็บมากกว่า ๖๐,๐๐๐ คน.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
