วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

สอบโยงรมต.-อธิบดี หมูเถื่อนหมื่นล้าน “ดีเอสไอ” เพิ่ม ๒ คดี บี้เส้นทางการเงิน

03 ม.ค. 2024
58

หัวหน้าทีมสอบสวนคดีหมูเถื่อนดีเอสไอนัดประชุมทีมงานก่อนเผยรับคดีพิเศษนำเข้าซากเนื้อสัตว์เถื่อนเพิ่มอีก ๒ คดี คดีแรกเป็นการขยายผลคดีนำเข้าหมูเถื่อน ๑๖๑ ตู้ หลังพบชิปปิ้ง ๑๐ บริษัทสำแดงเท็จนำตู้คอนเทนเนอร์ออกไปก่อนหน้า ๒,๓๘๘ ตู้ อีกคดีจ่อเล่นงานองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่กลุ่มใหม่เกี่ยวข้องกับตู้คอนเทนเนอร์เนื้อสัตว์เถื่อนกว่า ๑ หมื่นตู้ และไม่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน แฉมีหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย ๓ หน่วย อยู่ระหว่างประสาน ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงระดับอธิบดีหรือรัฐมนตรีหรือไม่ดีเอสไอรับอีก ๒ คดีพิเศษนำเข้าซากเนื้อสัตว์เถื่อนเปิดเผย เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๓ ม.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อนเปิดเผยหลังประชุมทีมสอบสวนวางกรอบแนวทางการสอบสวน กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบตามกฎหมาย หรือคดีหมูเถื่อนว่า วันนี้ได้ประชุมรับเป็นคดีพิเศษใหม่เพิ่มเติมอีก ๒ คดี ประกอบด้วยคดีพิเศษที่ ๑๒๖/๒๕๖๖ กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และได้นำออกไปจำหน่ายตามท้องตลาดแล้ว และคดีพิเศษที่ ๑๒๗/๒๕๖๖ กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมายพ.ต.ต.ณฐพลกล่าวว่า คดีพิเศษที่ ๑๒๖/๒๕๖๖ พบว่าในกลุ่มบริษัทชิปปิ้งเอกชน ๑๐ แห่งที่ดำเนินคดีไปนั้นได้นำตู้คอนเทนเนอร์ออกไปก่อนหน้านี้ ๒,๓๘๘ ตู้ เป็นการสำแดงเท็จเป็นสินค้าประเภทเนื้อปลาแช่แข็ง พลาสติกโพลิเมอร์ และไข่ต้มสุก ดีเอสไอจะพิสูจน์ว่าตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้ที่ถูกนำออกไปแล้วแท้จริงเป็นตู้สินค้าประเภทใด และได้สำแดงก่อนออกจากท่าเรือเป็นสินค้าประเภทใด คดีพิเศษที่ ๑๒๖/๒๕๖๖ เป็นการขยายผลมาจากคดีพิเศษที่ ๕๙/๒๕๖๖ หรือคดีหมูเถื่อน ๑๖๑ ตู้ ส่วนอีกคดีพิเศษที่ดีเอสไอรับเพิ่มวันนี้คือ คดีพิเศษที่ ๑๒๗/๒๕๖๖ หลักๆจะดำเนินคดีกับองค์กรอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและอาชีพของเกษตรกร เป็นกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่กลุ่มใหม่เกี่ยวข้องกับตู้คอนเทนเนอร์บรรจุเนื้อสัตว์เถื่อนต่างๆกว่า ๑๐,๐๐๐ ตู้ เป็นกลุ่มที่ดีเอสไอไม่เคยดำเนินคดีมาก่อน ได้แก่ กลุ่มนายทุนชาวไทยชาวจีน บริษัทชิปปิ้งเอกชน เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง พบว่ามีการลักลอบนำเข้าตั้งแต่ปี ๒๕๖๓-ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง เนื้อวัวแช่แข็ง ชิ้นส่วนไก่ จะดำเนินการตรวจสอบต่อไปพ.ต.ต.ณฐพลเผยอีกว่า ในกลุ่มคดีพิเศษที่ ๑๒๖/๒๕๖๖ พบกลุ่มที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น ๙ บริษัท เป็นกลุ่มเดิมที่ดีเอสไอเคยดำเนินการทางคดีไปก่อนหน้านี้ และได้นำตู้คอนเทนเนอร์ออกไปจัดจำหน่ายเรียบร้อย ประกอบด้วย ๑.บริษัท อาร์.ที.เอ็นโอเวอร์ซี จำกัด ๒.บริษัท เดอะ คิวบ์ โลจิสติกส์ ๓.บริษัท ซี เวิร์ล โฟรเซ่น ฟูด ๔.บริษัท มายเฮ้าส์ เทรดดิ้ง จำกัด ๕.บริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด ๖.บริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด ๗.บริษัท สมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ๘.ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหัสวรรษ ฟูดส์ และ ๙.ห้างหุ้นส่วนจำกัด กันตา ไทยโฟรเซ่นฟิช มีทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา รวมถึงอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้ามาเกี่ยวข้องในขั้นตอนการนำเข้าและส่งออก รวมแล้วอาจมากกว่า ๑๐ ราย เพราะในคดีก่อนหน้านี้ก็มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกว่า ๑๓ ราย ส่วนในกลุ่มคดีพิเศษที่ ๑๒๗/๒๕๖๖ คาดว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องจากหลายแวดวงจำนวนมากหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อนกล่าวต่อว่า ได้แบ่งหน้าที่กันในทีมไปตรวจสอบว่ามีใครเกี่ยวข้อง รวมถึงได้ประสานไปยัง ปปง.ขอตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะพบว่ากลุ่มนี้ได้โอนเงินออกไปยังบริษัทจำหน่ายชิ้นส่วนเนื้อสัตว์แช่แข็งในต่างประเทศ อีกทั้งมั่นใจว่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหลายราย เพราะจำนวนตู้คอนเทเนอร์นั้นมากกว่า ๑๐,๐๐๐ ตู้ ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว และชิ้นส่วนไก่ อย่างไรก็ตาม กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่ดีเอสไอดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้อาจมาเกี่ยวข้องด้วย แต่จะต้องดูด้วยว่ากลุ่มที่กระทำผิดได้ใช้เจ้าหน้าที่รัฐรายใดบ้าง เพราะที่ผ่านมาดีเอสไอได้ประจักษ์พยานสำคัญในคดีเข้าให้ข้อมูลพอสมควรจึงพบว่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐรายใดบ้างพ.ต.ต.ณฐพลกล่าวถึงมูลค่าความเสียหายว่า ในคดีพิเศษที่ ๑๒๗/๒๕๖๖ เบื้องต้นพบมูลค่าความเสียหาย ๖,๐๐๐-๗,๐๐๐ ล้านบาท หากคำนวณจากจำนวนตู้คอนเทเนอร์กว่า ๑๐,๐๐๐ ตู้ ความเสียหาย ๑ ตู้ ก็ตกประมาณ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนจำนวนตู้คอนเทนเนอร์จะเป็นสินค้าประเภทใดบ้างอยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่แน่ชัดว่ามีการสำแดงเท็จ หลังจากนี้ตลอดสัปดาห์จะเชิญพยานเข้าให้ถ้อยคำ ๔ ราย เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ๒ ราย และบริษัทชิปปิ้งเอกชน ๒ ราย และจะให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย อีก ๒ สำนวนคดีที่เตรียมส่ง ป.ป.ช. ได้เสนอให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีฯ ตรวจสอบแล้วคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะนำส่งได้พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวต่อว่า วันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นคดีใหม่อีก ๒ คดี เน้นตรวจสอบการนำเข้า วิธีการนำเข้า โควตาที่แต่ละบริษัทได้รับ และบริษัทชิปปิ้งเอกชนที่เกี่ยวข้องจะทยอยสอบปากคำ ส่วนการทำลายพยานหลักฐานยังไม่พบ เพราะทุกอย่างจะปรากฏด้วยพยานหลักฐาน เช่น ใบบีแอล หรือ Bill of Lading (B/L) หรือที่เรียกกันว่าใบตราส่งสินค้า และหลักฐานการเคลื่อนย้ายต่างๆ และเนื่องด้วยเป็นตู้ที่ออกไปแล้วจะใช้กระบวนการทางเทคโนโลยี คือ GPS TRACKING เพื่อตรวจสอบว่ารถขนสินค้าได้ออกจากท่าเรือต่างๆไปหยุดที่จุดไหนแต่ละจุดนานเท่าใด ถ้าพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครจะไม่ละเว้นพร้อมดำเนินคดีทั้งหมด ในกลุ่ม ๑๐,๐๐๐ กว่าตู้นี้ พบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย ๓ หน่วย คือ กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง ต้องไปตรวจสอบว่ามีใครบ้างระดับใด ส่วนนักการเมืองจะต้องตรวจสอบ เช่นเดียวกัน ว่าจะเชื่อมโยงถึงระดับอธิบดีกรม หรือรัฐมนตรีหรือไม่ ทุกอย่างต้องดูพยานหลักฐานประกอบ คำให้การของพยานและผู้ต้องหาทั้งหมดก่อนอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่