พายุฤดูหนาวลูกใหญ่ลูกที่ ๓ กำลังก่อตัวในสหรัฐฯ และคาดกันว่ามันจะทำให้เกิดสภาพอากาศเลวร้ายและอุณหภูมิหนาวเหน็บไปทั่วประเทศ ตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ ม.ค. ๒๕๖๗ สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NWS) ออกคำเตือนสภาพอากาศเลวร้ายหลากหลายประเภทตั้งแต่ พายุหิมะ, ลูกเห็บ ไปจนถึงพายุฟ้าคะนองและทอร์นาโด ในเกือบทุกรัฐทั่วประเทศ เนื่องจากพายุฤดูหนาวลูกใหญ่กำลังก่อตัวขึ้นในสหรัฐฯพายุดังกล่าวนับเป็นพายุฤดูหนาวลูกที่ ๓ ที่สหรัฐฯ เผชิญในสัปดาห์นี้ โดย NWS ออกคำเตือนลมกระโชกแรงความเร็วสูงสุด ๘๐ กม./ชม. ตั้งแต่รัฐเทกซัสไปจนถึงนิวยอร์ก ขณะที่คาดว่า รัฐไอโอวาจะมีลมหนาวเข้าปะทะจนทำให้อุณหภูมิที่ผิวหนังมนุษย์รู้สึกได้ (wind chill) ลดลงต่ำสุดถึง -๔๒ องศาเซลเซียสขณะที่บางส่วนของรัฐเทกซัสอาจเผชิญ wind chill อุณหภูมิต่ำสุด -๓๒ องศาเซลเซียส ตลอดวันเสาร์ ซึ่ง NWS เตือนให้ประชาชนระวังเป็นแผลน้ำแข็งกัดและภาวะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำ ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยของรัฐเทกซัสจะอยู่ที่ราว -๙ องศาเซลเซียส ทำให้เกิดความกังวลเรื่องการจ่ายพลังงาน เพราะเคยเกิดเหตุระบบไฟฟ้าล่มมาแล้วในปี ๒๕๖๔อย่างไรก็ตาม นาย เกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัสออกมารับรองกับประชาชนว่า เหตุไฟดับต่อเนื่องหลายวันเหมือนเมื่อ ๒ ปีก่อน ไม่น่าที่จะเกิดขึ้นอีก และพลังงานจะมีให้ใช้ตลอดช่วงพายุฤดูหนาวนี้ เนื่องจากพวกเขาเตรียมเครื่องปั่นไฟสำรองและเชื้อเพลิงเอาไว้อย่างเพียงพอแล้วส่วนในพื้นที่รอยต่อรัฐเทกซัส, อาร์คันซอ และลุยเซียนา NWS เตือนว่า ความเสี่ยงเกิดความเสียหายจากลมแรง, ลูกเห็บขนาดใหญ่ และอาจมีพายุทอร์นาโดรุนแรงขณะเดียวกัน ทางเหนือของประเทศ คาดว่าจะมีอุณหภูมิลดต่ำทุบสถิติ จากลมหนาวยะเยือกที่พัดเข้ามา และอาจมีหิมะตกหนากว่า ๑ ฟุต ในบางพื้นที่เช่น ตอนเหนือของรัฐมิชิแกน และอาจมีหิมะตกสูงราว ๘ นิ้ว ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเกิดไฟดับกระทบผู้อยู่อาศัยกว่า ๘๐,๐๐๐ ราย เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่รัฐมิสซูรี อาจเกิด wind chill อุณหภูมิต่ำสุด -๓๕ องศาเซลเซียส กับหิมะตก ๒-๔ นิ้ว ลมกระโชกแรง ๗๒ กม./ชม. โดยลมหนาวที่เข้าปะทะอาจทำให้เกิดแผนน้ำแข็งกัดได้หากปล่อยให้สัมผัสกับผิวหนังนานเพียง ๑๐ นาที ส่วนที่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ตั้งแต่รัฐนอร์ทดาโกตา ไปจนถึงวอชิงตัน ลงไปจนถึงเนบราสกาและแคนซัส อาจเกิด wind chill อุณหภูมิ -๔๘ ถึง -๓๗ องศาเซลเซียสที่เกาะฮาวาย ทางการเตือนให้ระวังลมกระโชกแรงความเร็วลมถึง ๑๒๐ กม./ชม. แต่บางพื้นที่ในสหรัฐฯ ก็เริ่มได้รับผลกระทบจากลมแรงกันแล้ว เช่นที่เมืองฟอร์ต ไมเยอร์ส รัฐฟอลริดา กำลังเผชิญลมกระโชกความเร็วกว่า ๔๘ กม./ชม. และอาจทำให้เกิดคลื่นพายุหนุนซัดฝั่งสูงถึง ๑๘ ฟุตติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : bbc